วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คุณ ศุภผล จริงจิตร ผอ.นสพ.เอกรัฐ /ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน เข้ารับใบประกาศเกียรติคุณ"ปรัชญานิยม"SING AWARDS 2020 สสพบ.1 ประจำปี 2563

 คุณ ศุภผล จริงจิตร ผอ.นสพ.เอกรัฐ /ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน เข้ารับใบประกาศเกียรติคุณ"ปรัชญานิยม"SING AWARDS 2020 สสพบ.1 ประจำปี 2563


เมื่อเวลา 14:00 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2563 ณ ห้องสโมสร กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ฯ ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีในรัชการที่ 9 ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ "ปรัชญานิยม" ซึ่งเป็นโครงการเสริมการบริหาร และการจัดการเพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้บริหารระดับสูง SING AWARDS 2020 สสพบ.1 (รุ่นที่ 1) ประจำปี 2563 โดยบุคคลผู้ที่เข้ารับรางวัลจะถูกคัดสรรจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆเช่น ภาครัฐ ,ภาคเอกชน ,ภาคเอกชนทั่วไป ฯลฯ และมีคุณสมบัติของผู้บริหาร/หัวหน้างานที่ดี 10 ประการ



1.เป็นผู้บริหารที่มีความรับผิดชอบสูงกว่าคนทั่วๆไป

2.เป็นผู้บริหารที่เป็นผู้นำและต้องเป็นแบบอย่างให้ผู้ตาม

3.เป็นผู้บริหารที่มีแนวความคิดในเชิงบวก

4.เป็นผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่อทุกๆสถานการณ์

5.เป็นผู้บริหารที่มีการพัฒนาตนเองตลอดเวลา

6.เป็นผู้บริหารที่มีการรับฟังที่ยอดเยี่ยม

7.เป็นผู้บริหารที่มีความกระตือรือร้นในหน้าที่

8.เป็นผู้บริหารที่มีการปกครององค์กร หรือหน่วยงานที่เป็นแบบประชาธิปไตย

9.เป็นผู้บริหารที่มีความยุติธรรม

10.เป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล

โดยแบ่งเป็นสาขาดังนี้

- สาขา ส่งเสริมศาสนาดีเด่น

- สาขา ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น

- สาขา ข้าราชการดีเด่น

- สาขา ปกครองท้องถิ่นดีเด่น

- สาขา บริหารการศึกษาดีเด่น

- สาขา ส่งเสริมการกีฬาดีเด่น

- สาขา ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น

- สาขา การแพทย์ การสาธารณสุขดีเด่น








และในวันนี้ คุณ ศุภผล จริงจิตร ผอ.นสพ.เอกรัฐ / ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน ได้รับเกียรติ เดินทางมาเข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณ "ปรัชญานิยม" SING AWARDS 2020 สสพบ.1 (รุ่นที่ 1) ประจำปี 2563 ประเภทด้านสาขา โครงการส่งเสริมและจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้บริหารระดับสูง จากจำนวน 37 ท่านที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณ "ปรัชญานิยม" SING AWARDS 2020 ในครั้งนี้








พร้อมกันนี้ พันเอก (พิเศษ) ประเสริฐ วิชิตอำพล ผู้อำนวยการส่วนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน.ได้รับเกียรติเข้ารับประกาศเกียรติคุณในประเภท ด้านสาขา ข้าราชการดีเด่น และ









พันตำรวจเอก สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง ซึ่งได้รับเกียรติเข้ารับประกาศเกียรติคุณ จากประเภทด้านสาขา ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น เช่นกันด้วย












ศอ.บต. เดินหน้าช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและผู้พิการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กิจกรรม “เก้าอี้สุขใจ สู่รองเท้าสั่งตัด” พร้อมเปิด “ธนาคารอุปกรณ์ช่วยเหลือความพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้”

 นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ศอ.บต. เดินหน้าช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและผู้พิการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กิจกรรม “เก้าอี้สุขใจ สู่รองเท้าสั่งตัด” พร้อมเปิด “ธนาคารอุปกรณ์ช่วยเหลือความพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้”



     ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานด้านการพัฒนาในทุกมิติ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และผู้พิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดย ศอ.บต. ได้สนองแนวทางพระราชดำริฯ จัดทำอุปกรณ์ช่วยเหลือด้านความพิการ ภายใต้กิจกรรม “เก้าอี้สุขใจ สู่รองเท้าสั่งตัด” ให้กับเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน  ทั้งสิ้นกว่า 400 คน ทำให้เด็กพิการมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยมีหลักการสำคัญที่จะต้องดำเนินการ คือ การช่วยเหลือให้คนพิการเคลื่อนไหวได้ การช่วยเหลือให้คนพิการได้รับการศึกษา และการช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ



    ล่าสุด ศอ.บต. จัดกิจกรรมคัดกรองและประเมินความพิการ โดยมี ครอบครัว และผู้พิการจากพื้นที่จังหวัดยะลา เข้ารับบริการในครั้งนี้กว่า 100 คน เพื่อรับการสนับสนุนอุปกรณ์ฟื้นฟูสภาพความพิการและอุปกรณ์ช่วยความพิการจากสถาบันสิรินธร และขับเคลื่อนการจัดตั้ง “ธนาคารอุปกรณ์ช่วยเหลือความพิการ จังหวัดชายแดนภาคใต้” ขยายผลสู่การบริการช่วยเหลือเด็กพิการแบบครบวงจร จนสามารถนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา ซึ่งมีศูนย์การศึกษาพิเศษในพื้นที่ 5 จังหวัด รองรับรวมไปถึงศูนย์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของการให้บริการเด็กที่ผ่านเตรียมการจากศูนย์การศึกษาพิเศษ เข้าสู่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับประถมศึกษาต่อไป



    ด้านนายชนธัญ แสงพุ่ม  รองเลขาธิการ ศอ.บต. เผยว่า ศอ.บต.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่อย่างมาก ส่วนการดำเนินโครงการนั้นจะต้องดำเนินการครอบคลุมให้ได้ ตั้งแต่การจัดสรรอุปกรณ์ทั้งเก้าอี้สุขใจ รองเท้าสุขใจ และการฝึกด้านกายภาพ เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้สามารถช่วยเหลือตนเองได้และท้ายที่สุดเป็นการฝึกฝนด้านอาชีพ เพื่อให้มีรายได้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต



    การช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ขับเคลื่อนดูแลพี่น้องประชาชนตามพระราชดำริ โดยมีชุดอุปกรณ์เพื่อทำกายภาพร่างกาย 4 รายการ คือ รองเท้าสุขใจ เก้าอี้สุขใจ เตียงฝึกยืน และวอกเกอร์ พร้อมจัดจ้างนักกายภาพดูแลเด็กพิการในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำการดูแลแก่ผู้ปกครอง การประเมินผลเบื้องต้น


วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สมาคมสื่อฯภาคอีสาน รุกติดอาวุธทางปัญญาให้กับเยาวชนพระลับ “ใช้สื่อสังคมออนไลน์ อย่างสร้างสรรค์ และมีพลัง”

 


สมาคมสื่อฯภาคอีสาน รุกติดอาวุธทางปัญญาให้กับเยาวชนพระลับ “ใช้สื่อสังคมออนไลน์ อย่างสร้างสรรค์ และมีพลัง”

เมื่อวันที่  27 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์เรียนรู้ 19 พอเพียง บ้านโนนสวรรค์ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) ร่วมกับตำบลพระลับ ,ชมรมสื่อสร้างสรรค์ จังหวัดขอนแก่น และสถาบันพัฒนสื่อสารมวลชน จัดโครงการพัฒนาศักยภาพนักสื่อสารสร้างสรรค์ จ.ขอนแก่น ประจำปี 2563 เรื่อง “การใช้สื่อสังคมออนไลน์ อย่างสร้างสรรค์ และมีพลัง” ขึ้น ระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม 2563 





โดย นายศิวกร มิตราช ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการ นายปุณพจน์ เขม้นเขตการ นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ ,นางสาวปนัดดา ปิณฑะดิษ นักพัฒนาสังคม ,พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) ,นายวินัย ทองทัพ กำนันตำบลพระลับ ,นางสุพัตรา ศุขโข ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์ จังหวัดขอนแก่น ,ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 19 หมู่บ้านในตำบลพระลับ ,ผู้บริหารตำบลพระลับ และผู้เข้ารับการอบรม เข้าร่วมพิธี




ได้รับเกียรติจาก อาจารย์สุชาติ พรมมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อ เวปไซค์ สร้างแอพพลิเคชั่น และโซลูชั่นบนมือถือ มาเป็นวิทยากร ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ให้กับผู้เข้ารับการอบรม และ ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ผอ.มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นไทย บรรยายพิเศษเรื่อง "วิสาหกิจไทย สร้างชาติ สร้างอนาคต" เพื่อเตรียมส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหลังสภาวะโรค covid-19 ระบาดที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคลากรจากตำบลพระลับ นักเรียนโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 (สมาน สุเมโธ)  และโรงเรียนบ้านพระคือหนองโพธิ์วิทยา รวมทั้งสิ้น 58 คน




พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี อย่างไม่หยุดยั้ง กระบวนการเรียนรู้ของคนในสังคมเริ่มเปลี่ยนแปลง สื่อกลายเป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งใหม่ที่สามารถกระตุ้นการรับรู้ และดึงดูด ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนจะใช้เวลาไปในการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น หากเยาวชนและประชาชนในชุมชนตำบลพระลับได้รับการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีรูปแบบและเนื้อหาที่มีคุณภาพ ให้เกิดความฉลาดรู้ด้านสื่อ และความตื่นรู้ทางปัญญาได้อย่างทรงพลัง จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านนักสื่อสารสร้างสรรค์ ที่ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตสื่อ และสามารถบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนตนเองได้อย่างภาคภูมิใจ




สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในอิทธิพลของสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย จึงต้องการส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนในชุมชนตำบลพระลับ ได้เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ พร้อมฝึกปฏิบัติการผลิตสื่อแบบเข้มข้นจากนักสื่อสารมืออาชีพ ให้ความรู้ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในยุคดิจิทัล เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับงานด้านประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเซียลมีเดีย และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และการทำงานในอนาคตได้  

“จากการประเมินผลการอบรมทั้ง 2 วันที่ผ่านมา ได้เห็นถึงความตั้งใจในการรับฟัง และมีการสอบถาม ในเรื่องต่างๆ ทำให้ คณะผู้จัดโครงการ เกิดความเชื่อมั่นว่า ผู้เข้ารับการอบรมกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ สามารถที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้รับ ไปต่อยอดขยายผลในการทำงาน และใช้ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น และผลงานที่ผู้เข้ารับการอบรมได้มีการนำเสนอในครั้งนี้ คณะผู้จัดโครงการก็จะรวบรวมเพื่อนำไปมอบให้กับผู้สนับสนุนโครงการ และนำไปขยายผลในช่องทางสื่อต่างๆ ที่เรามีต่อไป” พ.ท.พิสิษฐ์ กล่าวในตอนท้าย

         # คุณธรรมคู่ความดี #

หนุ่ม มังกร ฝั่งโขง & ดร.พรเทพ

ได้ร่วมกันแจกข้าวสารอาหารแห้งแก่พี่น้องแท็กซี่และพี่น้องวินมอเตอร์ไซร์รับจ้างที่ ถนนเกษตร- นวมินทร์ร่วมกันสร้างบุญสร้างกุศล ครับพี่น้อง








นิพนธ์ ย้ำ ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อให้ทันโลกยุคดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อก่อเกิดประโยชน์ในการจัดการและการผลิต

 นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

นิพนธ์ ย้ำ ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อให้ทันโลกยุคดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อก่อเกิดประโยชน์ในการจัดการและการผลิต



        นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานเปิดงาน โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Early Stage) ปี 2563 ในงานเทศกาลสินค้า SMEs ภาคใต้ ครั้งที่ 4 ภายใต้กรอบความคิดที่ว่า "เลิกทำสิ่งเก่า เริ่มทำสิ่งใหม่" ณ ชั้น 5 หาดใหญ่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

 โดยมีนายชาวันย์ สวัสดิ์ชูโต ที่ปรึกษาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผศ.ดร. นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  รองอธิการบดีฝายกฎหมาย และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

 คณะกรรมการจัดโครงการ  ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส) ผู้แทนธนาคารออมสิน และผู้แทนธนาคาร SME Development Bank และผู้ประกอบการในโครงการ เข้าร่วมในพิธีเปิดงาน พร้อมกับเยี่ยมชมบูธจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs ภายในบริเวณงาน



    นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว่า ผมขอชื่นชม รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งภายใต้กรอบความคิด ที่มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ระดับ SMEs โดยการสร้างและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ให้สามารถป็นผู้ประกอบการที่ทันกับโลกยุคสมัยใหม่  โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้ก่อเกิดประโยชน์ ลดต้นทุน เกิดเป็นมูลค่าเพิ่ม และมีองค์ความรู้ด้านการจัดการที่ถูกหลักการ เพื่อให้รองรับกับยุคดิจิทัลและบริบททางธุรกิจ ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้



   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องให้ความสำคัญกับ SMEs เพราะถือเป็นฐานหลักเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น จะต้องได้รับการส่งเสริม และช่วยเหลือจากผู้ที่มีหน้าที่หลัก และผู้ที่มีความสามารถมาร่วมกันทำงานอย่างเร่งด่วน  ในการนี้ ทางสสว. มีนโยบายและกรอบการดำเนินงาน ที่จะเข้ามาช่วยหนุน SMEs ของประเทศ โดยการเลือกหน่วยร่วมที่มีคณะทำงาน ผู้เชี่ยวชาญอย่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้ามาร่วมดำเนินการในโครงการ ร่วมกับหน่วยร่วมธนาคารต่าง ๆ เช่น ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน และธนาคาร SME Development Bank ถือได้ว่าเป็นองคาพยพที่เหมาะสม และพร้อมทำงานให้แก่ผู้ประกอบการใหม่ได้เป็นอย่างดี



 ภายใต้คอนเช็ปต์งานปีนี้ "เลิกทำสิ่งเก่า เริ่มทำสิ่งใหม่" ฟังดูอาจจะทำง่าย  แต่แท้จริงแล้วยาก แต่หากทำแล้วจะส่งผลที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการในบ้านเรา ให้สามารถแข่งขันและปรับตัวได้รวดเร็วกับโลกธุรกิจ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับไว ประกอบกับกิจกรรมรายละเอียดของการพัฒนาผู้ประกอบการนั้น ก็เป็นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่แนวความคิดจนถึงทดสอบตลาดจริง ถือว่าเป็นกระบวนการที่ครบถ้วน  เพื่อการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการที่แท้จริง  ผมต้องขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ามาสู่รอบกิจกรรมนี้ได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานแสดงสินค้าในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ให้เกิดการพัฒนา ต่อยอดและขยายกิจการ ได้อย่างยั่งยืนต่อไป รวมไปถึงต้องขอชื่นชมคณะกรรมการผู้จัดโครงการ และธนาคารที่เป็นหน่วยร่วม ดำเนินการช่วยกันพัฒนาผู้ประกอบการใหม่  โดยเฉพาะต้องจัดงานกิจกรรมในสถานการณ์ New nomal แบบนี้ และขอชื่นชมทางหน่วยงานสสว. ที่ให้การสนับสนุนโครงการในลักษณะแบบนี้ จนก่อให้เกิดการพัฒนาที่มีผลลัพธ์เชิงประจักษ์ เป็นโครงการแบบอย่างที่ดีของการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ ผมขอใช้โอกาสนี้อวยพรให้การเริ่มต้นกิจการของผู้ประกอบการใหม่ทุกท่าน ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ และให้งานแสดงสินค้าดำเนินลุล่วงไปได้ด้วยดี