วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สตม. ประชุมประสานความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์กับ
กรมตรวจคนเข้าเมืองแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

ด้วยเนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ราชอาณาจักรไทย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์
หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
​พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เรียนเชิญ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมประชุมหารือแนวทางการประสานความร่วมมือ
และกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ในวันพุธที่
31 ตุลาคม 2561
​ โดยในเวลา 10.00 นาฬิกา ณ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ได้มีการพบปะกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กับ Pol.Gen.Kirth Chantharith Director General of General Department of Immigration (อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
และในเวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมศรีอรัญ โรงแรมอินโดจีน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จะมีการประชุมหารือแนวทางการประสานความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ของตรวจคนเข้าเมือง แห่งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ให้มีมากยิ่งขึ้น เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ มุ่งสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งสองประเทศ และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุนชาวต่างชาติ ส่งเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนและการพัฒนาศักยภาพด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.









“ไก่ อูกัส”สร้างสีสัน โรงแรม Santiburi
เน้นศักดิ์ศรีความเป็น“สิงห์เอสเตท”

ดีไซน์เนอร์ไทยชื่อดังระดับโลก “ไก่อูกัส” จับมือ กับ “GM.Sabine G. Lambert” หอบความเป็นมืออาชีพในเรื่องของแนวคิดการสร้างสรรค์ มาเนรมิตชุดเสื้อผ้าให้โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ย่านทะเลอันดามัน อันแสนสวยทางภาคใต้ ดังเช่นที่ โรงแรม SANTIBURI  BEACH  RESORT & SPA  ซึ่งเรียกว่าเป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ให้ “สันติบุรี”ดูหนุ่มและสาวขึ้น และมีลูกเล่นมากขึ้น จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว

“ไก่อูกัส” ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการออกแบบตัดเย็บเพื่อการปรับภาพลักษณ์ในปี 2018-2019 โดยล่าสุดได้ออกแบบเสื้อผ้าให้กับแผนกต่างๆของโรงแรม SANTIBURI BEACH RESORT & SPA  โดยได้ไอเดียที่ดีงามสร้างสรรค์ จาก GM ที่เป็นแฟชั่นนิสต้าตัวยงทั้งในแผนก F&B [Food & Beverage] ที่เปรียบเสมือนหัวใจหลัก ซึ่งสีสันที่ใช้กับเสื้อนั้นเป็นโทนสีแดง Burgundy เพื่อให้ผสานเข้ากับรสชาติอาหาร-เครื่องดื่ม

ในส่วนของเสื้อผ้าพนักงานในแผนก H/K [Housekeeping] ใช้โทนอ่อนให้ความรู้สึกนุ่มละมุนด้วยการใช้สีขาว เพื่อให้เข้ากับสีกากีโทน gray ห่วงคล้องกระดุมยังคงรูปแบบความเป็นไทยลานนาดั้งเดิม ส่วนสีผ้าโดดเด่นด้วยการสั่งย้อมเป็นพิเศษให้สมศักดิ์ศรีของ “สิงห์เอสเตท” และที่สำคัญระดับหัวหน้าแผนก HOD. ก็ทรงพลังด้วยสีกรมท่าเข้มเกือบดำและสีขาวผ้าฝ้ายชั้นดีจากญี่ปุ่นที่นำมาแบรคความเอาจริงเอาจังให้กลายเป็นละมุนละม่อมลง ซึ่งในส่วนยูนิฟอร์มและอีกหลายส่วนของ “สันติบุรี บีช รีสอร์ท แอนสปา” ปีนี้ จัดว่าร้อนแรงจริงๆ แม้แต่ในส่วนของวิลล่าใหม่อย่าง The Reserve เริ่มจากห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบร่วมสมัย ชื่อ “แกรนด์รีเสริฟพูลวิลล่า” จำนวน 19 หลัง มีคอกเทลไว้ให้ลูกค้าได้รื่นรมย์กับความอร่อยในแบบ Bartender-Bartendy รวมอาหารเช้าลอยน้ำ Floating breakfast ที่คู่รักสามารถมาสวีทหวานดื่มด่ำอาหารเช้าด้วยกันในชุดว่ายน้ำ

นอกจากนี้ ที่“สันติบุรี บีช รีสอร์ท แอน สปา” ยังเอาใจครอบครัวที่มากับลูกหลายตัวน้อย ในโซน  Kids Club สุด Hip ที่เด็กๆจะต้องกรี๊ดแบบยก Maldives มาไว้ที่นี่กันเลยทีเดียว สีโทนฟ้าอ่อนไล่ไปจนถึงฟ้าเข้ม และ Deeply Blue พร้อมสัญลักษณ์ของ Star fish และ Sea House ที่สดใสซาบซ่านดื่มด่ำไปกับบรรยากาศใต้ทะเลและสัตว์ต่างๆ รวมถึง กิจกรรมที่เด็กๆชอบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นห้องเกมส์ ร้องเพลงและ Painting รวมถึงถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในชุดประจำชาติ ส่วนผุ้ใหญ่ก็มีคลับเฮ้าส์ไว้ออกกำลังกาย เล่นกอล์ฟกับสนามที่สวยที่สุดบนเกาะนี้ เล่นเรือใบ พายเรือคายัค เล่นวินเซิร์ฟ และเจ็ทสกี ฯลฯ ไว้รอต้อนรับลูกค้าทั้งไทย และต่างประเทศอย่างจัดเต็มกันเลยทีเดียว
         
คุณซาบีน แลมเบิร์ต GM. ซึ่งเป็นผู้บริหารคนเก่งของโรงแรมสันติบุรี กล่าวว่าเราควรพัฒนาสิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์และสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าสนใจเข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะความเป็นศิลปะ-แฟชั่น-ดนตรี เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามีความสบายใจเมื่อมาใช้บริการ และสามารถบอกต่อไปยังลูกค้าชาวต่างชาติ ให้มาซึมซับกับความอบอุ่นสบายใจของสันติบุรีแห่งนี้ และต้องขอขอบคุณ คุณไก่ อูกัส ที่ได้มาออกแบบเสื้อผ้ายูนิฟอร์มให้กับพนักงานของสันติบุรี

“เหตุผลที่เลือกคุณ “ไก่ อูกัส”มาช่วยออกแบบยูนิฟอร์มให้พนักงานของสันติบุรี เพราะคุณไก่ มีมากกว่าความเป็นดีไซน์เนอร์ มีมุมมองทางศิลปะและวัฒนธรรมอย่างมีเหตุผล อีกทั้งมีรางวัลระดับโลกอย่าง Sweden World Peace Award ซึ่งนับว่าทางโรงแรมสันติบุรีได้รับเกียรติและความภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับคุณไก่ อูกัส”

สำหรับผู้ที่ต้องการดูรายละเอียดของโรงแรมสันติบุรี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา  สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.santiburisamui.com




"ฝนหลวงฯ! คลี่คลายสถานการณ์น้ำในเขื่อน ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักรองรับฤดูแล้ง 2562!!

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนสำคัญของประเทศทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ยังมีความต้องการ โดยปฏิบัติการทันทีเมื่อมีสภาพอากาศ เหมาะสม และหลีกเลี่ยงพื้นที่การเกษตรที่กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต

วันที่ 31 ตุลาคม 2561 เวลา 12.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ
การบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้รับการร้องขอรับบริการฝนหลวงจากเกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ และได้รับประสานจากกรมชลประทาน เรื่อง การเติมน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้มีเพียงพอสำหรับฤดูแล้งในปีถัดไปนั้น กรมฝนหลวงและ การบินเกษตร ได้ให้ความสำคัญและปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2561

โดยขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 874 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวง 751.5 ตัน เพื่อเติมน้ำให้เขื่อนสำคัญได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ ปฏิบัติการ จำนวน 22 วัน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน จำนวน 10.359 ล้าน ลบ.ม. จากแผนคาดการณ์จำนวน 10 ล้าน ลบ.ม. รวมมีปริมาตรน้ำในอ่าง 125.22 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น ร้อยละ 48 ของความจุอ่าง ซึ่งสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ร้อยละ 5 และเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ปฏิบัติการจำนวน 30 วัน ทำให้มีปริมาณน้ำไหล เข้าเขื่อน จำนวน 266.83 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 85 ของความจุอ่าง ซึ่งสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ร้อยละ 24 นอกจากนี้ สำหรับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดกลางบางส่วน เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำลาด จ.นครสวรรค์ อ่างเก็บน้ำห้วยยาง จ.สระแก้ว เป็นต้น
 
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงปฏิบัติการช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักต่อไป โดยกำชับเจ้าหน้าที่ ให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่การเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยวในช่วงนี้
สำหรับการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำตามที่
คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ (WMSC) กรมชลประทานได้ขอให้กรมฝนหลวงและ การบินเกษตรช่วยเติมน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำ จำนวน 17 แห่ง อาทิ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนอุบลรัตน์
เขื่อนลำมูลบน อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำลาด อ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง และอ่างเก็บน้ำกระเสียว กรมฝนหลวงและ การบินเกษตร ได้เร่งปฏิบัติตามแผนขยายเวลาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือและคลี่คลายสถานการณ์น้ำต่อไป
จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อช่วยให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนมีปริมาณน้ำเก็บกักรองรับการใช้เพื่อ ทำการเกษตรและอุปโภคบริโภคในฤดูแล้งที่กำลังมาถึงอย่างเพียงพอ นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้าย!!
*******************************
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
31 ตุลาคม 2561




ฮอน-ฐากร เจี่ยเพิ่มพูล ผู้จัดไฟแรง ค่ายไอพีเอ็ม นำคณะ ผู้ผลิต นักแสดงและทืมงานร่วมบวงสรวง
 ละครผาแดงนางไอ่ พร้อมเปิดตัวนักแสดงหน้าใหม่!!!!!
  ถือฤกษ์ดี วันที่29ตุลาคม ที่ผ่านมาบวงสรวง ละคร ผาแดงนางไอ่และจันทโครพ 2เรื่อง2รส โดย คุณ มานพ โตการค้า บิ๊กบอสใหญ่บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด นำทีมผู้ผลิต อาทิ ดร.ชายแฮ็คส์(วโรดม ศิริสุข)ควบคุมการผลิต ฐากร เจื่ยเพิ่มพูล ผู้จัดละคร(ผาแดงนางไอ่) วลงกรณ์ จับใจ ผู้กำกับฯ พร้อด้วยนักแสดง และทีมงาน จัดพิธีบวงสรวง ละครพี้นบ้าน 2 เรื่อง 2 รส เรื่อง "ผาแดงนางไอ่"และเรื่อง"จันทโครพ"อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยมีพระนาง ทั้ง 2 เรื่อง "ผาแดงนางไอ่"นำทีมโดย เทพสถิตย์ กุลโคกกรวด (เวียร์) รับบท ผาแดง,ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช (ตุ๊กตา) รับบท นางไอ่,เรื่อง"จันทโครพ"นำทีมโดย วิทวัส แก้วพรรณนา (มิวสิค) รับบท จันทรโครพ,ภัทราพร ไล้ปรีดา (หมวย) รับบท มุจลินทร์ และนักแสดงร่วมอีกคับคั่ง ณ.วัดเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัด นนทบุรี
โดยในงานพิธีบวงสรวง ฮอน-ฐากร เจี่ยเพิ่มพูล ผู้จัดฯได้เปิดตัวนักแสดงน้องใหม่
-ณัฐวุฒิ เทพเซ่งหลี (ตั้ม) ตำแหน่ง ambassador สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการวัยรุ่นและวัยทำงานจากเวที ประกวด Mr.Working men Thailand 2018 รับบท อมาตย์ คนสนิทฯในละครเรื่องจันทโครพ
-ประธาน พิศงาม (แจ็ค) ตำแหน่ง ambassador สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการวัยรุ่นไทยและวัยทำงาน จากเวที ประกวด Mr.Working men Thailand 2018 รับบท ท้าวฟ้าแดด ในละครเรื่องผาแดงนางไอ่
-จีรพล อภัยวงค์ (เสื้อยืด) ตำแหน่ง Mr.Handsome Guy 2018 จาก เวที ประกวด Mr.Pattaya 2018รับบท ขุนหาญ ในละครเรื่องผาแดงนางไอ่
-น้อง ธนสิตา บุรัตน์ (น้องวาเลนไทน์) 
พี่ฮอน-ฐากร ฝากติดตามผลงานของน้องๆท้ง4ด้วยนะครับ!!!!!







ข่าวอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเปิดเทอม 2/2561
และรณรงค์ติดสติ๊กเกอร์ โครงการ “คุณอาคะ..กรุณาอย่าลืมหนูไว้ในรถนะคะ”

วันพุธที่ 31 ตุลาคม 2561 เวลา 06.45 น. ณ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.,
พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รรท.รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รรท.รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท. ผบก.จร., พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ที่ปรึกษา บก.จร. และ  คณะผู้บริหารโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โดย ภราดา ดร.มณฑล ประทุมราช ผู้อำนวยการ, ภราดา คฑาวุธ
สิทธิโชคสกุล และ ภราดา จำรัส แก้วอำคา รองผู้อำนวยการ ร่วมจัดการจราจรในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2561 โดยมี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1, รองผู้บังคับการตำรวจจราจร และข้าราชการตำรวจ บก.จร., สน.สามเสน และอาสาจราจร ร่วมอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร บริเวณหน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ถนนสามเสน
ตามนโยบายรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนและสถานศึกษา ซึ่งในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ซึ่งอาจกระทบการจราจรติดขัดหรือมีรถสะสมบริเวณหน้าสถานศึกษา/โรงเรียน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในภาพรวมแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเทอม ภาคการศึกษาที่ 2/2561 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประชุมและสั่งการให้ สน. พื้นที่ที่มีสถานศึกษา/โรงเรียนทั้งขนาดใหญ่และเล็กตั้งอยู่ วิเคราะห์สภาพปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไข และกำชับการปฏิบัติ โดยให้ สน.พื้นที่ ประสานการปฏิบัติร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร เข้าขอความร่วมมือกับทางโรงเรียน ดังนี้ การจัดการจราจรและจัดเตรียมสถานที่จอด รับ – ส่ง นักเรียน, ประชุมชี้แจงผู้ปกครองเกี่ยวกับขั้นตอนเตรียมพร้อมบุตรหลาน ในการรับ – ส่ง เมื่อถึงจุดส่งให้ จอดส่งโดยเร็ว ภายใต้สโลแกน “No kiss No hug No bye…เตรียมกระเป๋าพร้อมลง” เป็นต้น โดยปัจจุบันในหลายพื้นที่ได้เน้นจัดการจราจรโดยเปิดช่องการจราจรพิเศษ เพื่อเพิ่มช่องทางเดินรถ ทั้งในชั่วโมงเร่งด่วน เช้า และ เย็น โดยวิเคราะห์จากสภาพการจราจรและกายภาพของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถนนที่มีสถานศึกษาตั้งอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งกระทบต่อการจราจรเป็นวงกว้าง จำนวน ๓ กลุ่มโรงเรียน ได้แก่
๑) กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนสามเสน ถนนนครราชสีมา และถนนราชวิถี
๒) กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนสีลม ถนนสาทร และถนนเจริญกรุง
๓) กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนเพชรบุรี ถนนอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท และถนนเพลินจิต
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้จัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกรับ – ส่ง บุตรหลาน ในกรณีที่ท่านผู้ปกครองประสบปัญหารถติดไม่สามารถส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนตามทันตามเวลา ตามโครงการ “ส่งน้องถึงโรงเรียน” โดยได้ให้ กองบังคับการตำรวจจราจร เป็นหน่วยนำร่องจัดรถจักรยานยนต์ สำหรับรับ – ส่ง นักเรียน ไปยังโรงเรียนตามจุดอำนวยความสะดวก จำนวนทั้งสิ้น 18 จุด (ในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร) แบ่งเป็น

ทางลงด่วนเพลินจิต (รร.ในถนนสุขุมวิท และถนนเพลินจิต)
ทางลงด่วนสีลม (รร.ในถนนสีลม และถนนสาทร)
ทางลงด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ใต้ทางด่วนพระราม 4
จุดกลับรถตั้งฮั่วเส็ง
บริเวณโรงเรียน 13 แห่ง ได้แก่ (1) มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (2) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (3) รร.ราชวินิตประถม (4) รร.ละอออุทิศ (5) รร.ราชินีบน (6) รร.เซนต์คาเบรียล (7) รร.อำนวยศิลป์ (8) รร.พญาไท (9) รร.สันติราษฎร์วิทยาลัย (10) รร.วัฒนาวิทยาลัย (11) รร.มาแตร์เดอี (12) รร.เซนต์ดอมินิค (13) รร.สามเสนวิทยาลัย
โดยผู้ปกครองสามารถโทรศัพท์แจ้งความสนับสนุนการรับ – ส่ง ได้ที่สายด่วน 1197

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จากกรณีเด็กถูกลืมหรือทิ้งไว้ในรถ จึงได้มีโครงการ “คุณอาคะ..กรุณาอย่าลืมหนูไว้ในรถนะคะ” เพื่อป้องกันเหตุลืมเด็กในรถ
รับ – ส่ง นักเรียน จากสถิติการลืมเด็กไว้ในรถ พ.ศ.2555 – 2561 ของกรมควบคุมโรค พบว่า มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมหรือทิ้งไว้ในรถ จำนวน 26 เหตุการณ์ เด็กเสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และช่วยไว้ได้ทัน 17 ราย ทั้งหมดอายุ 3 – 7 ปี โดยเด็กที่เสียชีวิตจากถูกลืมหรือทิ้งไว้ในรถ เป็นรถโรงเรียน 7 ราย และเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 2 ราย ทั้งหมดถูกลืมหรือทิ้งไว้นานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแนะนำผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับ – ส่ง นักเรียน และครูพี่เลี้ยงประจำรถ ให้เตือนตนเอง 3 ข้อควรจำเพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ คือ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท”
นับ คือนับจำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง ตรวจตรา คือก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ อย่าประมาท คือ อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงสั้นๆ ก็ตาม หากพบเด็กถูกลืมไว้ในรถ ให้เรียกเจ้าของรถเพื่อมาเปิดรถโดยเร็ว หรือขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมายัง สายด่วน 1197 หรือ 191 และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นการป้องกันที่สำคัญ คือ ตัวเด็กเอง ควรจะสอนเด็กและอธิบายวิธีเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในรถ ฝึกให้คุ้นเคยก่อนเจอเหตุสูญเสียที่เกิดจากความประมาท ป้องกันไว้ก่อน ถ้ารู้ไว้ก็จะเป็นประโยชน์กับเด็ก เริ่มจากให้เด็กลองสำรวจรถที่บ้าน หรือสอนเวลาเข้านั่งรถไปไหนด้วยกัน
การบริหารจัดการปัญหาสภาพจราจรช่วงเปิดเทอมจะบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของ 3 ฝ่าย คือ ผู้ปกครอง โรงเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

งานประชาสัมพันธ์ บก.จร.