วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เที่ยว ชิม ทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมี่ยม ณ สวนทุเรียนคลองคอกช้าง แห่งตำนานลุ่มน้ำกลาย!!

 "เที่ยว ชิม ทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมี่ยม ณ สวนทุเรียนคลองคอกช้าง แห่งตำนานลุ่มน้ำกลาย!!



สวนทุเรียนคลองคอกช้าง ทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมี่ยม แห่งตำนานลุ่มน้ำกลาย อยู่ในเนื้อที่ 35 ไร่ ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นสวนทุเรียนที่ตกทอดมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น ณ ดินแดนอันชุ่มช่ำไปด้วยพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ โดยมี อาจารย์สุชาติ ไชยเดช พร้อมด้วย นางสายพิณ ไชยเดช ภรรยาได้สืบทอดมาจากรุ่นแม่ ในปัจจุบันมีคุณกิติชัย ไชยเดช บุตรชาย และคุณไพลิน ไชยเดช บุตรสาว ได้หันมาช่วยกันดำเนินธุรกิจการเกษตรสวนทุเรียนหมอนทองในรูปแบบทันยุคทันสมัย โดยมีการพัฒนารูปแบบการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ซึ่งปัจจุบัน อาจารย์สุชาติ ไชยเดช รับราชการเป็นอาจารย์ผู้สอนโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช จบการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีการเกษตรสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้นำหลักการผลิตทางวิชาการผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยความรัก ศรัทธาในอาชีพเกษตรกรรม จึงเป็นแรงบันดาลใจให้มีการผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จากประสบการณ์การผลิต ทุเรียนคุณภาพส่งออกมากกว่า 10 ปี จึงมีความคิดตกผลึกและประสบการณ์ เพื่อให้คนไทยได้บริโภคทุเรียนคุณภาพจากสวนที่ได้รับมาตรฐาน GAP และให้ผู้บริโภคได้รับ สินค้าที่ดี มีคุณภาพ ทั้งรสชาติ ความสุก ความอร่อยตามสายพันธุ์หมอนทองแท้ๆ จนในปีพ.ศ.2562 ได้รับรางวัล จากคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง "สาขาการผลิตทุเรียน เพื่อการส่งออก" จาก ฯพณฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี







นายกิติชัย ไชยเดช กล่าวว่า "ผมเป็นลูกชายคนโตของคุณพ่อ ปัจจุบันผมทำงานรับราชการอยู่ที่จังหวัดอุดร ในช่วงวันหยุดผมก็จะกลับมาช่วยคุณพ่อคุณและแม่ดูแลสวนทุเรียนอยู่ตลอด จนมีการเก็บเกี่ยว และส่งออกซึ่งน้องสาวจะเป็นคนคอยช่วยในเรื่องการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในอดีตผมโตมากับสวนทุเรียน ผมมีความรักความผูกพันเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคต ผมเองก็มีแนวคิดที่จะพัฒนาสวนทุเรียนหมอนทองแห่งนี้ให้เป็น"คาเฟ่ทุเรียน" เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นการต่อยอดที่คุณพ่อได้สร้างไว้ ซึ่งสวนทุเรียนหมอนทองที่นี่ จะเป็นทุเรียนนอกฤดู จึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ผลผลิตทุเรียนหมอนทองออกมาอย่างมีคุณภาพ





นายกิติชัย กล่าวต่อว่า "สำหรับเทคนิคการผลิตทุเรียนนอกฤดู (ทุเรียนทวาย)สวนทุเรียนคลองคอกช้าง หลังจากการปลูกต้นกล้า รักษาดูแลตามขั้นตอนติดตาด้วยพันธุ์หมอนทอง ดูแลรักษาต่อเนื่อง จนต้นทุเรียนได้ขนาดที่เหมาะสมในการทำให้ออกนอกฤดูคือมีอายุ 2,190 วัน หรืออายุ 6 ปีเต็ม จากการดูแลอย่างดี การให้ปุ๋ย ให้น้ำ กำจัดวัชพืช ศัตรูพืช ที่เกิดกับทุเรียนในรูปแบบต่างๆ ขนาดของลำต้นที่สวนนี้เลือกใช้สารบังคับยับยั้งการแตกยอดคือที่มีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 50 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นดิน 150 เซนติเมตร ทางสวนคลองคอกช้างเห็นว่ามีความเหมาะสม ทั้งขนาด ลำต้น อายุของต้นทุเรียน ตลอดจนใช้ภูมิปัญญาเชิงวิชาการและประสบการณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้ดำเนินการคือ"





1.สำรวจความสมบูรณ์ของต้นทุเรียนสัมผัสโดยภาพรวมตั้งแต่ระบบความเจริญเติบโต ระบบราก ลำต้น กิ่ง ใบ ตามประสบการณ์

2.การเลือกฉีดสารบังคับยอด เมื่อคัดเลือกต้นทุเรียนที่มีความสมบูรณ์จึงได้ทำเครื่องหมาย รหัสต้น รหัสแถว เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป

3.เมื่อได้ต้นทุเรียนที่จะฉีดสารยับยั้งยอดแล้ว ขั้นต่อไปคือการเตรียมสารเคมีภัณฑ์เพื่อทำการฉีดพ่นทางใบ ในสวนนี้ฉีดพ่นสารทางใบในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม (ต้องดูสภาพความพร้อมของต้นทุเรียนก่อน) เนื่องจากถ้าอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น ปัจจัยอื่นๆ เหมาะสม ประมาณปลายเดือนมิถุนายนก็จะเห็นดอกทุเรียนทำให้ได้ลุ้นกับว่าหลังจากมีดอกแล้วจะดำเนินการขั้นต่อไป

4.เมื่อทุเรียนเริ่มออกดอกระยะไข่ปลา ระยะมะเขือพวง ระยะบานดอก ไปจนถึงระยะหางแย้ ระยะนี้ต้องดูแลเป็นอย่างดี หากดูแลไม่ดี ดอกหลุดร่วง มีเชื้อรา ปัจจัยอื่นๆทำความเสียหาย โอกาสได้ผลผลิตก็หลุดลอยไปทันที ดังนั้นจากประสบการณ์ ในสวนนี้ เลือกลงสารแบบฉบับลงฉีดสารครั้งเดียว สามารถบังคับการแตกยอดอ่อนได้ในเฉียบพลัน แต่ถ้ามีฝนตก มรสุมเข้า ทำให้ทุเรียนแตกยอดใหม่ จำเป็นต้องฉีดสารแบบโฉบเพื่อยับยั้งการแตกยอด หรือกิ่งที่แตกยอดไปแล้วทำให้แก่เร็วทุเรียนก็ออกดอกได้

5.หลังจากดอกบานจนอายุ 30 วัน เป็นช่วงที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะทุเรียนมีผลอ่อน มีการหลุดร่วงของผลมาก เนื่องจากผลทุเรียนมีมากเกินไปหรือ ทุเรียนมีการแตกใบอ่อน ฝนตกมาก ดูแลไม่ถูกต้อง ต้องจัดการเรื่องน้ำ การแต่งดอก แต่งผลอ่อน ต้องฉีดพ่นสารที่จำเป็นในระยะนี้

6.ผลทุเรียนมีอายุมากกว่า 30 วัน ต้องให้สารบำรุงที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อต้องพัฒนาให้ทรงผลสวย หากผลทรงไม่สวย เปลือกจะหนา หนามใหญ่ หนามเตี้ย ก็ต้องปรับสภาพให้ปุ๋ยหรือสารเคมีภัณฑ์ที่ถูกต้องสมดุล

7.การทำสีเนื้อทุเรียน ในช่วงที่มีการเจริญเติบโต ต้องไม่เร่งให้ไนโตรเจนเพราะทำให้หนามใหญ่ เปลือกหนา เนื้อน้อย เป็นเทคนิคจากผู้ชำนาญการที่หมั่นสังเกต

8.หลังจากผลทุเรียนมีอายุ 60-70 วันหลังดอกทุเรียนบาน จะมีผลขยายใหญ่ขึ้นมากระยะนี้ต้องฉีดบำรุงขยายผล ขยายพู สร้างเนื้อทุเรียน ต้องเติมด้วยสารป้องกันรา หนอน และศัตรูของทุเรียนทั้งใบ ยอด และผลทุเรียน

9.ระยะผลทุเรียนมีอายุ 100 วัน เป็นระยะแห่งความสุข ความภูมิใจของชาวสวน เพราะในระยะผล 100 วันนี้ เป็นระยะที่จำหน่ายได้แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ปริมาณฝน ดินฟ้าอากาศ การดูแล อื่นๆประกอบกัน

10.ความภูมิใจของสวนคลองคอกช้างที่ได้ผลผลิตทุเรียนคุณภาพชั้นเยี่ยมเพื่อให้คนที่นิยมชมชอบในรสชาติ ได้ทุเรียนคุณภาพดี ถูกใจ เป็นความภูมิใจของผู้ผลิต






นายกิติชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมฐานะผู้ผลิตทุเรียนสวนคลองคอกช้าง รู้สึกภูมิใจที่ทำให้ผลผลิตเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคทุเรียน ดัง motto เราใส่ใจคุณภาพ เพราะคุณคือคนในครอบครัว ซึ่งในอนาคตผมนำความรู้ความสามารถกลับมาพัฒนาในบ้านเกิดโดยเฉพาะสวนทุเรียนในตำบลตลิ่งชันแห่งนี้ ให้มีชื่อเสียงให้หลายๆคนได้รู้จัก"ทุเรียนตลิ่งชันพันล้าน"นายกิติชัย ไชยเดช กล่าวทิ้งท้าย !!


กรมบังคับคดีแจ้งการสิ้นสุดระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.30 น.!!

 "กรมบังคับคดีแจ้งการสิ้นสุดระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.30 น.!!



นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งในคดีฟื้นฟูกิจการ หมายเลขแดงที่ ฟฟ 20/2563 ให้ฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) และตั้งผู้บริหารของลูกหนี้ร่วมกับบริษัทอีวายฯ เป็นผู้ทำแผน ซึ่งเจ้าหนี้จะต้องทำการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อ

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผ่านช่องทางการยื่นคำขอรับชำระหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบังคับคดีหรือยื่นเอกสารด้วยตนเองได้ที่กรมบังคับคดีและสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หรือสำนักงานใหญ่การบินไทย หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ถึงวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.30 น.



ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://tgreorg.led.go.th พร้อมชำระค่าธรรมเนียม หรือกรณียื่นคำขอรับชำระหนี้ด้วยตนเอง เจ้าหนี้จะต้องนำส่งคำขอรับชำระหนี้และเอกสาร พร้อมชำระค่าธรรมเนียมต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เสร็จสิ้นภายในวัน และเวลาดังกล่าว

สำหรับเจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ให้เร่งดำเนินการขอรับชำระหนี้ ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว กรมบังคับคดีจะปิดการรับชำระหนี้ทั้งในระบบการยื่นคำขอรับชำระหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์และการรับชำระหนี้ในช่องทางปกติของคดี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และเจ้าหนี้จะไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ 02 887 5095 – 97 หรือ สายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือทางเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th


แจ้งหมิ่นประมาท 2 พิธีกรดังหมาแก่ กับ แมวสาว

 แจ้งหมิ่นประมาท 2 พิธีกรดังหมาแก่ กับ แมวสาว 


ที่สน.ดอนเมือง วันนี้ 30 ตค.2563 ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทสหมงคลประกันภัย จำกัด มอบอำนาจทีมทนายความเข้าพบ ร.ต.อ.จารุกิตต์ จันระดา รอง.สว.สอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีกับ นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ หมาแก่ และ นางอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ หรือ แมวสาว 2 พิธีกรรายการเจาะลึกทั่วไทยที่ออกอากาศทางช่อง MCOT 30 เมื่อวันที่ 27 ตค.2563 ในขัอหาหมื่นประมาทโดยการโฆษณา และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสูระบบคอมพิมเตอร์ซึ่งในรายการมีการกล่าวหาว่า ร.อ.รชฏ นำกลุ่มทุนไทย กลุ่มทุนจีน เข้าไปเทคโอเว่อร์ บริษัทสหมงคลประกันภัย ซึ่งไม่เป็นความจริงตามที่รายการออกอากาศไปทำให้ทางเกิดความเสื่อมเสียช่อเสียงบริษัทประชาชนขาดความเชื่อถือ จึงต้องเดินทางมาแจ้งไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้



วันนี้ทีมทนายความของร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์หรือหมาแก่ และคุณอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ หรือแมวสาว พิธีกรรายการเจาะลึกทั่วไป Inside Thailand ออกอากาศช่อง MCOT HD 30 ในการกล่าวหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยออกอากาศเผยแพร่ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ช่วงที่ 4 ของรายการ และยังมีการเผยแพร่รายการผ่านทางช่องทางแอพพลิเคชั่นยูทูป เนื้อข่าวกล่าวหาว่า



“ ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร นำกลุ่มทุนไทย กลุ่มทุนจีน เข้าไปเทคโอเวอร์ บริษัทสหมงคลประกันภัย” ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงคือ ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกรและบริษัทรชฏ กรุ๊ป จำกัด ได้ซื้อกิจการและหุ้นทั้งหมดของบริษัทสหมงคล ประกันภัย จำกัด(มหาชน) มาจากผู้ถือหุ้นเดิมเรียบร้อยแล้ว ถึงจะทำการขายหุ้นให้นางสาวหลูหวินเฉิน สัญชาตจีน ต่อมานางสาวหลูหวินเฉิน เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ชำระค่าซื้อขายหุ้นและทำผิดระเบียบข้อบังคับบริษัทสหมงคล ประกันภัย นางสาวหลู หวินเฉินกับพวกจึงไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของบริษัทสหมงคลประกันภัย อีกต่อไป และยังกล่าวหาอีกหลายประเด็น ดังนี้

1. ขายทรัพย์สินบริษัท ต่ำกว่าราคาตลาด โดยระบุว่าเป็นตึกที่ตั้งบริษัทสหมงคลประกันภัย ที่ซอยรัชดาภิเษก 20 ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นความจริง ร้อยเอกรชฏ ไม่เคยขายทรัพย์สินบริษัท ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นอาคารเช่า 

2. ขายหลักทรัพย์ ไม่ได้รับอนุมัติ จากคณะกรรมการ ในส่วนนี้ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกรและนายธนากร ภัทรกองเกตุ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุน เรียบร้อย 

3. ทำสัญญาซื้อบริการปลอม ในส่วนนี้พิธีกรเสนอข่าวว่าไม่มีเนื้องานจริง ปลอมขึ้นมา ต้องการเอาเงินออก ซึ่งความจริงแล้วมีการทำงานจริง คู่สัญญามีเอกสารส่งมอบงานทุกเดือนจริง 

4. จ่ายเงินทดรองจ่าย ให้บุคคลภายนอก บริษัทสามารถทำได้และการจ่ายเงินทดรองจ่ายตามข่าวนั้นเป็นการทดรองจ่ายให้กับคู่ค้าซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท 

5. ตีเช็คเงินสด ไม่ขีดคร่อม ในส่วนนี้พิธีกรทั้งสองนำเสนอโดยใช้ถ้อยคำว่าไซฟ่อนเงินชัดๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง การดำเนินการธุรกิจเป็นไปตามระบบของบริษัท การที่พิธีกรทั้งสองนำเสนอข่าวชี้นำให้ประชาชนเข้าใจแบบนี้ เป็นการใส่ความนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 

6.ให้บุคคลภายนอกกู้เงิน ไม่มีหลักประกัน ในส่วนนี้ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ไม่ได้ให้บุคคลภายนอกกู้ พิธีกรทั้งสองคนนำเสนอข่าวโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นการให้ร้ายร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ได้รับความเสียหาย ปัจจุบันบริษัทสหมงคลประกันภัย จำกัด(มหาชน) มีทรัพย์สินรวมมากกว่า 1,000 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจประกันภัยมายาวนานกว่า 70 ปี





จากการนำเสนอข่าวของพิธีกร ที่นำเสนอข่าวแต่เพียงด้านเดียวอีกทั้งยังชี้นำและนำความคิดเห็นส่วนตัวและอารมณ์ส่วนตัวเข้าร่วมในการเสนอข่าว กล่าวหา ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ให้ได้รับความเสียหาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และยังส่งผลสะท้อนให้ผู้เอาประกันภัยขาดความเชื่อมั่นในบริษัท อันเป็นการหมิ่นประมาณโดยการโฆษณาและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์


"กอ.รมน.จังหวัดประจวบฯลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพ"มูลนิธิพระราหู" ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และช่วยเหลือผู้สูงอายุวัย 83 ปี ป่วยติดเตียงมานานกว่า 20 ปี!!

 "กอ.รมน.จังหวัดประจวบฯลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพ"มูลนิธิพระราหู" ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และช่วยเหลือผู้สูงอายุวัย 83 ปี ป่วยติดเตียงมานานกว่า 20 ปี!!





วันที่ 29 ต.ค.63 เวลา 13.20 น.โดย พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง.ผอ.รมน.จว.ประจวบคีรี ขันธ์ พร้อมด้วย จ.ส.อ.ไชยา อยู่ชมบุญ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จว. ประจวบฯ,นายศักดิ์ธนา นาดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลไร่เก่า อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

   



  

ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ นายสมศักดิ์ มะลิลา บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 7 ตำบลไร่เก่า อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรี ขันธ์ เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก สาเหตุเกิดจากเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ช่วงเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนัก จึงทำให้น้ำไหลหลากเป็นจำนวนมาก จึงได้เข้าท่วมบ้าน ซึ่งทางหน้าบ้านเป็น ลำห้วยทางเดินน้ำ ประกอบกับมีน้ำไหลมาเป็นจำนวนมาก ถ้าฝนหยุดตก น้ำก็จะไหลแห้งไปเอง 




พร้อมทั้ง ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพ จาก"มูลนิธิพระราหู โครงการใจถึงใจ"โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ และ น้ำ 1 ลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท อึ้งง่วนไต๋ สาขาปราณบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจต่อไป




หลังจากนั้นเวลา 14.20 น.โดย พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง.ผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ นางเรือน เจริญชัยกรรม อายุ 83 ปี บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 7 ตำบลไร่เก่า อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ เป็นผู้ป่วยติดเตียง มาเป็นเวลา 20 ปี 






พร้อมทั้ง ได้ร่วมกันมอบ ถุงยังชีพ "มูลนิธิพระราหู โครงการใจถึงใจ" โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ และน้ำ 1 ลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทอึ้งง่วนไต๋ สาขาปราณบุรี เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวและเป็นขวัญและกำลังใจต่อไป!!





#ประชาสัมพันธ์กอ.รมน.จว. ประจวบคีรีขันธ์!!


"กอ.รมน.จว.ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะในโอกาสเดินทางมาประชุมติดตามการดำเนินงานการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จว.ขอนแก่น!!

 "กอ.รมน.จว.ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะในโอกาสเดินทางมาประชุมติดตามการดำเนินงานการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จว.ขอนแก่น!!




เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2563 เวลา 09.30 น.ณ ห้องประชุมแก่นเมือง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น พ.อ.โชติ พื้นชมภู หน.กลุ่มงายนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จว. ขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางมาประชุมติดตามการดำเนินงานการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดขอนแก่น และลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ณ จังหวัดขอนแก่น 







โดยมีผู้เข้าร่วมให้การต้อนรับได้แก่คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดขอนแก่นนำโดย นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, หัวหน้าส่วนราชการส่วนภูมิภาค,หัวหน้าหน่วยงานราชการส่วนกลางสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอำเภอทุกอำเภอและเกษตรอำเภอทุกอำเภอ, นายกองค์การบริหารจังหวัดขอนแก่น,นายกเทศมนตรีเมืองทุกเมือง,ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่นและประธานสภาอุตสาหกรรม!!






#ประชาสัมพันธ์กอ.รมน.จว. ขอนแก่น!!

ครั้งหนึ่งในชีวิต !!! หัวหินจัดใหญ่ วิ่งยามค่ำ ชมบอลลูนยักษ์ ดูคอนเสิร์ตริมชายหาด กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนในชุมชน

 ครั้งหนึ่งในชีวิต !!! หัวหินจัดใหญ่ วิ่งยามค่ำ ชมบอลลูนยักษ์ ดูคอนเสิร์ตริมชายหาด กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนในชุมชน 



วันที่ 28 ตุลาคม ที่ห้างสรรพสินค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เลขานุการประธานตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมด้วยนายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน และนายนพพร วุฒิกุล

นายกเทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมแถลงข่าวการจัดงานวิ่ง “Hua Hin Night Run Super Fun on the Beach 2020” 



โดยมี พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น เป็นที่ปรึกษาฝ่ายจัดงาน และนายสมชาย กระแจะเจิม ที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินการจัดงาน มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารายได้เป็น กองทุนสวัสดิการสำหรับโครงการฝึกอบรมอาสาสมัคร รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ของตํารวจท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในอำเภอหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก พร้อมรับชมมินิคอนเสิร์ต จาก มัม ลาโคนิค, อุ้ย รวิวรรณ จินดา, อ้วน วารุณี สุนทรีสวัสดิ์



พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า ด้วยคณะที่ปรึกษาตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานจิตอาสาภาคประชาชน ที่ร่วมปฏิบัติงาน และทำกิจกรรมกับหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยวเสมอมา โดยคณะที่ปรึกษาได้เห็นถึง ความสำคัญ และคุณประโยชน์ของหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยว ที่มีต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ในด้านการรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ผ่านมาหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยวได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง จนได้รับความชื่นชมจากนักท่องเที่ยวและภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องรวมถึงประชาชน



ในการนี้คณะที่ปรึกษาตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน สโมสรไลออนส์หัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน - ชะอำ และกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในจังหวัด จัดงานวิ่ง “Hua Hin Night Run Super Fun on the Beach 2020” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.00 น. เริ่มต้นที่อุทยานราชภักดิ์ ถึงหาดสวนสนประดิพัทธ์ เป็นระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร 


เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. - 13 พ.ย.2563 สามารถสมัครออนไลน์ได้ที่ Page facebook : Hua hin night run super fun on the beach นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมออกบูธอาหาร - เครื่องดื่ม คอนเสิร์ตโดยศิลปินแกรมมี่ และบอลลูนโชว์ พร้อมแสงสีเสียงเพื่อความผ่อนคลายหลังจบกิจกรรม ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมวิ่งในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน