วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท รับรางวัลผู้ทรงอิทธิพล 50 คนของประเทศไทย ยืนยันจะทำความดี และประโยชน์เพื่อชาติ และสังคม พร้อมพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่ประเทศสามร์ทในสายตาชาวโลก

 


หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท รับรางวัลผู้ทรงอิทธิพล 50 คนของประเทศไทย ยืนยันจะทำความดี และประโยชน์เพื่อชาติ และสังคม พร้อมพลิกโฉมประเทศไทยไปสู่ประเทศสามร์ทในสายตาชาวโลก



วันจันทร์ที่​ 31​ ตุลาคม​ 2565​ เวลา​ 15.30-21.00​ น.​พิธีเปิดงานมอบรางวัล​ HOWE​ AWARDS​ 2022​ ประธานในพิธีคุณกฤษฏา​ บุญราช​ ผู้ช่วยเลขาธิการ​ สภากาชาติไทย​ กล่าวเปิดงาน นิตยสาร HOWE  จัดพิธีมอบรางวัลผู้ทรงอิทธิพล 50 คน ของประเทศไทย หรือ รางวัล HOWE AWARDS 2022​ ขึ้นที่ Penhouse the Park Hyatt Bangkok  โดยมีบุคคลจากหลากหลายอาชีพ หลายสาขา เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติ​นี้หลายคน 1 ในนั้น คือ นายเกียรติ​ภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท​เข้ารับรางวัลในครั้งนี้ด้วย บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ที่เข้ารับรางวัล





นายเกียรติ​ภูมิ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลผู้ทรงอิทธิพล จากนิตยสาร ฮาว ซึ่งรับเป็นครั้งแรก และยืนยันจะทำประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

 











ส่วนพรรคไทยสมาร์ท​ ยังคงยืนหยัดในอุดมการณ์ทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติ โดยทางพรรคมีนโยบายนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก มาเปลี่ยนแปลง พลิกโฉมประเทศไทยให้เป็นประเทศที่สมาร์ท​ในสายตาชาวโลกต่อไป

ทีมข่าวภาคสนาม/รายงาน

CPF - ศูนย์ FLEC พัฒนาทักษะชีวิตลูกหลานแรงงานประมงข้ามชาติ สู่ความมั่นคงด้านอาหารและการพึ่งพาตนเอง

 CPF - ศูนย์ FLEC พัฒนาทักษะชีวิตลูกหลานแรงงานประมงข้ามชาติ สู่ความมั่นคงด้านอาหารและการพึ่งพาตนเอง   



ศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา (Fishermen’s Life Enhancement Center หรือ ศูนย์ FLEC) มุ่งมั่นเดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ของแรงงานประมงข้ามชาติ รวมถึงครอบครัว ในจังหวัดสงขลา เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ เสริมสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ร่วมป้องกันการค้ามนุษย์ โดยล่าสุด ศูนย์ฯ จัดกิจกรรมทัศนศึกษา เปิดโอกาสให้บุตรหลานแรงงานประมงข้ามชาติ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4  




นางสาวนาตยา เพชรรัตน์ ผู้จัดการศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา ในฐานะกรรมการศูนย์ FLEC กล่าวว่า เร็วๆ นี้ ศูนย์ FLEC พาลูกหลานของแรงงานประมงข้ามชาติ จำนวน 16 คน ซึ่งเป็นนักเรียนของ “ห้องเรียนรู้เพื่อเด็กและครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน” ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ FLEC  เปิดประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียน อบรมวิชาชีพการประกอบอาหารและขนมไทย ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 12 จังหวัดสงขลา สนับสนุนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การเตรียมและปรุงอาหารอย่างปลอดภัย ต่อยอดโครงการปลูกผักสวนครัวของห้องเรียนรู้ฯ ที่เด็ก ๆ ดูแลและเก็บไปทานกับครอบครัว ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มตั้งแต่ปี 2560   




ลูกหลานของแรงงานประมงข้ามชาติได้เรียนรู้การทำห่อหมกทะเล ขนมกะหรี่ปั๊บ ขนมเค้กไข่นึ่ง และขนมปุยฝ้าย กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด และเปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือฝึกทำอาหารตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น ชั่ง ตวงวัตถุดิบ หั่นเนื้อ ล้าง นวดแป้ง ปั้นขนม ปรุง จนถึงล้างและจัดเก็บอุปกรณ์และภาชนะที่ใช้ในการปรุงอาหาร เด็กๆ ได้ชิมอาหารที่ตนเองและเพื่อนทำทั้งยังนำกลับไปแบ่งกับครอบครัวที่บ้านอีกด้วย 




ด.ญ.รอเซีย วิน อายุ 13 ปี  กล่าวว่า ได้มาทัศนศึกษาเป็นครั้งแรก ชอบกิจกรรมเรียนทำอาหารครั้งนี้มาก ดีใจที่ได้มา สนุก ชอบช่วงที่นวดแป้งและทำกะหรี่ปั๊บมากที่สุด ตั้งใจว่า โตขึ้นจะเป็นแม่ครัว เรียนเป็นเชฟทำขนม   


ด.ญ.คีวา นู อายุ 14 ปี กล่าวว่า สนุกมาก ปกติชอบทำอาหารอยู่แล้ว ดีใจที่ได้ร่วมกิจกรรม สนุกที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ชอบมากตอนทำขนมเค้กไข่นึ่ง และภูมิใจได้ชิมขนมฝีมือตัวเอง ตั้งใจนำกลับไปฝากที่บ้านด้วย และฝึกฝนต่อที่บ้าน ก่อนหน้านี้คุณครูพาไปเที่ยวสวนสัตว์  เมืองเก่าของจังหวัดสงขลา  


“การจัดทัศนศึกษาช่วยเปิดโลกทัศน์ให้เด็กและเยาวชน เปลี่ยนบรรยากาศการเรียนรู้ กระตุ้นให้เด็กตั้งใจพัฒนาตนเองมากขึ้น ปีนี้ ศูนย์ FLEC จัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้กับเด็กแล้ว 4 ครั้ง เด็กชอบและสนุกกับกิจกรรม โดยเฉพาะ การเรียนการทำอาหารครั้งนี้สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก และช่วยให้เด็กตระหนักการปรุงอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย เป็นพื้นฐานช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งสามารถพัฒนาเป็นทักษะอาชีพได้อีกด้วย” นางสาวนาตยา กล่าว 


กิจกรรมเรียนการทำอาหาร เป็นกิจกรรมต่อยอดจากกิจกรรมส่งเสริมปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง เข้าถึงอาหารปลอดภัยที่ดีต่อสุขภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง และร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับครอบครัวแรงงานประมงข้ามชาติ สอดคล้องกับเป้าหมายของศูนย์ FLEC ในการส่งเสริมทักษะจำเป็นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน ให้แก่กลุ่มเปราะบาง 


ศูนย์ FLEC ได้ก่อตั้งและดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นการผนึกความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม 7 องค์กร ประกอบด้วย 1) องค์การสะพานปลา 2) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 3) สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ 4) ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา (บ้านสุขสันต์) 5) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ 6) บริษัท จีอีพีพี สะอาด จำกัด หรือ GEPP สตาร์ทอัพไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลการบริหารจัดการขยะ และ 7) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บูรณาการความเชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานประมงข้ามชาติ และครอบครัว กว่า 200 ครัวเรือน บริเวณท่าเรือประมงสงขลาให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ในทุกมิติ ทั้งมิติสุขภาพ การศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และถ่ายทอดความรู้ และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของครอบครัวแรงงานข้ามชาติ และต่อยอดสู่การส่งเสริมแรงงานประมงข้ามชาติเป็นอีกพลังร่วมในการจัดการปัญหาขยะในชุมชนและขยะในทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบความร่วมมือในการยุติปัญหาการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานผิดกฎหมาย และดูแลสิ่งแวดล้อมทางทะเล./ 


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ เขต จ.อยุธยา ยังอยู่ในสภาพที่ น้ำท่วมสูงอยู่ครับ …

 อ.บางบาล  อ.เสนา   อ.ผักไห่  เขต จ.อยุธยา ยังอยู่ในสภาพที่   น้ำท่วมสูงอยู่ครับ …



31 ต.ค.65  หน่วยกู้ภัยอยุธยา ศูนย์วิทยุรวมใจเสนา เผยภาพ  การย้ายร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคชรา  เป็นชาย อายุ 85 ปี จากบ้านหลังหนึ่งใน อ.บางบาล ที่ถูกน้ำท่วม โดยย้ายร่างนำลงเรือไปวัดเพื่อบำเพ็ญกุศล 




โดยญาติขอความอนุเคราะห์   รถและเรือ   รับร่างผู้เสียชีวิต จากหมู่ที่ 5 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล  นำส่งวัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา



การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก พื้นที่มีน้ำท่วมสูงต้องใช้เรือและอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้าย


 



Cr: ขอบคุณภาพ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ศูนย์วิทยุรวมใจเสนา


ต่อเวลาทาน “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก

 ต่อเวลาทาน “ปูขนฮ่องกง” ที่ห้องอาหารจีนหยก 

                                                   


                                                                          ตามคำเรียกร้องกับสุดยอดรสชาติของ “ปูขน” ที่เวียนกลับมาเพียงปีละครั้งเท่านั้นในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีสุด อร่อยสุดๆ  ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ จึงขยายเวลาต่อเนื่องเชิญชวนให้คุณมาลิ้มลอง “ปูขนนึ่งใบชา” ส่งกลิ่นหอมๆ เนื้อปูแน่นๆ มันเยิ้มๆ ทานพร้อมน้ำจิ้มผสมขิงซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ รับประกันความอร่อย เพียงตัวละ 990 บาท++ เท่านั้น มื้อกลางวันเปิดเวลา 11.30  – 14.30 น. และมื้อเย็น 18.00 – 22.00 น. บริการจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เท่านั้น

                                                                                                                   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะล่วงหน้าโทร.0-2276-4567 ต่อ 8429 ไลน์ : @theemeraldhotel และ www.facebook.com/yoktheemerald 


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ร้อยเอ็ด พิธีทอดผ้าป่าสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปี 2565 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

 ร้อยเอ็ด พิธีทอดผ้าป่าสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปี 2565 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร




วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 08.45 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสมทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปี 2565 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ณ วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ และ นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และพสกนิกรจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมพิธี ซึ่งมี พระพรหมวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 






            ในพิธีประธาน ได้จุดธูปเทียนเครื่องมนัสการบูชาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานไปที่ต้นผ้าป่า และถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จนเสร็จพิธี










            ทั้งนี้ ในการทอดผ้าป่าพระราชทาน ประจำปี 2565 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกันทำบุญน้อมถวายวัดวัดบูรพาภิราม พระอารามหลวง 763,604 บาท เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร และทำนุบำรุงพระศาสนา ต่อไป

////

คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ

ชาติ มหาชน ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนร้อยเอ็ดออนไลน์/รายงาน


ผอ.ฟ้า พรทิพา สุดปลื้ม เข้ารับ2รางวัลโครงการ "เทิดพระเกียรติองค์ราชัน

 ผอ.ฟ้า พรทิพา สุดปลื้ม เข้ารับ2รางวัลโครงการ "เทิดพระเกียรติองค์ราชัน"



   ที่โรงเเรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการจัดงาน ได้จัดโครงการเทิดพระเกียรติองค์ราชัน ร่วมกับองค์กรภาคี และคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลข่าวสารการยอมรับและเผยแพร่จากสื่อมวลชน ประชาชนส่วนรวมและสังคม องค์กร ชมรม เครือข่ายมวลชนในสาขาต่างๆทั่วประเทศ ได้พิจารณาเสนอชื่อ ประวัติ ผลงาน สรรหา การคัดเลือกบุคคลและองค์กร เพื่อเข้ารับรางวัลเกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง ชมเชย เชิดชู สรรเสริญให้เป็นบุคคล องค์กร เพื่อเกียรติยศ ชื่อเสียง ความภาคภูมิใจแก่ตนเอง ครอบครัว วงศ์ตระกูล และองค์กร ซึ่งสามารถดำรง ประกอบอาชีพจนประสบความสำเร็จ มีการบริหารจัดการที่ดีและมีความประพฤติปฏิบัติตน จนเป็นที่ยอมรับจากสังคมทั่วไป โดยในวันนี้ ผอ.ฟ้า พรทิพา ได้รับรางวัล 2 รางวัล คือ "รางวัลคนดีของสังคม สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น "และ "คนดีศรีปักษ์ใต้ สาขาคนดีที่พึงประสงค์ บุคคลต้นแบบตัวอย่างที่ทรงคุณค่าของคนใต้” 





ผอ.ฟ้า กล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมากและไม่คาดคิดว่าตนเองจะได้รับรางวัลในครั้งนี้ จุดเริ่มต้นคือเห็นท่าน ดร.อำนาจ ทำโครงการแล้วมันตรงกับใจของเราที่ต้องการจะมอบทุนการศึกษา ให้เด็กกำพร้าเด็กด้อยโอกาสและทางตำรวจชายแดนภาคใต้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ตนตั้งใจจะทำทุกอย่าง เจึงเกิดแรงบันดาลใจทำให้เราอยากจะช่วย ตอนแรกที่เห็นโครงการนี้ก็จะช่วย 500,000 บาท แต่ช่วงนี้งานกฐินก็เยอะ ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพจากสถานการณ์น้ำท่วมก็เยอะ จึงแบ่งมาทางโครงการนี้จำนวน 250,000 บาท และเห็นว่าโครงการดังกล่าวยังมีอีกหลายจังหวัดที่ยังต้องการทุนการศึกษา ตนก็จะช่วยสบทบไปเรื่อยๆ ส่วนที่ได้รับรางวัลในวันนี้ตนไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าสิ่งที่ตนทำจะมีรางวัลอะไรแบบนี้ สิ่งที่เราทำบุญเราทำด้วยใจ พอรู้ว่าตนได้รับรางวัลก็เลยมีความภูมิใจและตื่นเต้น เพราะรางวัลคนดีของสังคมที่ตนได้รับในครั้งนี้แสดงว่าสิ่งที่ตนทำมาทั้งหมดสังคมเริ่มเห็นในสิ่งที่เราทำ เพราะสิ่งที่เราทำเราไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือต้องการให้ใครเห็นเราเราทำเหมือนปิดทองหลังพระอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนคอยช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาสเป็นเพราะว่าเนื่องจากสมัยเด็กๆ พี่ฟ้าเคยลำบากมาก่อน เคยปากกัดตีนถีบมาก่อน ในช่วงที่คุณพ่อเสียชีวิต เราก็ลำบากยากจนเป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันมีแม่ก็ไม่ได้อยู่กับแม่ พอทุกวันนี้เรามีทุกอย่างก็เลยรู้สึกว่าอยากจะช่วยเหลือเด็กๆที่ลำบากยากจน ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือมาตลอด ช่วยตามกำลังที่พอทำได้ ยิ่งพอมาได้เห็นโครงการนี้ก็รู้สึกว่าใช่เลย ยิ่งต้องสนับสนุน 






ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการจัดงาน โครงการเทิดพระเกิยรติองค์ราชัน กล่าวว่า ในวันนี้เราได้จัดกิจกรรมในเรื่องของการเสริมสร้างบุคลากรที่จะเป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนา ขับเคลื่อน และสร้างความเข้มแข็งความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยเฉพาะคนดี คิดดี ทำดี และคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม รวมไปถึงนักธุรกิจที่เป็นแบบอย่างที่ดีนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืนต่อไป ในการส่งเสริมกำลังใจในการมอบรางวัลเกียรติคุณในสาขาต่างๆในวันนี้ สิ่งสำคัญวันนี้เราได้มีการเห็นความสำคัญการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กพิการและเด็กยากจนรวมไปถึงโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายๆฝ่ายโดยเฉพาะ ผอ.ฟ้า พรทิพา ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ทีวี ที่เอื้ออำนวยในการสมทบทุนในการช่วยเหลือเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสทั้งหมด ในนามขององค์กรเครือข่ายภาคีทั้งหมดและเด็กๆน้องๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือก็ต้องขอขอบคุณ ผอ.ฟ้าและทีมงานในครั้งนี้ด้วย