วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

“พสบ.กับการเสริมสร้างการมีส่วนร่วม”

 “พสบ.กับการเสริมสร้างการมีส่วนร่วม”

   


เมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 ผู้แทน ชมรม พสบ. ทภ.2 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม อส.กร.ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2566 โดย กกช.สจว.กร. ทบ.เป็นผู้ดำเนินการจัด ณ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ทแอนโฮเทล อ.เมือง จ.ขอนแก่น 














มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของเครือข่ายภาคประชาชนของ ทบ.และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในพื้นที่ในการสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อชุมชน สังคม และประเทศชาติร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป


////////////////////////////

ครอบครัวนาวีเฮ้าส์ บริจาคเงิน 8 แสนบาทเตียงไฟฟ้าพร้อมที่นอนลม และสุขภัณฑ์ แก่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ อุทิศส่วนบุญกุศลให้ คุณแม่สาลี ใคร่ครวญเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้หอผู้ป่วยวิกฤตหัวใจและหลอดเลือด

 


ครอบครัวนาวีเฮ้าส์ บริจาคเงิน 8 แสนบาทเตียงไฟฟ้าพร้อมที่นอนลม และสุขภัณฑ์ แก่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ อุทิศส่วนบุญกุศลให้ คุณแม่สาลี ใคร่ครวญเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้หอผู้ป่วยวิกฤตหัวใจและหลอดเลือด



  วันนี้ (28 ก.พ.66) ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วยคุณปัญชริน ใคร่ครวญ ภรรยา และ ครอบครัว "ใคร่ครวญ" นำคณะเข้าบริจาคเงิน จำนวน 800,000 บาท เตียงไฟฟ้าพร้อมที่นอนลม เก้าอี้สุขภัณฑ์ 2 ตัว เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้ กับคุณแม่สาลี ใคร่ครวญ ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์ ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นผู้รับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณ พลเรือเอก ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ คุณปัญชริน ใคร่ครวญ เจ้าของโครงการหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ ที่ได้มอบเงินและสิ่งให้โรงพยาบาลฯ ในครั้งพร้อมกับจะได้นำเงินและสิ่งของที่ได้รับบริจาคในครั้งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อกำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่เจ็บป่วย และเข้ามารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แห่งนี้




 

    สำหรับโครงการหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ โดยพลเรือเอก ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ พร้อมด้วยคุณปัญชริน ใคร่ครวญ ภรรยา และครอบครัวใคร่ครวญ ได้นำเงินและสิ่งของมอบให้กับ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตลอดจนกิจกรรมการกุศลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่รักใคร่นับถือของพี่น้องชาวสัตหีบเป็นอย่างดี ในความมีน้ำใจของครอบครัวสกุล "ใคร่ครวญ" เจ้าของโครงการหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 0909535645


“อลงกรณ์” เชื่อมั่นไทยพร้อมก้าวขึ้นสู่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตร-อาหารท็อปเทนของโลก เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ.)กับยุโรปและอังกฤษ

 “อลงกรณ์” เชื่อมั่นไทยพร้อมก้าวขึ้นสู่ประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตร-อาหารท็อปเทนของโลก เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ.)กับยุโรปและอังกฤษ

ปูทางสร้างโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยขยายตลาดทั่วโลก พร้อมแนะผู้ผลิตผู้ส่งออกไทยปรับตัวรับมือกฎหมายและกฎระเบียบใหม่ของอียู.



นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวปาฐกถาเปิดงานเสวนาบนเวทีของงานแถลงข่าวประจำปี NRF 2023 Annual Press conference 'Big Move' ภายใต้ประเด็นเสวนา“ปัญหาและโอกาสสู่ทางออกของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไทยในตลาดยุโรปและอังกฤษ” โดยมี คุณแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF คุณอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล. ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Exim Bank และคุณณัฐศักดิ์ มนัสรังษี K Fresh เข้าร่วม ณ ลิโด้ คอนเนคท์ (ห้องลิโด้ 1) สยามสแควร์ซอย 3 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้วิทยากรผู้เชี่ยวชาญภาครัฐได้แสดงความคิดเห็น และแชร์ประสบการณ์ให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อยในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทย เพื่อร่วมต่อยอดความคิดและร่วมหาทางแก้ปัญหา อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการผลักดัน สินค้าเกษตรและอาหารไทยไปสู่ตลาดยุโรปและอังกฤษโดยเฉพาะบริษัทชั้นแนวหน้าชองไทยเช่นเอ็นอาร์เอฟ(NRF)ที่มีเป้าหมายขยายเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้าอาหารไทยและเอเซียในอังกฤษและยุโรปซึ่งมีมูลค่าตลาดนี้ 10 พันล้านดอลลาร์หรือกว่า3แสนล้านบาท



   นายอลงกรณ์ กล่าวปาฐกถาว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และผู้ประกอบการเอกชนในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปสหภาพยุโรปและอังกฤษซึ่งเป็นตลาดคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยจึงให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ. ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เร่งเปิดทางสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไปอียูและอังกฤษโดยกระทรวงเกษตรฯได้ลงนามเอ็มโอยูกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมอาหารและกิจการชนบทของอังกฤษเพื่อขยายความร่วมมือทางการเกษตรทุกมิติรวมทั้งการขจัดอุปสรรคทางการค้าสินค้าเกษตรและอาหารเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เร่งเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)3กรอบสำคัญคือ เอฟทีเอ.ไทย-อียู. เอฟทีเอ.ไทย-อังกฤษและเอฟทีเอ.ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)ซึ่งมีสมาชิก 5 ประเทศ คือ รัสเซีย, คาซัคสถาน, เบลารุส, อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน  เป็นก้าวใหม่ก้าวใหญ่ของภาครัฐผสมผสานกับบิ๊กมูฟของภาคเอกชนในวันนี้ จึงมั่นใจว่าประเทศไทยจะบรรลุความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายเป็นมหาอำนาจทางอาหารท็อปเทนของโลกภายในปี2030เป็นอาหารปลอดภัย(Food Safety)ที่มีการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของสำนักงาน”มกอช.”ตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร(Farm 2 Tables)ภายใต้การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมลดปัญหาภาวะโลกร้อนสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งสหภาพยุโรปและอังกฤษตลอดจนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางเรือ ทางอากาศและทางบกโดยเฉพาะการขนส่งทางรางบนเส้นทางรถไฟสายไทย-จีน-ลาว-ยุโรป



สำหรับโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย ทั้งในเรื่องการรักษาและขยายส่วนแบ่งการตลาดในสินค้าหลักที่มีฐานการตลาดอยู่เดิม ได้แก่ 1) สินค้าปศุสัตว์ - ไก่แปรรูปและไก่หมักเกลือ (สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์) โดยในปี 2565 ประเทศไทยส่งออกไก่แปรรูปไปยังสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร มูลค่า 38,000 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากปี 2564 ถึงร้อยละ 69 2) สินค้าพืชผักผลไม้สดผลไม้แปรรูป และข้าว (สหราชอาณาจักร อิตาลี เนเธอร์แลนด์) สับปะรดกระป๋อง และน้ำสับปะรดกระป๋อง และผลไม้กระป๋อง (เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี) 3) สินค้าประมงและสัตว์น้ำ (แช่แข็งและแปรรูป) - ปลาหมึกแช่แข็ง (อิตาลี) ปลาทูน่ากระป๋อง (เนเธอร์แลนด์) และ 4) ยางพาราและผลิตภัณฑ์ (เยอรมนี เนเธอร์แลนก์ สเปน เบลเยียม อิตาลี)และ5)สินค้าที่มีศักยภาพในอนาคต(Future Food) ได้แก่

1.สินค้าโปรตีนทางเลือกจากพืช(plant based protein )

2.สินค้าโปรตีนทางเลือกจากแมลง(edible insect based protein)

3.สินค้านวัตกรรมที่ตอบสนองโภชนาการของผู้บริโภค



นายอลงกรณ์ยังเสนอแนะด้วยว่า ผู้ประกอบการของไทยต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับโอกาสและปัญหาและอุปสรรคในเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ ได้แก่ 1) กฎระเบียบด้านมาตรฐานและความปลอดภัยอาหาร ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงแต่ครอบคลุมเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยอาหารที่ประเทศผู้ส่งออกต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมประเด็นสวัสดิภาพสัตว์ สิทธิมนุษยชน และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม 2) กฎระเบียบมาตรการของสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร เพื่อบังคับใช้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ แต่ส่งผลกระทบมายังผู้ผลิตรวมถึงประเทศไทย อาทิ กฎหมาย Deforestation free products ที่สหภาพยุโรปได้เห็นชอบต่อการออกกฎหมาย ครอบคลุมสินค้า 7 ชนิด คือ ยางพารา น้ำมันปาล์ม เนื้อวัว ไม้ กาแฟ โกโก้ และถั่วเหลือง รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ผลิตจากสินค้าเหล่านี้ เช่น ช็อคโกแลต เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ และสินค้าที่มีน้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบบางชนิด โดยสหภาพยุโรปได้ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2566 กฎหมาย Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ขอบเขตการบังคับใช้ CBAM จากเดิม 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ให้เพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้า โดยรวมไฮโดรเจนและสินค้าปลายน้ำบางรายการ อาทิ น็อตและสกรูที่ทำจากเหล็กและเหล็กกล้า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (indirect emissions) อาทิ ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้า ที่ใช้ในการผลิตสินค้า และจะเริ่มบังคับใช้มาตรการ CBAM ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 และกฎหมาย Corporate Due diligence เป็นกฎหมายเพื่อกำกับดูแลและความรับผิดชอบในการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 3) แนวคิดการบริโภคสินค้าที่ผลิตในสหภาพยุโรป (Localization) เพื่อลดการขนส่งอันเป็นสาเหตุของการก่อมลพิษและคาร์บอนฟุตปริ้น อาจมีผลกับการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากประเทศที่สามในอนาคต./


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

พญายักษ์วัดแจ้ง เตะตังค์เข้าเป๋า ปังปัง เฮงเฮง รวยรวย ที่วัดอรุณราชวราราม

 พญายักษ์วัดแจ้ง เตะตังค์เข้าเป๋า ปังปัง เฮงเฮง รวยรวย ที่วัดอรุณราชวราราม



https://shorturl.asia/otdyC

วัดอรุณราชวราราม ตั้งอยู่ เลขที่ ๑๕๘ ถนน วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา โดยมีพระปรางเจดีย์ขนาดใหญ่สีขาว เป็นพระปรางค์ที่มีการสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยปรางค์ประธานและปรางค์รองอีก ๔ ปรางค์ ซึ่งสร้างไว้แต่สมัยกรุงศรีอยุทธยา โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเยี่ยมชมและ กราบไหว้สักการะบูชา แม้กระทั่งเหล่าดารานักแสดงและเซเลบคนดังจากหลายสาขาอาชีพ ก็ยังศรัทธาในมหาบารมีแห่งองค์พญายักษ์วัดแจ้งอีกด้วย อีกทั้งยังมีความเชื่อกันอีกว่าหากผู้ใดได้มีโอกาสเดินทางมาสักการะบูชา รูปปั้นพญายักษ์วัดแจ้ง เจ้าพญาแห่งยักษ์โบราณคู่นี้แล้ว จะมีความสุขสมหวังในชีวิตคู่ มีโชคลาภ มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน จะเดินทางไปทำมาค้าขายในทางใดก็จะมากไปด้วยมหาโภคทรัพย์ ชีวิตจะพบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป






     พญายักษ์ตนนี้สร้างจากโลหะชนวนมหายันต์จากพระเถราจารย์ ได้ทำพิธีหล่อขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔ โดยบรรยาหาศภายในงานพิธีหล่อ ได้มีควันพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าโดยเป็นรูปดุจพญายักษ์วัดแจ้งต่อหน้าสาธุชนคนนับพันที่มาร่วมในงานพิธีฯ จากอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน พญายักษ์วัดแจ้งที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ตั้งประดิษฐานภายในพระอาราม โดยมีสาธุชนเดินทางเข้ากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย ถือสร้างความปิติให้แก่ผู้มาขอพรมาโดยตลอด







ขอกราบอนุโมทนาบุญ

ท่าน พระครูปลัดสุวัฒนรัตนคุณ ดร. (ชุมพรนิติสาโร)

🙏เลขานุการเจ้าคณะภาค ๙

🙏ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม

🙏เลขานุการวัดอรุณราชวราราม

แหล่งที่มาข้อมูลข่าวสาร

สมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ จัดประชุมสังสรรค์ ครั้งที่ 541

 สมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ จัดประชุมสังสรรค์ ครั้งที่ 541




วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ณ ห้องจัดเลี้ยงใหญ่สมาคมแต้จิ๋วฯ เลขที่ 1 ซ.เย็นจิตร 12 ถ.จันทน์ เขตสาทร กรุงเทพฯ สมาคมแต้จิ๋วฯ และสมาคมอำเภอต่างๆ ได้จัดประชุมสังสรรค์ ครั้งที่ 541 โดยในครั้งนี้ทาง สมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในการประชุมฯ โดยเริ่มจาก




เวลา 11:00 น. นายกกิตติมศักดิ์ถาวร, นายกกิตติมศักดิ์, นายกสมาคม - รองนายก สมาคมแต้จิ๋วฯ พร้อมด้วยสมาคมอำเภอต่างฯ ทุกท่าน เริ่มทยอยเดินทางเข้าลงทะเบียน จากนั้น






เวลา 11:30 น.ได้เข้าสู่วาระการประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้ใหญ่ของแต่ละสมาคมฯ ที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมประกอบด้วย

☆ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย

泰国潮州会館

☆ สมาคมเตี้ยเอี้ยแห่งประเทศไทย

泰国潮阳同乡会

☆ สมาคมเตี้ยอันแห่งประเทศไทย

泰国潮安同乡会

☆ สมาคมโผวเล้งแห่งประเทศไทย

泰国普宁同乡会

☆ สมาคมจีนเก็กเอี๊ยแห่งประเทศไทย

泰国揭陽同乡会

☆ สมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย

泰国澄海同乡会

☆ สมาคมศิริวิไลแห่งประเทศไทย

泰国惠來同乡会

☆ สมาคมฮงสุนแห่งประเทศไทย

泰国豐顺同乡会

☆ สมาคมไท้ปูนแห่งประเทศไทย

泰国大埔同乡会

☆ สมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย

泰国饒平同乡会

# สาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ คือ





เวลา 12:30 น.ทางคณะนายกกิตติมศักดิ์ถาวร, นายกกิตติมศักดิ์, นายกสมาคม - รองนายก สมาคมแต้จิ๋วฯ และสมาคมอำเภอต่างฯ ทุกท่านที่เข้าร่วมประชุม ร่วมในการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งพูดคุยทักทายกันด้วยสัมพันธภาพที่ดีและอบอุ่น





# รายนามคณะเจ้าภาพ และบุคคลสำคัญในการประชุม

☆ คุณชิม ชินวิริยะกุล

泰国潮州会主席徐惠深

นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย

☆ คุณมนตรี โลหวิบูลย์กิจ

泰國李氏宗親總會

นายกกิตติมศักดิ์ถาวร สมาคมตระกูลลี้แห่งประเทศไทย

☆ คุณประพันธ์ โลหวิบูลย์กิจ

泰國崇德善堂

ประธานกรรมการ มูลนิธิศรัทธาสงเคราะห์ (ช่งเต็กเซี่ยงตึ๊ง)

☆ คุณซินจื๋อเฉิน

泰國饒平同鄉會 理事長 陳鑫哲 

นายกสมคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย

☆ ดร.กิตติ อิทธิภากร

永遠名誉理事長 黃漢良博士

นายกฯกิตติมศักดิ์ถาวร

☆ คุณสมชาย พิพัฒน์นันท์

永遠名誉理事長 許鎮南

นายกฯกิตติมศักดิ์ถาวร 

☆ คุณวิชิต ชินวงศ์วรกุุล

永遠名誉理事長 徐光輝

นายกฯกิตติมศักดิ์ถาวร

☆ คุณเฉิน จุ้นเฉียง 

永遠名誉理事長 陳鴻輝

นายกฯกิตติมศักดิ์ถาวร

☆ คุณสมพงษ์ กิจกำจาย

副理事長 吳登發

รองนายกสมาคมฯ 

☆ คุณมั่นเฟิน เชี่ยวชาญอักษร

副理事長 林曼芬

รองนายกสมาคมฯ

☆ แพทย์จีน ลิ้ม ตัว เคี้ยง

副理事長 林丹乾中醫師

รองนายกสมาคมฯ

☆ คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์

副理事長 文國華

รองนายกสมาคมฯ

☆ คุณจึง เฮี่ยว เตี้ยง

副理事長 莊曉典

รองนายกสมาคมฯ

☆ คุณสมศักดิ์ วณิชชัยวัฒกุุล

中文秘書 沈良豐

เลขานุการจีน

☆ คุณชัยยุุทธ กิจแต่ง

中文秘書 文錫偉

เลขานุการจีน

☆ คุณไพวงศ์ ชำนินาวากุล

泰文秘書 鄭來福

เลขานุการไทย

☆ คุณมณียา โคมิน

常務稽核 許國屏

ผู้ตรวจสอบบัญชี

☆ คุณเนรมิตร กิจกำจาย

常務交際 吳順發

ปฏิคม

☆ คุณไชยพงศ์

常務交際 沈錦強

ปฏิคม

☆ คุณสุธันย์ชนก กนกนิตย์อนันต์ 

常務交際 文錦瑜

ปฏิคม

☆ คุณกมลชนก กนกนิตย์อนันต์ 

常務交際 文錦珠

ปฏิคม

☆ คุณพัฒน์ งามพงษ์พรรณ

常務理事 吳義英

กรรมบริหารสมาคมฯ

☆ คุณอัจฉรา บริเวชชานนท์

常務理事 許奕珊

กรรมบริหารสมาคมฯ

☆ คุณพงษ์ งามพงษ์พรรณ

總幹事 吳坤保

ผู้จัดการสมาคมฯ


☆ คุณ พิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ รองนายกสมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย/ ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน

สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร










วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

มูลนิธิ มิราเคิลฯ ร่วมสวนนงนุชพัทยา ส่งมอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ ให้กระทรวงวัฒนธรรม 99 ต้น นำถวายวัด ปลูกเป็นพุทธบูชา

 มูลนิธิ มิราเคิลฯ ร่วมสวนนงนุชพัทยา ส่งมอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ ให้กระทรวงวัฒนธรรม 99 ต้น นำถวายวัด ปลูกเป็นพุทธบูชา




     เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66   ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ฯ พร้อมด้วย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากประเทศอินเดีย ในโครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นพุทธบูชาทุกวัดทั่วแผ่นดิน จำนวน 99  ต้น มอบให้ พระสังฆาธิการ หัวหน้าส่วนราชการ กระทรวงวัฒนธรรม พุทธบริษัท และศิลปินดารา เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา















     ตามที่มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับ สวนนงนุชพัทยา และองค์กรภาคีเครือข่ายขอประทานพระอนุญาตถวายเสนอโครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์ 999 ต้น ปลูกเป็นพุทธบูชา ทุกวัดทั่วแผ่นดิน ซึ่งสวนนงนุชพัทยา ได้ทำการขยายพันธุ์ จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ สถานที่ตรัสรู้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนโครงการ “หนึ่งใจ..ให้ธรรมะ” ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั่วประเทศไทย อีกด้วย 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645