วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

พิธีมอบรางวัลให้บุคคลที่ทำประโยชน์ให้สังคม เพิ่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำความดีเพื่อสังคม และประเทศชาติ

 

 เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ โรงแรมอมารี ดอนเมือง กรุงเทพ หน่วยงานภาครัฐ หลายหน่วยงาน มอบรางวัลให้บุคคลที่ทำประโยชน์ให้สังคม นหลายสาขาอาชีพ อาทิ พระภิกษุสงฆ์ นักธุรกิจ ข้าราชการ ทนายความ และสื่อมวลชน เพิ่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำความดีเพื่อสังคมต่อไป


โดยปีนี้มีรางวัลอันทรงเกียรติหลายรางวัล อาทิรางวัลสุดยอดธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ความสำเร็จนักธุรกิจระดับอาเซียน รางวัลสุดยอดผู้นำนักบริหาร รางวัลสิงห์ทอง รางวัลพระธรรมจักร รางวัลข้าราชการไทยตัวอย่าง รางวัลแห่งชาติ และรางวัลบุคคลแห่งชาติ โดยพระครูวิทิตอรรถการ (ชม เตชธมโม บุตรศรี) เจ้าอาวาสวัดโคกมะตูม เจ้าคณะตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอหนองแค จ.สระบุรีได้รับการพิจารณาการคัดเลือกเข้ารับประทานรางวัลแห่งชาติ Thai Awards สาขา นักพัฒนาและทำคุณประโยชน์ต่อศาสนาและสังคมดีเด่น ซึ่งสร้างความดีใจและภูมิใจให้กับพระครูเป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจอุทิศตนช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เพิ่อบรรเทาความทุกข์ และจะทำความดีเพื่อสังคมต่อไป

บรรดานักธุรกิจต่างรู้สึกดีใจ ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติครั้งนี้ เพราะทุกคนต่างทุ่มเททำธุรกิจที่เน้นช่วยเหลือสังคม และประชาชนโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด -​19​ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค

เช่นเดียวกับ ทนายความ และข้าราชการ ที่ดีใจ ภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัล เพราะตลอดเวลาการทำงานทุ่มเททำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆและตั้งปณิธานจะทำความดีต่อไป

ทุกรางวัลสร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกคนและพร้อมที่จะทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

ทีมข่าวภาคสนาม/รายงาน

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565

ชาวบ้านผูกคอ !!!! ร้องขอความเป็นธรรมกระทรวงยุติธรรมหากไม่รับเรื่องร้องเรียน


      นายชาตรี วงศ์เกตุ ชาวบ้านตำบลน้ำตก อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เดินทางมาพร้อมกับนายสุวรรณ บัวโรย ประธานศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สมาคมส่งเสริมคุณธรรมตำรวจและช่วยเหลือประชาชน และนายปริญญา จิตต์เจษฎาภรณ์ ทนายความ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม

     โดยนายชาตรี วงศ์เกตุ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากที่ดินของตนถูกเจ้าหน้าที่บังคับคดีนำหมายศาลมายังที่ดินพิพาท เพื่อที่จะรื้อแนวรั้วกั้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และได้ทำการรื้อรั้วแนวกั้นไปแล้ว พร้อมทั้งได้ทำการรังวัดที่ดินแนวเขตใหม่ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลังจากที่ได้รังวัดที่ดินใหม่แล้ว ปรากฎว่าที่ดินของตนเองหายไปเกือบ 4 ไร่แต่เนื้อที่ของคู่กรณีที่มีรั้วติดต่อกันมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น


      ตนเชื่อในพยานหลักฐานและพยานบุคคลเกี่ยวกับที่ดินพิพาทว่าเป็นของตนเองแน่นอน เพราะตนได้ซื้อที่ดินนางสาวอรวรรณ ยอดพรมมา ซึ่งเป็นตัวแทนขาย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 และได้มีการแจ้งทำการล้อมรั้วเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 ที่สถานีตำรวจภูธรนาน้อย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน โดยมีพันตำรวจโทวิฑูร ชัยวุฒิ พนักงานสอบสวนเวรรับทราบ แล้วมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน   และขณะที่ทำการตั้งแนวรั้วนางสาวอรวรรณก็เป็นผู้ชี้เขตแดนให้ตั้งแนวรั้ว โดยมีนายสะอาด มาคำ ซึ่งเป็นกำนันในขณะนั้นร่วมอยู่ด้วย ซึ่งแนวรั้วดังกล่าวก็มีมาก่อนที่คู่กรณีมาซื้อที่ดินติดกันเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า แนวรั้วนั้นอยู่ในที่ดินของตน และตนก็ได้ทำหนังสือบันทึกการอุทิศ/บริจาคที่ดิน ในการวางท่อสาธารณประโยชน์ยาว 800 เมตร กับนางวนิดาภรณ์ ทิพน์ปาละ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล รักษาราชการแทนปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล วันที่ 21 สิงหาคม 2560 

โดยมีนายชยุต จิตรานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำตก และเจ้าหน้าที่ของ อบต.น้ำตก พร้อมด้วยลูกบ้านจำนวน 50 คน ได้มาขอวางท่อสระน้ำประโยชน์ ดังนั้นที่ดินดังกล่าวก็ต้องเป็นของตน รวมทั้ง ตนก็มีพยานหลักฐานสำเนาภาพถ่ายแนวเขตป่าไม้ของจังหวัดน่านปี 2556 และ 2562

อีกทั้งตนเองเคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคู่กรณีในคดีที่ดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ศาลจังหวัดมีคำพิพากษาว่าคู่กรณีมีความผิดฐานบุกรุก มีโทษจำคุก และให้ชดใช้ค่าเสียหาย ถึงแน่ใจว่าที่ดินนั้นเป็นของตนอย่างแน่นอน



    จากกรณีดังกล่าว ที่ดินของตนหายไปเกือบ 4 ไร่ ตนจึงอยากขอให้มีการรังวัดที่ดินทั้ง 3 แปลง ทั้งที่ดินของตนกับคู่กรณีใหม่ จะได้ทราบว่าที่ดินของแต่ละคนนั้นมีอาณาเขตพื้นที่ถึงตรงไหน แต่คู่กรณีกลับไม่กล้าที่จะให้รังวัดที่ดิน 

      แต่เมื่อตนเองได้ไปร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน และอีกหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่ได้ความเป็นธรรม เรื่องเงียบหาย วันนี้ตนจึงได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมที่กระทรวงยุติธรรม แต่ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่นั้น จู่ๆ นายชาตรีก็เดินไปผูกคอกับกำแพงรั้วกระทรวงยุติธรรม พร้อมกล่าวทั้งนักตาว่า ถ้าวันนี้ไม่มีใครมารับหนังสือร้องเรียน ตนจะผูกคอตายอยู่ที่นี่ ทำให้นักข่าวต้องค่อยๆ เกลี่ยกล่อมให้นายชาตรีใจเย็นๆ จนมีนางสาวศกลวรรณ ชัยภัคดี หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไปและกลุ่มงานนิติการ 3 ออกมาพูดคุย พร้อมทั้งเจรจาให้นายชาตรีสบายใจ และเชิญเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ข้างใน เพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป

      หลังจากที่ทราบละเอียดต่างๆ แล้ว นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์  หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ก็ได้มารับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายชาตรี วงศ์เกตุ พร้อมรับปากว่าจะช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรม โดยทางกระทรวงยุติธรรมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมที่ดินให่ส่งเรื่องไปที่กรมที่ดินจังหวัดน่าน เพื่อให้รังวัดที่ดินพิพาทใหม่อีกครั้ง

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2565

สถาบันพระปกเกล้า จับมือ กกต. จัด “มหกรรมส่งเสริมความรู้การปกครองระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แก่ประชาชน-เยาวชนทั่วประเทศ

 

สถาบันพระปกเกล้า จับมือ กกต. จัด “มหกรรมส่งเสริมความรู้การปกครองระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แก่ประชาชน-เยาวชนทั่วประเทศ 



ระหว่างวันที่ 2-3 เมษายน สถาบันพระปกเกล้า จัดมหกรรมส่งเสริมความรู้  “การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยมี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน , ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้งฯ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง , รศ.ดร. ปกรณ์ ปรียากร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง “ภารกิจการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง (Big rock 1)”  พร้อมวิทยากร และผู้เข้าร่วมการอบรมจากศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง 56 จังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และผู้แทนจากสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) ทั่วประเทศ จับมือกันเดินหน้าเพื่อส่งต่อความรู้สู่ประชาชนทั่วประเทศ 




ศาสตราจารย์วุฒิสาร เปิดเผยว่า สถาบันพระปกเกล้า ในฐานะเป็นสถาบันวิชาการชั้นนำด้านการพัฒนาประชาธิปไตย ได้รับมอบหมายจากคณะปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สำหรับกิจกรรมปฏิรูปที่ 1 หรือ Big Rock 1 การส่งเสริมความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ กิจกรรมปฏิรูปที่ 5 หรือ Big Rock 5 การปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูป ภายใต้แนวคิดสำคัญเพื่อต้องการส่งเสริม

เผยแพร่ความรู้ด้านการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้กับประชาชนและเยาวชน เพื่อให้ประชาชน และเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อเติบโตเป็นพลังที่เข้มแข็งของประเทศชาติและสังคมที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เข้าใจวิถีวัฒนธรรมแบบไทย พร้อมเป็นพลเมืองในอนาคตที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น





สำหรับกิจกรรมปฏิรูปที่ 1 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บรรยายพิเศษ เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาธิปไตยไทย” ที่เป็นความรู้อันเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์



"นาทอง Restaurant" อาหารดี ดนตรีไพเราะ เปิดบริการทุกวันบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง

 "นาทอง Restaurant" อาหารดี ดนตรีไพเราะ เปิดบริการทุกวันบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง




วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2565 เวลา 18.00 น. ที่ "สวนอาหารนาทอง 

Restaurant" เลขที่ 569/1 ถนนประชาอุทิศ (ย่านเหม่งจ๋าย) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 





นายธีรชัย งามนรารัต "ผู้อำนวยการสวนอาหารนาทอง" ให้การต้อนรับ นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.57ปี) และครอบครัวเนื่องในโอกาสมาเยี่ยมเยียนและชมบรรยากาศของร้านอาหารนาทอง ที่มีมาตรฐานระดับ 5 ดาว และร่วมรับประทานอาหาร ที่สวนอาหารนาทอง สถานที่น่านั่งบรรยากาศเป็นกันเอง ทุกค่ำคืนมีเสียงดนตรี ขับกล่อมให้ท่านเพิ่มความสุขในโอกาสที่ท่าน และคนที่คุณรัก มาใช้บริการ อาหารดี ดนตรีไพเราะ สะอาดถูกสุขอนามัย ได้รับการรับรอง ตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) อีกด้วย




เชิญท่านและครอบครัวมาใช้บริการหรือจับจอง มุมสวยๆส่วนตัวได้ที่ 

สวนอาหารนาทอง Restaurants เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น.ถึงเวลา 23.30 น.

โทร. 0-2691-0641-5 

Fax.0-291-1300

หรือเข้าไปเยี่ยมชมใน :www.nathong.com











#อนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย