วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565

‘ธเนตร’ ประกาศลงสมัครผู้ว่า กทม. ชูแนวคิดแก้รถติด ย้ายที่พักใกล้ที่ทำงาน เพิ่มรายได้ 10 เท่าไม่กระทบงานประจำด้วยธุรกิจเครือข่าย แก้ฝุ่นพิษ ปลูก Silver Oak คนละต้น



วันนี้ (30 มี.ค. 65) นายธเนตร วงษา ประกาศลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามอิสระ ชูนโยบาย “รถไม่ติด เศรษฐกิจดี สุขภาพแข็งแรง” แก้ปัญหารถติด ด้วยการย้ายที่อยู่ไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน แนะแนวทางเพิ่มรายได้ให้คนเมือง 10 เท่า โดยไม่กระทบกับงานประจำ ด้วยการทำธุรกิจเครือข่ายที่มีคุณภาถ และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น pm2.5 



"ธเนตร วงษา” แถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครผู้ว่า กทม. ชูแนวคิด แก้รถติด ได้แน่นอน ภายใน 21 วัน หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยตนทำได้มา 38 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนยังไม่ร่ำรวย คือวิธี “ย้ายที่พักอาศัย ไปอยู่ใกล้ที่ทำงาน” เพราะความจริงในทุกสถานที่แม้จะเป็นย่านเศรษฐกิจ ก็จะมีที่พักที่มีราคาที่เหมาะสม ย้ำคือความท้าทาย ที่คนเป็นผู้นำจะทำได้ พร้อมยกตัวอย่างเช่นผู้ประกอบอาชีพพนักงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารของตน ก็มีห้องพักอยู่ใกล้ร้าน ไม่รถติด หรือผู้ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่คอนโดของตน แถบพระราม 9 ก็มีที่พักอยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องทนรถติด เชื่อว่าผู้คนกลุ่มนี้ทำได้ ทุกคนก็ทำได้


นอกจากนี้ มีนโยบายแก้ปัญหาฝุ่นพิษ pm2.5 จากการไปเห็นวิธีการนี้ที่ต่างประเทศ คือการให้คนกรุงเทพปลูกต้น silver oak คนละ 1 ต้น รวม 10 ล้านต้น เขียนชื่อของตัวเอง เพื่อสร้างแบรนด์ ให้ต้นไม้ฟอกอากาศ กรุงเทพอาจมีอากาศที่ดีแบบประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้


นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ไม่กังวลที่ลงสมัครผู้ว่า เพราะมีผลงาน ชีวิตประสบความสำเร็จ และอยากส่งต่อแนวคิดให้คน กทม.มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้คนจะมองว่าเป็นไม้ประดับก็ไม่กังวล พร้อมให้ผู้ได้รับเลือกนำแนวนโยบายของตนไปปรับใช้ได้

พร้อมแนะว่า ให้คนกรุงเทพ เลือกผู้ว่าฯ ที่มีคุณสมบัติ 5 ข้อ ต่อไปนี้ ได้แก่ เก่ง เป็นคนดี มีความสุข มีสัจจะ และไม่คอร์รัปชั่น

“ทุกปัญหามีทางออก คนเราขอให้มีเงิน มีงบประมาณ ไม่คอร์รัปชั่น ทุกอย่างจบ” นายเธตร กล่าว


สำหรับนายเธนตร มีภูมิลำเนาที่จังหวัดกาญจนบุรี ศึกษาที่จังหวัดจันทบุรี และทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเมื่อปี 2527 ลาออกปี 2537 ทำธุรกิจเครือข่ายจนถึงปัจจุบัน และมีธุรกิจร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ เคยเขียนหนังสือ “ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย” มียอดตีพิมพ์กว่า 300,000

ทีมข่าวภาคสนาม/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น