วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

กรมทหารราบที่ 13 จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และบำเพ็ญสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567

 กรมทหารราบที่ 13 จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และบำเพ็ญสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567



เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 พันเอก ชูชาติ นนทบุตร  ผู้บังคับการกรมทหาราบที่ 13 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาของหน่วย จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567  ร่วมกับประชาชนจิตอาสาในพื้นที่  ณ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยในครั้งนี้ได้ร่วมกันทำความสะอาดพัฒนาเขตสุขภิบาล ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ภายในบริเวณวัด และพื้นที่บริเวณโดยรอบ ตลอดบริเวณสองข้างทาง ที่ประชาชนใช้ในการสัญจร ไป-มา ให้เกิดความสะอาด และมีทัศนียภาพที่สะอาดสวยงามเอื้ออำนวยต่อประชาชนที่มาทำบุญมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

จากการร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาในครั้งนี้  ทำให้กำลังพลของหน่วย และผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ซึ่งทำให้พื้นที่ภายในวัดและพื้นที่บริเวณโดยรอบ  ตลอดจนเส้นทางที่ประชาชนใช้ในการสัญจรไป-มา มีความสะอาดและมีทัศนียภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น


////////






////////////////////////////// 

ข้อมูลภาพข่าว

ร.ต.กฤษฎา มณีใส

เบอร์โทรศัพท์ 0885397430                                                      

#กรมทหารราบที่ 13

ใบเตย อาร์สยาม โร่เข้าแจ้งความสอท.1 ถูกเฟสบุ๊คปลอม นำภาพไปตัดต่อโปรโมทเว็บพนัน

 ใบเตย อาร์สยาม โร่เข้าแจ้งความสอท.1 ถูกเฟสบุ๊คปลอม นำภาพไปตัดต่อโปรโมทเว็บพนัน



วันนี้ 29 เม.ย.67 เวลา10.45 น.ใบเตย อาร์สยาม โร่เข้าแจ้งความที่ บก.สอท.1 พร้อมหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พล.ต.ต. ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ซึ่งถูกนำรูปภาพของ ใบเตย อาร์สยาม ไปตัดต่อทำเป็นเฟสบุ๊คปลอมโปรโมทเว็บพนัน อีกทั้งได้มีการนำภาพลักษณะลามกอนาจารมาลงให้คนอื่นเชื่อว่าไปเป็นใบเตย อาร์สยาม ตัวจริง พร้อมแนบลิ้งชักชวนให้เล่นการพนัน มีคนลงเชื่อเข้าไปเล่นพนันสูญเงินกันหลายล้านบาท โดยทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สอท.1 ได้รับเอกสารการร้องเรียนแล้ว และได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้กระทำความผิด ผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 ซึ่งบุคคลที่โพสต์ชักชวน โฆษณาให้ผู้อื่นเล่นการพนันนั้น มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษ “จำคุก” สูงสุดถึง 3 ปี และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และ 16 คาดว่าจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้



พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12  ระบุว่า "ผู้ใดจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลงหรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎกระทรวงหรือ ข้อความในใบอนุญาต ผู้นั้นมีความผิดต่อไปนี้" 


1. ถ้าเป็นความผิดในการเล่นตามบัญชี ก.หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 16 หรือการเล่นตามบัญชี ข.หมายเลข 16 เฉพาะสลากกินรวบหรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกันนี้ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจนถึง 3 ปี และ ปรับตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไปจนถึง 5,000 บาท ด้วยอีกโสดหนึ่งเว้นแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่ เรียกว่าลูกค้า ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


2. ถ้าเป็นความผิดในการเล่นอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่ เกิน 2 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน ห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ


(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวล กฎหมายอาญา 




(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มาตรา 16 ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีและ ปรับไม่เกินสองแสนบาท



//////////////////////

เหมืองแร่ไทยมุ่งสู่ Net Zero

 เหมืองแร่ไทยมุ่งสู่ Net Zero


ดร.อดิทัต​ วะสีนนท์​ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่​ (กพร.)​ เข้าร่วมในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง​ "บทบาทของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ไทยในการลดภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​ : มุ่งสู่Net​ Zero" ซึ่งจัดโดยสภาการเหมืองแร่​ ร่วมกับสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง​ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมย่อยหินไทย​ และสมาคมวิศวกรเหมืองแร่ไทย​ เมื่อวันที่​ 26​ เมษายน​ 2567​ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม​ โรงแรมเซ็นจู่รี่​ พาร์ค​ กรุงเทพฯ




กิจกรรมครั้งนี้​มี นางสาวอัญชลี​ ตระกูลดิษฐ​ ประธานสภาการเหมืองแร่ ดร.ชนะ​ ภูมี​​ นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ไทย​ ดร.วิจักษ์​ พงษ์เภตรา​ นายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง​  รศ.ดร.พิษณุ บุญนวล​ รองประธานสภาการเหมืองแร่และนายกสมาคมวิศวกรเหมืองแร่ไทย​ และนายทวี​ สุขเสถียร​  นายกสมาคมอุตสาหกรรมย่อยหินไทย​ ได้ร่วมแสดงความขอบคุณต่ออธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่​ (กพร.)​ อีกด้วย







//////////////////////

“รองเกียรติ พร้อมรองอธิบดีอัยการฯ” ร่วมงาน รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ณ สมาคมศิษย์เก่าตำรวจนครบาล !!

 “รองเกียรติ พร้อมรองอธิบดีอัยการฯ” ร่วมงาน รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ณ สมาคมศิษย์เก่าตำรวจนครบาล !!




เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 09.00 -16.30 น.ณ ห้องรัชดาบอลรูม บริษัทรัชดาหินอ่อน จำกัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมครบรอบ 109 ปี โรงเรียนตำรวจนครบาล เพื่อให้ศิษย์เก่าได้พบปะสังสรรค์และรดน้ำดำหัวครู - อาจารย์ ในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 (ครั้งที่ 2) และร่วมสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องในสมาคม ฯ 





โดยมี ว่าที่ร้อยตรี อภิสัคค์ พรหมสวาสดิ์ (อัยการเอก)รองอธิบดีอัยการ การบังคับคดี พร้อมด้วย นายสมเกียรติ มั่นคง(รองเกียรติ) ที่ปรึกษาฯ พร้อมคณะได้ให้เกียรติมาร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ของสมาคมฯครั้งนี้ จากนั้นได้ร่วมถ่ายภาพเพื่อเป็นเกียรติ และร่วมรับประทานอาหาร พร้อมชมการแสดงในกิจกรรมของสมาคมฯ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น







ด้านพลตำรวจตรีบุญส่ง นามกรณ์ นายยกสมาคม กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนในฐานะนายกสมาคมฯ จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะอนุรักษ์ประเพณีต่างๆที่สืบทอดกันมาและจะช่วยเหลือ ศิษย์เก่าตำรวจนครบาล ตลอดจนประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป 








///////////////////

"ผู้ช่วยอ้อ"เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งรัดติดตามผลการดำเนินคดีอาญาของ สภ.คูคต จว.ปทุมธานี ครั้งที่ 8

 "ผู้ช่วยอ้อ"เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งรัดติดตามผลการดำเนินคดีอาญาของ สภ.คูคต จว.ปทุมธานี ครั้งที่ 8



วันนี้ (29 เม.ย.67) เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ชั้น 2 อาคารเอนกประสงค์ ภ.1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี 

ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 5)(สส 3) / หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 670/2566 ลงวันที่ 29 พ.ย.66 และ คำสั่ง ตร.ที่ 30/ 2567 ลงวันที่ 18 ม.ค.67 เพื่อเร่งรัดติดตามผลการดำเนินคดีอาญาที่ 737/ 2566 ของ สภ.คูคต จว.ปทุมธานี ครั้งที่ 8




โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร./ รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 / รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์  ผบช.ภ.6/รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก./รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์

รอง ผบช.ภ.1/รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ 

รอง ผบช.ภ.1 / รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 /รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 /รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต. ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี /

รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน

พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 /

รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน

พร้อมด้วยคณะพนักงานอัยการ และ พนักงานสืบสวนสอบสวน เข้าร่วมประชุม 




โดยในการประชุมครั้งนี้ เป็นการพิจารณาตรวจพยานหลักฐานและตรวจทานความสมบูรณ์ของสำนวนการสอบสวน ภายใต้การกำกับของพนักงานอัยการจากสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อันเป็นการพิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา เพื่อมีความเห็นทางคดีส่งไปยังพนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตฯ ตามกฎหมายต่อไป






/////////////////////

บีเจซี ขึ้นแท่นผู้นำของโลกและที่ 1 ของประเทศไทย ในการสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ

 บีเจซี ขึ้นแท่นผู้นำของโลกและที่ 1 ของประเทศไทย ในการสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ



บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของประเทศไทย และที่ 11 ของโลกในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ ประจำปี 2566 โดย Equileap ซึ่งเป็นการประเมินที่ครอบคลุม 65 บริษัทในประเทศไทยและ 15,000 บริษัททั่วโลก


Equileap เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและตัวชี้วัดความเสมอภาคทางเพศ โดย Equileap จะประเมินบริษัททั่วโลกจากหลักเกณฑ์ 19 ข้อ แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ 1) ความสมดุลของเพศในระดับผู้บริหารและพนักงาน 2) การจ่ายค่าจ้างและความสมดุลระหว่างการทำงาน - ชีวิตส่วนตัว 3) นโยบายที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และ 4) ความมุ่งมั่น ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ ทั้งนี้ บีเจซี ได้แสดงถึงความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางความมุ่งมั่นของผู้นำองค์กรและการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equity, Inclusion หรือ DEI) โดยสอดคล้องกับ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights หรือ UDHR)


ในปัจจุบัน อัตราส่วนของพนักงานชายและหญิงของ บีเจซี อยู่ที่ 40% และ 60% ตามลำดับ โดยมีผู้หญิงมากกว่า 50% ในทุกระดับการทำงาน โดย บีเจซี ยังมุ่งเน้นการทำโครงการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้มีความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วมร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกด้วย เช่น โครงการ DiverCity และการฝึกอบรมพนักงานเรื่อง DEI ประจำปี รวมไปถึงงานสัมมนาระดับนานาชาติอย่าง “ธุรกิจ ความหลากหลายทางเพศสภาพ และ วิถีแห่งอนาคต” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้รวมผู้นำจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักการทูต และสถาบันการศึกษามาอยู่บนเวทีเดียวกันเพื่อร่วมสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศให้กับสังคม และภาคธุรกิจของประเทศไทย


นอกจากนี้ บีเจซี ยังมีนโยบายต่าง ๆ และสวัสดิการที่ส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนและ DEI อีกด้วย โดยในปีนี้บริษัทยังมีการปรับปรุงสวัสดิการพนักงานให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศอย่างเท่าเทียมกัน เช่น การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรสําหรับทุกเพศ การลาเพื่อแต่งงานสําหรับทุกเพศ และการลาเพื่อการผ่าตัดแปลงเพศ เป็นต้น ซึ่งนับตัวอย่างของความทุ่มเทที่ บีเจซี มีให้กับการส่งเสริมความหลากหลายและความเสมอภาคให้กับพนักงานทุกคน


การจัดอันดับนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญของ บีเจซี ในการมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ส่งเสริมความหลากหลายและเท่าเทียมทางเพศ และเป็นบรรทัดฐานที่ดีให้กับสังคมต่อไป

___


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

(085-356-7444)

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

เทเบิลเทนนิสตำรวจชาย-หญิงกวาดครองแชมป์รุ่นทั่วไปแห่งประเทศไทย

 เทเบิลเทนนิสตำรวจชาย-หญิงกวาดครองแชมป์รุ่นทั่วไปแห่งประเทศไทย 






การแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์ประเทศไทย ประเภททีมสโมสร ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 20-23 และ 26-28 เม.ย.67 ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เปิดชิงชัย 10 ประเภท ประกอบด้วย ทีมชาย-หญิงทั่วไป, ทีมเยาวชนชาย-หญิงอายุไม่เกิน 19, 17, 15, 13 ปี ชิงเงินรางวัลรวม 388,000 บาท



เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาการชิงชัยเดินทางเข้าสู่วันสุดท้าย ไฮไลต์อยู่ในรอบชิงชนะเลิศของประเภททีมหญิงทั่วไปที่มีเหล่านักกีฬาทีมชาติไทยทะลุเข้าถึงรอบสุดท้ายกันคับคั่ง โดยในประเภททีมหญิงทั่วไป คู่ชิงเป็นการดวลกันระหว่าง ทีมเต็ง สโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ปะทะ สโมสรกีฬาเซ็นทรัล ทีมเอ 



ผลการชิงชัยเป็นทางด้านทัพตำรวจที่มีตัวแกนหลักทีมชาติไทยถึงสองคนอยู่ในทีมคว้าชัยไปได้สำเร็จ 3-1 คู่ โดยคู่แรก จิณห์นิภา เสวตรบุตร กับ อุษณี ทวีสัตย์ (ตำรวจ) ชนะ วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ กับ ศุภมาศ ปานเขาย้อย (เซ็นทรัล) 3-2 เกม (11-4, 11-9, 4-11, 6-11, 11-5), คู่สอง วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (ตำรวจ) ชนะ ณัฐสิมา ดีแกง (เซ็นทรัล) 3-0 เกม (11-8, 11-8, 11-8), คู่สาม ศุภมาศ ปานเขาย้อย (เซ็นทรัล) ชนะ อุษณี ทวีสัตย์ (ตำรวจ) 3-2 เกม (11-9, 10-12, 6-11, 12-10, 11-7) และคู่สี่ วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (ตำรวจ) ชนะ วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ (เซ็นทรัล) 3-1 เกม (9-11, 11-4, 11-8, 11-0) 



สโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ครองแชมป์ทีมหญิงทั่วไปประจำศึกชิงแชมป์สโมสรปี 2567 ตามความคาดหมาย ด้านประเภททีมชายทั่วไปรอบชิงชนะเลิศก็เป็นการปะทะกันของสโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ดวลกับ สโมสรกีฬาเซ็นทรัล ทีมเอ เช่นกัน และก็ยังเป็นหนุ่มๆ นักตบโปลิศที่โชว์ฟอร์มดีไม่แพ้ทีมหญิง ไล่ตบเอาชนะ 3-0 คู่ ส่งให้ประเภททีมชายทั่วไปและทีมหญิงทั่วไปเป็นทัพตำรวจครองถ้วยแชมป์ทั้งหมด



หลังจบการครองแชมป์รุ่นทั่วไปทั้งชายและหญิงของทัพตำรวจ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ประธาน กกป.เทเบิลเทนนิส ตร. กล่าวชื่นชมนักกีฬาเทเบิลเทนนิสตำรวจทุกคนว่าสามารถเล่นได้ดีและมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะในทีมหญิงที่สามารถล้มแชมป์เก่าได้ ส่วนทีมชายยังคงป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง ต้องขอชื่นชมผู้ฝึกสอนและนักกีฬาที่ตั้งใจฝึกซ้อมและสร้างชื่อเสียงให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


นายกสภาการแพทย์แผนไทยแจ้งความเอาผิดกรรมการสภาฯ สร้างพยานหลักฐานเท็จ สั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่

 นายกสภาการแพทย์แผนไทยแจ้งความเอาผิดกรรมการสภาฯ สร้างพยานหลักฐานเท็จ สั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่






พท.ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้นำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง   เพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยซึ่งกระทำผิด โดยมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อกล่าวหานายกสภาการแพทย์แผนไทยว่ากระทำผิดทางจรรยาบรรณ รวมไปถึงออกคำสั่งหรือแถลงการณ์โดยบุคคลซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวระหว่างการสอบสวน 




ทั้งนี้ การดำเนินคดีกับกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยในครั้งนี้ ได้พยานหลักฐานครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้พบแถลงการณ์ของบุคคลซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และนำไปเผยแพร่ตามสื่อสาธารณะ โดยบุคคลและกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด โดยไม่เคยมีการสอบสวนตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในสภาการแพทย์แผนไทยกันอย่างผิดกฎหมาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อยึดอำนาจของนายกสภาการแพทย์แผนไทยในการบริหารสภาการแพทย์แผนไทย รวมไปถึงการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและบริหารกิจการต่างๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและประชาชนได้รับความเสียหาย รวมไปถึงสร้างความเข้าใจผิด อันเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสภาการแพทย์แผนไทยและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของนายกสภาการแพทย์แผนไทยที่กำลังดำเนินกิจการของสภาการแพทย์แผนไทยให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง




อีกทั้ง กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้พยายามตั้งเรื่องเบิกจ่ายเงินของสภาการแพทย์แผนไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับกลุ่มพรรคพวกของตนเองแล้วหลายครั้ง ตลอดจนมีความพยายามนำพรรคพวกของตนเองเข้ามาดำเนินงานภายในสภาการแพทย์แผนไทย โดยฝ่าฝืนขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่ง ดร.ชนิญญา ได้พยายามห้ามปรามมาโดยตลอด แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวกลับใช้กฎหมู่ไม่ใช้กฎหมาย จนถึงขั้นได้นำเอาพรรคพวกของตนซึ่งยังอยู่ระหว่างการสอบสวนกรณีทุจริตการสอบของสภาการแพทย์แผนไทยในปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการ ปปช. กรณีการทุจริตในการจัดสอบเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารสภาการแพทย์แผนไทยและการจัดสอบในปี 2567 นี้ ซึ่งจะทำให้มาตรฐานการจัดสอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยครั้งนี้ไม่น่าเชื่อถือ ตามข่าวดังอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีข้อสงสัยจากการที่มีข้อสอบรั่วจากเหตุการณ์ครั้งนั้นว่ามีการซื้อขายข้อสอบกันหรือไม่ อันเป็นผลให้วิชาชีพการแพทย์แผนไทยถูกด้อยค่าว่าไม่มีมาตรฐานและตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทย ของ ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรรณ



 ในครั้งนี้  นายกสภาฯ จึงต้องเร่งรัดการใช้กฎหมาย เพื่อห้ามปรามและควบคุมการใช้กฎหมู่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปยังหน่วยงานต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคงต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมายของกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยโดยเด็ดขาดตามกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ได้รับพยานหลักฐานชัดเจนและครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



///////

คุณ วิเทพ สุขุมกาญจนรัตน์ และ คุณสมชาย ภูวจรูญกุล ประธาน กต.ตร.สน.หลักสอง ร่วมแจกทาน ณ วิหารหลวงพ่อขาว บางบอน กทม.

 คุณ วิเทพ สุขุมกาญจนรัตน์ และ คุณสมชาย ภูวจรูญกุล

ประธาน กต.ตร.สน.หลักสอง ร่วมแจกทาน ณ วิหารหลวงพ่อขาว บางบอน กทม.





เมื่อเวลา 12:00 น.วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2567 ณ วิหารหลวงพ่อขาว คลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร คุณ วิเทพ สุขุมกาญจนรัตน์ และ คุณสมชาย ภูวจรูญกุล ประธาน กต.ตร.สน.หลักสอง พร้อมด้วย ผู้ใหญ่ใจดี เดินทางเข้าร่วมในการแจกอาหารให้กับประชาชนที่มารอรับอาหาร ที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น และในวันนี้มีประชาชนที่เดินทางมารอรับแจกอาหาร ประมาณกว่า 300 คน







     คุณ วิเทพ สุขุมกาญจนรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า การแจกทานในวันนี้ ถือว่าเป็นการทำบุญแจกทานเป็นประจำในทุกๆปีที่ได้ทำมา และปีนี้ก็เข้าปีที่ 15 ที่ได้จัดงานต่อเนื่องมา ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เหตุใดจึงเลือกมาทำบุญและแจกทานที่วิหารหลวงพ่อขาวแห่งนี้ คุณ วิเทพฯ กล่าวว่า บ้านที่ผมอยู่อาศัยอยู่ด้านหลังวิหารแห่งนี้ และได้เข้ามากราบไหว้เป็นประจำ กอรปกับได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประชาชนซึ่งเดินทางมาจากที่อื่นหรือประชาชนในพื้นที่ระแวกบางบอน ที่เข้ามากราบไหว้ขอพร และก็ได้สำเร็จสมดั่งปราถนาในสิ่งที่ได้ขอไว้ ไม่ว่าจะขอในเรื่องการประกอบธุรกิจการค้า หรือในด้านหน้าที่การงาน รวมถึงประชาชนที่ชอบในเรื่องเสี่ยงโชค ก็จะมาขอพรจากองค์หลวงพ่อขาวเป็นประจำ และก็เคยได้ข่าวว่ามีคนถูกรางวัลมาแล้วมากมาย ส่วนของตัวผมเองตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมได้ขอพรในเรื่องของการประกอบธุรกิจการค้าเพียงอย่างเดียว และก็ได้ดั่งที่ขอพรไว้ คุณ วิเทพฯ กล่าว


     และในวันนี้ทางด้าน คุณสมชาย ภูวจรูญกุล ประธาน กต.ตร.สน.หลักสอง ได้เดินทางมาร่วมในการทำบุญแจกทาน และได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้มาในนามของ คณะ กต.ตร.และที่ปรึกษาฯ ของ สน.หลักสอง ที่ได้ร่วมในการสมทบทุนค่าอาหารต่างๆ ที่ได้นำมาแจกให้กับประชาชนในวันนี้ ผมรู้สึกดีใจและยินดีที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ และในโอกาสนี้ ขอพรที่ศักดิ์สิทธิ์ จากองค์หลวงพ่อขาว ดลบันดาลให้คณะ กต.ตร.และผู้ใหญ่ใจดี รวมถึงประชาชนที่มารับอาหารทุกๆท่าน  มีแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดขอให้ได้สมดั่งใจปราถนา เฮงๆรวยๆทุกท่าน คุณสมชายฯ กล่าว


















ขอขอบคุณ

คุณอภิสิทธิ์ แก้วน้ำทิพย์ และคุณสาวิตรี กำธร ผู้ดูแลวิหารหลวงพ่อขาว ถ.เอกชัย 36/2 บางบอน กรุงเทพฯ เอื้อเฟื้อสถานที่และอำนวยความสะดวกในการทำบุญแจกทานในวันนี้



















ขอขอบคุณ

คุณสมชาย ภูวจรูญกุล ประธาน กต.ตร.สน.หลักสอง

สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร