วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ร้อยเอ็ด- รอง ผวจ.ตรวจติดตามโครงการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอเชียงขวัญ

 ร้อยเอ็ด- รอง ผวจ.ตรวจติดตามโครงการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอเชียงขวัญ



       วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.30 น. นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะทำงานตรวจติดตามการทวนสอบจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการทวนสอบจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนรายครัวเรือนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงขวัญ   โดยมีนายวิเชียร สุดาทิพย์ นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงาน ปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนในพื้นที่



และช่วงบ่าย  ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการทวนสอบจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนรายครัวเรือนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเชียงขวัญ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงขวัญ โดยมีนายปรัตถกร บุสาวรรณกร นายอำเภอเชียงขวัญ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 



ทั้งนี้ การจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในด้านการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก โดยกำหนดเป้าหมายให้ทุกครัวเรือนต้องจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ให้ครบ 100% จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจติดตามการทวนสอบจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 5 ชุด เพื่อออกตรวจติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการทวนสอบจัดทำถังขยะเปียกขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทั้ง 20 อำเภอ ในการนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะทำงานฯ ได้ให้ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะโดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำแผนงานเพื่อขยายผลการดำเนินการให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน ร่วมถึงการสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงประโชน์ที่จะได้รับจากการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายตาม SDGs ต่อไป

///

คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ 

ชาติ มหาชน ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์/รายงาน

ผบช.สตม. แถลงจับอาชญากรชาวจีน ฟอกเงิน 2,500 ล้าน และจับมือขวาราชายาเสพติดแดนโสมขาวหนีมาซุกในพื้นที่เมืองพัทยา

 ผบช.สตม. แถลงจับอาชญากรชาวจีน ฟอกเงิน 2,500 ล้าน และจับมือขวาราชายาเสพติดแดนโสมขาวหนีมาซุกในพื้นที่เมืองพัทยา 




    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 พ.ค.66 ณ ห้อง Silver Sea 2  ชั้น 8 โรงแรมไบร์ตัน แกรนด์ โฮเต็ล ซ.นาเกลือ 23 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์. รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. 




     ได้แถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ คดีสำคัญและเป็นอาชญากร มีหมายจับตำรวจสากล (อินเตอร์โพล ) 

      รายแรก เป็นการจับกุมเครือข่ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนฟอกเงิน สืบเนื่องจาก สตม. ได้รับการประสานกับเอกอัครราชทูตจีน ประจําประเทศไทย ว่ามีอาชญากรรายสําคัญ คือ MR.XU WEI (นายซู เหวย) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ในการ นำเงินจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีฐานปฏิบัติอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์ คือนำเงิน จากการต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน จากแก๊งค์เซ็นเตอร์ มาฟอกเป็นเงินสกุลลิจิตอล ( BTCUSD ) หรือ เงินบิทคอยน์ รวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้าน โดยสามารถจับกุมได้ที่ คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่การฟอกเงิน MR.XU WEI ( นายซู เหวย ) อายุ 40 ปี ยังเป็นคนคอยประสานงานกลุ่มชาวจีน เข้ามาซื้อทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อีกด้วย 




    ส่วนรายที่ 2 เป็นการจับกุม MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) อายุ 26 ปี ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่า มือขวาราชายาเสพติดแห่งแดนโสมขาว และเป็นตัวการรายสำคัญของขบวนการลักลอบขนยาจากประเทศไทย ส่งผ่านทางพัสดุไปยังประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล ต้องการได้ตัวผู้ต้องหารายนี้เป็นอย่างมาก สืบเนื่องมาจาก กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล ได้ทลายแห่งระบาดของยาเสพติดย่านสถานบันเทิง กังนัม และ แทวอน จนสามารถจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดจําหน่ายยาเสพติด และผู้เสพยาเสพติดทั้งหมด 70 ราย ยึดของกลางยาเสพติด หลายประเภท มีมูลค่าสูงถึง 620 ล้านวอน ยึดเงินสดมูลค่า 19.15 ล้านวอน รวมเป็นเงินไทยกว่า 17 ล้านบาท            อีกทั้ง ภายหลังทลายแก๊งค์ยาเสพติดแล้ว ทางกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโซล  สืบทราบได้ว่า MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) อายุ 26 ปี ชาวเกาหลีใต้ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้ประกาศออกหมายแดงของตํารวจสากล (INTERPOL) อีกทั้งยังสืบทราบว่าได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ทางชุดสืบสวน สตม. จึงลงพื้นที่หาข่าวแกะรอยแหล่งกบดาน จนสามารถตามจับกุมตัว MR. KIM JUNBEOM ( นายคิม จุนบอม ) ได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านหรู ย่านนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตำรวจได้แสดงหมายจับ และดำเนินดคีในเรื่องของการอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด (โอเวอร์สเตย์)




     สำหรับ นายคิม จากการสืบสวนทราบว่า จะใช้แอพพลิเคชั่น “เทเลแกรม” เพื่อติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้า และเมื่อมีการตกลงสั่งซื้อขายแล้ว จะแบ่งยาเสพติดให้มีสัดส่วนที่เล็กลง และนําไปไว้ในสถานบันเทิงลับตาคน ที่ได้มีการนัดหมายกับผู้ซื้อไว้ เพื่อหลบเลี่ยงตำรวจในการถูกจับกุม แต่ภายหลังถูกทางการเกาหลี ทลายเครือข่ายยาเสพติดในประเทศบ้านเกิด ได้หลบหนีเข้าในประเทศไทย แถมยังแอบลักลอบส่งยาเสพติด ส่วนใหญ่เป็นประเภท ยาไอซ์ ผ่านทางพัสดุส่งกลับไปยังประเทศเกาหลีใต้ จนมาถูกตำรวจ สตม. จับกุมได้ในที่สุด 

    พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้เข้มงวดในเรื่องของกลุ่มอาชญากรที่เข้ามาในประเทศไทย อันดับแรกต้องยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ จะเข้าในประเทศก็ถือว่ามีอัตราเสี่ยงค่อนข้างสูง ซึ่งทาง สตม. ได้พยายามจะเข้มงวดในการตรวจอนุญาตผู้เดินทาง ซึ่งเราก็มีระบบอยู่แล้ว ใครที่มีหมายจับก็ไม่สามารถเข้าประเทศได้ แต่ถ้าหากไม่มีหมายจับเราก็สามารถเห็นได้ ซึ่ง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เคยเดินทางไปยังประเทศจีนด้วยตนเอง เพื่อปรึกษาหารือ และวางมาตรการป้องกันเครือข่ายอาชญากรรมชาวจีนเหล่านี้ อีกทั้ง ทาง สตม. ยังได้ร่วมบูรณาการกับโรงแรม สถานประกอบการทุกประเภท เพื่อให้รู้ตำแหน่งของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามจับกุม รวมถึงผู้ที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วมาก่อเหตุอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909534645

" วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีและเป็นวันวิสาขบูชาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ เป็นวันประสูติ , วันตรัสรู้ และวันปรินิพพาน "

 


รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๕๕  น. - ๑๔.๐๐  น. ( กดหมายเลข ๕ ) 


     "  วันที่ ๓  มิถุนายน ๒๕๖๖ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีและเป็นวันวิสาขบูชาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ เป็นวันประสูติ , วันตรัสรู้  และวันปรินิพพาน  "



" ทหารตามแนวชายแดนภาคตะวันตกที่ปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายกระเหรี่ยงที่ตั้งถิ่นฐานตามแนวชายแดนมีความสงบสุขและพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายกระเหรี่ยงตั้งถิ่นฐานสุดชายแดนภาคตะวันตก ณ บ้านพุระกำ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี  แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างหาที่สุดมิได้ "




"  เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน " 


" ทหารตามแนวชายแดนไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชน " 


    รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ขอนำเสนอการปฎิบัติหน้าที่ของทหารตามแนวชายแดนภาคตะวันตกของหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังสุรสีห์ โดยท่านพันเอก สรายุทธ  ศรลัมพ์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๑๙ /รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ พร้อม กรมทหารพรานที่ ๑๔ กองกำลังสุรสีห์ โดยท่านพันเอก เชิดเกียรติ บัวผัน  ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่๑๔ / ผู้บังคับชุดควบคุม กรมทหารพรานที่ ๑๔ ที่ปฎิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดนเพื่อความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนที่ตั้งถิ่นฐานตามแนวชายแดนภาคตะวันตกและพี่น้องชาวไทย เชื้อสายกระเหรี่ยงที่ตั้งถิ่นฐานตามแนวสุดชายแดนภาคตะวันตก ณ บ้านพุระกำ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านทางรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก




   อย่าพลาดติดตามชมการประมวลภาพการแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ทหารตามชายแดนและพี่น้องประชาชนที่ตั้งถิ่นฐานตามแนวชายแดน ในรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ออกอากาศวันศุกร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๕๕ น. - ๑๔.๐๐  น. โดย จ่าเอก อภิคม แก้วละเอียด , ร้อยตรี สหรัฐ เตชานุบาล พิธีกรภาคสนามดำเนินรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก




CR: ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

"กอ.รมน.จว.ขอนแก่น จัดอบรมโครงการ ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2566 !!

 "กอ.รมน.จว.ขอนแก่น จัดอบรมโครงการ ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2566 !!




                                                                  วันที่ 31 พ.ค.66 เวลา 08.00 - 15.00 น. พ.อ.สุรพงษ์ ยอดอินทร์ รอง.ผอ.รมน. จังหวัดขอนแก่น ได้มอบหมายให้ พ.อ. ชวลิต จันทวงษ์ รอง.หน.กมช.กอ.รมน. จังหวัด ขอนแก่น เป็นประธานในการอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปี 2566 ณ วัดสวรรค์  ตำบลมันแฮด อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น 






โดยมีการอบรมในเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติไทย บุญคุณพระมหากษัตริย์ สถาบันหลักของชาติ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฎีใหม่ โดยใช้วิทยากรจากภาครัฐ และปราชญ์ชาวบ้าน ผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 30 คน พร้อมกับมอบเมล็ดพันธุ์ผัก กะละมังปลูกต้นไม้ ปุ๋ยน้ำ EM และดินปลูกต้นไม้ให้กับผู้เข้ารับการอบรม เพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายตามที่ได้รับการอบรม 









//////////////////////////

"โฆษกตำรวจนครบาล พาคณะดูงานศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กก.4 บก.จร.!!

 "โฆษกตำรวจนครบาล พาคณะดูงานศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กก.4 บก.จร.!!



วันที่ 31พฤษภาคม 2566 เวลา 14.00 น.คณะตัวแทนภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และผู้แทนจากประเทศจีน จำนวน 12 นาย เข้ามาศึกษาดูงาน ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร ( บก.02) 





โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.(น.2)พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เชื้อเดช  รอง ผบก.จร.(จ.5)พ.ต.อ.สืบสด สิงหเสนี ผกก.4 บก.จร.(นก.4) พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ สู่พานิช รอง ผกก.4 บก.จร.,พ.ต.ท.อัชฌา พุทธิปิลันธน์ รอง ผกก.4 บก.จร.,พ.ต.ท.ฐิติวัชร์ กุลศิรวัฒน์ สว.งานศูนย์รวมข่าว กก.4 บก.จร., พ.ต.ท.วัฒนา เพชรรัตน์ สว.งานวิศวกรรมจราจรกก.4 บก.จร.,พ.ต.ต. ทศพล จันทะเสน สว.งานศูนย์ควบคุมการจราจรเป็นพื้นที่ ATC กก.4 บก.จร.,

พ.ต.ต.ไชยา เวฬุวนารักษ์ ปฏิบัติหน้าที่ สวฯงานควบคุมจราจร cctv กก.4บก.จร.,

ร.ต.อ.สมยศ ปัญญาดี รอง สว.งานศูนย์ควบคุมการจราจรเป็นพื้นที่ ATC กก.4 บก.จร.ร้อยเวร บก.02 รวมทั้งข้าราชการตำรวจ กก.4 บก.จร.และพนักงาน 1197 สายด่วนจราจร ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้มาศึกษาดูงานครั้งนี้


////////////////////////////

ตำรวจ_สภ_บางบาล สังกัดตำรวจภูธร ประกาศเดินหน้าเอาจริง ออกตรวจจับ รถบรรทุกผิดกฎหมาย ทั้งติดตั้งบังโคลนยักษ์ ขับรถแช่ขวา และบรรทุกน้ำหนักเกิน

 ตำรวจ_สภ_บางบาล  สังกัดตำรวจภูธร  ประกาศเดินหน้าเอาจริง  ออกตรวจจับ รถบรรทุกผิดกฎหมาย ทั้งติดตั้งบังโคลนยักษ์  ขับรถแช่ขวา  และบรรทุกน้ำหนักเกิน   






วันที่ 31 พ.ค 2566 เวลา 09.30 น.  พ.ต.อ.สรรเสริญ กรีอารี ผกก.สภ.บางบาล  พร้อมด้วยพ.ต.ท ชนิสสร์ กระจ่างเนตร รองผกก.ป สภ.บางบาล  สั่งการให้  พ.ต.ต ศักดา สมพงษ์ สวป.สภ.บางบาล  ได้นำกำลังออกตรวจสอบเส้นทาง  บนถนนสายเลี่ยงเมืองบางบาล (ถนน-4016) เพื่อ กวดขันจับกุม รถบรรทุก  ที่ติดอุปกรณ์ส่วนควบ  ไม่ถูกต้องและรถบรรทุกกระทำผิดกฎหมายจราจร  โดยภาคเช้าวันนี้สามารถจับกุมได้ 6 คัน





พร้อมทั้งนี้ทางตำรวจ  ยังได้ทำงานเชิงรุก เข้าไปขอความร่วมมือ  เจ้าของบ่อดินบ่อทราย และผู้ประกอบการรถบรรทุกในพื้นที่ ให้ตรวจสอบว่า  รถบรรทุกของตนเอง หรือรถในเครือข่ายตัวเอง   ด้วยว่า   มีคันไหนผิดกฎหมายบ้าง  และมีคันไหนบรรทุกน้ำหนักเกิน  รวมถึงขอให้เน้นย้ำ  ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่ด้วย





อย่างไรก็ตาม ทาง สภ.บางบาลประกาศเดินหน้า  กวดขันจับกุมรถบรรทุก ที่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งติดตั้งบังโคลนยักษ์ , ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน , ไม่ปกปิดผ้าใบคลุมท้ายกระบะบรรทุก,ขับรถประมาทหวาดเสียว , ขับรถแช่ขวา





ส่วนประเด็นบรรทุกน้ำหนักเกินนั้น   ได้ทำหนังสือ  ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   ซึ่งมีเครื่องมือในการชั่ง เช่น แขวงทางหลวงฯ เพื่อร่วมมือกัน ตั้งหน่วยตาช่างลอย ในการออกหน่วยจับกุม  รถบรรทุกน้ำหนักเกินต่อไป



#ทันอยุธยา  หมู่บ้าน The Eco นครหลวง / รายงาน  


ทิพยประกันชีวิต ทำบุญบริษัทประจำปี เสริมสิริมงคลให้องค์กร

 ทิพยประกันชีวิต ทำบุญบริษัทประจำปี เสริมสิริมงคลให้องค์กร




​​บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานทำบุญบริษัท ประจำปี 2566 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่องค์กร โดยมี คุณบรรพต หงษ์ทอง ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ร่วมในพิธี พร้อมถวายภัตตาหารเพลแด่พระครูบาน้อย ญาณวิไชย และพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป จากวัดถ้ำเชตวัน จังหวัดน่าน ซึ่งได้มีการบรรยายธรรม ให้ศีลให้พรแก่พนักงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ณ สำนักงาน บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566







#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

รวบ ”ดิสโก้ เจ้าแม่ E-ticket” แฝงตัวตีเนียนขายตั๋วคอนเสิร์ตทิพย์ เหยื่อหลงกล โดนโกงจำนวนมาก

 รวบ ”ดิสโก้ เจ้าแม่ E-ticket” แฝงตัวตีเนียนขายตั๋วคอนเสิร์ตทิพย์ เหยื่อหลงกล โดนโกงจำนวนมาก 



วันที่ 31 พฤษภาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5  พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ,  พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนจับกุม น.ส.ณัฐริกา ยางสวย หรือดิส อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/17 ม.2 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสระบุรีที่ 73/2566 ลงวันที่ 27 เม.ย. 66 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์ ตรวจสอบพบประวัติการถูกดำเนินคดีกว่า 9 คดี 




พฤติการณ์ สืบเนื่องจากมหกรรมคอนเสิร์ตวง Blackpink ที่ผ่านมาไม่นาน ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้พบเบาะแส ว่ามีการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ต เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายซึ่งเป็นเหล่าแฟนคลับต่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ชุด pct5 และสืบนครบาล ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่าคือ น.ส.ณัฐริกา ยางสวย หรือดิส อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และมีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตกว่า 9 คดี 



พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในละแวก ซ.ไมยราบ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็ได้เบาะแสผู้ต้องหาจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเพราะพฤติกรรมหวาดระแวงและหลบๆซ่อนๆของผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ อรุณภักดิ์ อพาร์ทเมนท์ ซ.เนียมกล่ำสามัคคี 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ



สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า  ได้หาเงินจากคอนเสิร์ตต่างๆ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนเสิร์ต Black Pink ที่มีคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตนเห็นช่องทางหารายได้ จึงรับกดบัตรทางออนใลน์ โดยให้กลุ่มเพื่อนและน้องสาวช่วยกันกดซื้อบัตรเพื่อนำมาขายต่อให้กับสาวก Black Pink ในประเทศไทย โดยได้จองบัตรคอนเสิร์ต Black Pink ในราคา 9,600 บาทซึ่งเป็นบัตรนั่งราคาแพงที่สุดได้มาประมาณ 200 ใบ จากนั้นจึงนำมาขายต่อในราคาใบละ 15,000-30,000 บาท มีผู้ต้องการซื้อจำนวนมากนับหมื่นคน จนขายหมดทั้ง 200 ใบ ได้กำไรหลายแสนบาท แต่ยังมีลูกค้ามาขอซื้อเรื่อยๆ จึงเกิดความโลภ และเห็นว่าตั๋วทั้งหมดเป็นตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) จึงนำบัตรที่มีการขายไปแล้ว วนขายซ้ำให้ผู้ที่มาขอซื้อ จนวันจัดคอนเสิร์ต Black Pink เกิดปัญหาตั๋วที่นั่งเดียวมีคนไปแสดงตัวเป็นเจ้าของหลายคน ทำไมให้ตนผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัตรดังกล่าวจึงโดนติดตามตัว และแจ้งความดำเนินคดี 


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นสาวโปรไฟล์ดี หาเงินจากการขายบัตรคอนเสิร์ตให้สาวกซุปเปอร์สตาร์ได้จำนวนมาก แต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมติดพนันออนไลน์ เมื่อเสียเงินจากพนันออนไลน์จนหมดตัว ทำให้เกิดความโลภ คิดคดโกงหาเงินแบบรวดเร็วเพื่อเอามาเล่นพนันออนไลน์อีก จนผู้เสียหายรวมกลุ่มติดตามคนร้ายจำนวนมากเพื่อเอาเงินคืน คนร้ายไม่มีเงินคืนจึงหลบหนี 

//

รื้อแล้ว “บ้านสุขาวดี” นานนับสิบปี ศาลปกครองสูงสุดออกคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองอาคารบนพื้นที่พิพาท 11 ไร่ ริมทะเล มพย.จัดคน-อุปกรณ์ทุบรื้อห้ามใช้อาคาร ก่อนจัดจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการอีกรอบ

 รื้อแล้ว “บ้านสุขาวดี” นานนับสิบปี ศาลปกครองสูงสุดออกคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองอาคารบนพื้นที่พิพาท 11 ไร่ ริมทะเล มพย.จัดคน-อุปกรณ์ทุบรื้อห้ามใช้อาคาร ก่อนจัดจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการอีกรอบ




     จากกรณี ที่เมืองพัทยา ลงพื้นที่ปิดหมายประกาศตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 ในอาคาร 3 หลังภายในบ้าน “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบว่าอาคารเหล่านี้บุกรุกที่สาธารณะและมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งอาคารที่มีการก่อสร้างยังไม่ได้เว้นระยะตามแนวร่นจากระดับน้ำทะเลในระยะ 20 เมตร ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการดำเนินงานใหม่ในรอบที่ 2 หลังออกประกาศคำสั่งในครั้งแรกไปแล้ว แต่ทางบ้านสุขาวดี ในนามของบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี กระทั่งมีการพิจารณาว่าประกาศคำสั่งเมืองพัทยา ยังไม่ครบองค์ประกอบ และเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วน จึงให้มีการดำเนินการออกคำสั่งใหม่ดังกล่าว




     สืบเนื่องจาก สำหรับอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างอยู่บนพื้นที่ดินสาธารณะขนาด 11 ไร่ 1 งาน โดยสร้างอาคารเป็นโครงเหล็ก 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง และป้ายโฆษณา จำนวน 2 ป้าย แต่ผู้ถูกฟ้องให้เหตุผลว่าอาคารดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่งอกตามธรรมชาติ แต่เมืองพัทยา มั่นใจว่าจากแนวเขตการรังวัดและภาพถ่ายทางอากาศเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอย่างแน่นอน จึงเป็นข้อพิพาทเพื่อรอผลการตรวจสอบ ซึ่งต่อมาศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองเป็นการชั่วคราว กระทั่งที่สุดศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองแล้ว เมืองพัทยาจึงเร่งเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย




     ขณะที่อาคาร B และ C ซึ่งบ้านสุขาวดีแจ้งว่า เป็นอาคารที่น้ำท่วมไม่ถึงนั้น เมืองพัทยาได้ทำการรังวัดแนวเขตจากระดับน้ำทะเลสูงสุด แล้วพบว่าอาคารอยู่ในแนวที่มีการล่วงล้ำลำน้ำ โดยปัจจุบันได้มีการตัดและพื้นที่ของอาคาร C ไปแล้วเพื่อลดพื้นที่ของอาคาร เพื่อให้อยู่ในระยะห่างจากทะเลตามกฎหมาย ส่วนอาคาร  B นั้น ยังรอการดำเนินการอยู่เนื่องจากศาลยังให้การคุ้มครองอยู่




  อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานทุกอย่างที่ทางบ้านสุขาวดี ได้ส่งไปให้มีการพิสูจน์ทราบทางกระบวนการยุติธรรม จนล่าสุดมีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองอาคารหลังดังกล่าว ด้วยเป็นอาคารทีมีการปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ว่าขบวนการพิสูจน์ทราบของที่ดินจะเป็นเช่นไร แต่ก็ต้องถือว่าอาคารที่ก่อสร้างโดยมิชอบ หรือได้รับอนุญาต ซึ่งศาลปกครองสูงสุดจึงได้พิจารณาไต่สวนแล้วก่อนจะยกเลิกการคุ้มครองอาคาร  A จากนั้นได้มีการปิดหมายประกาศให้ทางบ้านสุขาวดี รื้อถอนเองภายใน 15 วัน 




    ล่าสุด นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว  วิศวกรโยธาชำนาญการ นายตรวจเขต นายกฤษดาศักดิ์ เกตุจินดา นายช่างโยธา และเจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา นำกำลังบุคลากรกว่า 30 คน พร้อมเครื่องมือและเครื่องจักรหนัก อาทิ รถแบ็คโฮ รถบรรทุกเดินทางมา ยังบ้านสุขาวดี เพื่อดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการรื้อแผ่นกระเบื้องพื้นเวที รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่จัดวางไว้ และการตัดน้ำตัดไฟที่ใช้บนเวทีออกทั้งหมด โดยการดำเนินการดังกล่าวมีทนายความของบ้านสุขาวดีมาคอยสังเกตุการณ์ และแจ้งให้เมืองพัทยา ชะลอเวลาการรื้อถอนไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเกินความจำเป็น อีกทั้งปัจจุบันทางบ้านสุขาวดีได้เปิดพื้นที่ให้นักท่อง เที่ยวเข้ามาพักผ่อนแล้ว แต่เมืองพัทยา ก็ยังดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป เพียงการทุบรื้อดังกล่าว เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ของบ้านสุขาวดี แจ้งว่าขณะนี้เรื่องของที่ดินขนาด 11 ไร่ ที่เมืองพัทยาระบุว่าเป็นที่สาธารณะริมทะเลนั้น ปัจจุบัน ทางบ้านสุขาวดีได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี ทำการขุดเจาะชั้นดิน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นที่งอกตามธรรมชาติหรือไม่




    นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา กล่าวว่า อาคารที่มีปัญหาของบ้านสุขาวดีนั้น มีการต่อสู้ทางการปกครองระหว่างเมืองพัทยากับทางบ้านสุขาวดีอยู่เป็นเวลานาน ด้วยเมืองพัทยา ทราบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่สาธารณะ จึงสั่งระงับการใช้อาคารและมีคำสั่ง ให้รื้อถอนแต่ทางบ้านสุขาวดี ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆจนล่วงเลยเวลาและใช้สิทธิ์ตามขบวนการยุติธรรมครบแล้ว จนถึงเวลาแล้วที่เมืองพัทยา ต้องเข้ามาดำเนินการ มิเช่นนั้น ทางเจ้าหน้าที่อาจกระทำผิดเข้าข่ายฐานละเว้นการปฏิบัติ ตามมาตรา 157 สำหรับขั้นตอนการรื้อถอนนั้น เบื้องต้นจะทำการรื้อถอนในลักษณะที่ไม่สามารถให้ผู้ประกอบการใช้ประ โยชน์จากอาคารได้เท่านั้น ซึ่งคิดว่าคงจะกินเวลาประมาณ 3-7 วัน จากนั้นก็จะทำการตั้งงบประมาณเพื่อทำการว่าจ้างผู้รับเหมา เข้ามาทำการรื้อถอนอาคารหลังนี้ออกไป ด้วยพบว่าเป็นอาคารขนาดใหญ่และเกินกำลังที่เมืองพัทยา จะดำเนินการเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนนั้น ก็จะมีการเรียกเก็บจากทางบ้านสุขาวดี อีกครั้ง

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645