วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

ร่วมกันฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณสี่แยกไฟแดงเคหะบางพลี เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานครั้งที่ 2



เมื่อวันพฤหัสดี ที่  ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ เวลา  ๑๕.๐๐ น. นายกำธร เวหน นายอำเภอบางเสาธง, นางประนอม แซ่ลี้ นายกเทศมนตรีตำบลบางเสาธง, พ.ต.ท.ก้องสกล ภูธร สารวัตรจราจร, นายจรินทร์ สมศรี ปลัดเทศบาล, นายณัฏฐ์กรณ์ หน่อนิล ปลัดอำเภอ ร.อ.มรกตฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ฯลฯ ร่วมกันฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณสี่แยกไฟแดงเคหะบางพลี เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานครั้งที่ 2










ภาพ/ข่าว  โดยทีมข่าว
ผอ.ภย. สมุทรปราการ
รายงาน

ประชุมและลงพื้นที่ตรวจโรงงาน โดยบูรณาการร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด,กอ.รมน.จว.ส.ป.,ฝ่ายปกครอง,จนท.ตร.สภ.บางเสาธง,สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอำเภอ,แพทย์ประจำตำบล พร้อมด้วยนักข่าว ลงพื้นที่ตรวจโรงงาน จำนวน ๒ แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM๒.๕ ในพื้นที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จว.ส.ป.



เมื่อ ๓๑๑๖๐๐ ม.ค.๖๒ ร้อย รส.จว.ส.ป.(ร.๑๑๒ พัน.๑)มว.รส.(พล.ร.๑๑)โดย ชป.ร.ส. อ.บางเสาธง ได้เข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่ตรวจโรงงาน โดยบูรณาการร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด,กอ.รมน.จว.ส.ป.,ฝ่ายปกครอง,จนท.ตร.สภ.บางเสาธง,สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอำเภอ,แพทย์ประจำตำบล พร้อมด้วยนักข่าว ลงพื้นที่ตรวจโรงงาน จำนวน ๒ แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM๒.๕ ในพื้นที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จว.ส.ป.
 โดยมีรายละเอียดดังนี้





๑.บริษัท ไทย อกริ ฟู้ดส์ ๑ จำกัด (มหาชน)
๒.บริษัท ไทย อกริ ฟู้ดส์ ๒ จำกัด (มหาชน)
ทั้ง ๒ บริษัทนี้ตั้งอยู่ในโรงงานเดียวกัน โดยประกอบกิจการผลิตอาหารแปลรูป,อาหารกระป๋อง,ผลไม้กระป๋อง,กะทิ  ส่งออกต่างประเทศและในประเทศ
ผลการตรวจสอบโรงงาน
๑.มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานและผลิตอาหารแปลรูปถูกต้อง
๒.โรงงานมีระบบกลั่นกรองฝุ่นละอองและควัน,มีหลังคาปิดมิดชิด ถูกต้องตามมาตรฐาน
๓.มีระบบปรับอากาศกำจัดควันเพื่อไม่ให้ออกจากโรงงาน
๔.ไม่พบการกระทำความผิดหรือการปล่อยมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาฝุ่นละออง






PM๒.๕ภาพ/ข่าว  โดยทีมข่าว
ผอ.ภย. สมุทรปราการ
รายงาน

“ พิธีปล่อยแถวโครงการแสดงความเชื่อมั่นในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาล วาเลนไทน์ประจำปี 2562 เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื




“ พิธีปล่อยแถวโครงการแสดงความเชื่อมั่นในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาล    วาเลนไทน์ประจำปี 2562 เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน “

วันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2562
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น โดยส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ประเพณี วัฒนธรรม และกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานเพื่อเป็นการพัฒนาการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการรณรงค์เพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการและอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย




สำหรับในช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลวาเลนไทน์ของทุกๆปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อการพักผ่อนและจับจ่ายซื้อสิ่งของเพราะเป็นวันหยุดยาวซึ่งถือว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนที่อาศัยทั่วโลก กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวนำโดย พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความปลอดภัยและบริการแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวแสดงกำลังสร้างความเชื่อมั่นในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลวาเลนไทน์ ปี 2562 ณ วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมการปกครอง, กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอยภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงเทศกาลนี้ โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวนกว่า 1,000 นาย ร่วมกับอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ออกปฏิบัติการตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญพร้อมมาตรการให้ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อให้การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนและเทศการวาเลนไทน์ของนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีความสุข สนุกสนานและปลอดภัย ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก  นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาเป็นประธาน พร้อมมอบนโยบายในด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และในการนี้ตัวแทนจากสถานทูตในประเทศกลุ่มอาเซียนรวมทั้งตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หน่วยงานรักษาความปลอดภัย ตัวแทนการท่องเที่ยวภาคเอกชนเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วยได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมิตรของคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่มีใจโอบอ้อมอารี ช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อของเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติติหน้าที่อย่างมืออาชีพซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยและมีความประทับใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย








ตามที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยที่สร้างรายได้สำคัญให้กับประเทศ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจึงตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั้งนี้ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านทางประเพณีและวัฒนธรรม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ประกาศอย่างยิ่งใหญ่ให้ปี 2561 เป็น ปี “ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน”

25ปี สมาคมป้องกันการทารุณสัตวแห่งประเทศไทย(TSPCA)



25 ปี สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA)
นายธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ นายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2537  สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ถือกำเนิดขึ้นโดยกลุ่มผู้รักสัตว์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์และลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์อย่างต่อเนื่อง เพราะ “สัตว์” แม้จะพูดเองไม่ได้ เรียกร้องสิทธิให้ตัวเองไม่ได้เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่ก็มีชีวิต จิตใจ มีความรู้สึก รับรู้ได้ถึงความทุกข์ทรมานเจ็บปวดจากการกระทำของมนุษย์ มนุษย์จึงควรปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีมนุษยธรรมมากขึ้น
     




พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 เป็นผลจากการเรียกร้องกันมายาวนาน โดยมีสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และกลุ่มคนรักสัตว์ที่เป็นพันธมิตรร่วมกับสมาคมฯ กรมปศุสัตว์ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ช่วยกันจนสามารถผลักดันให้กฎหมายนี้สำเร็จ มีผลบังคับใช้เมื่อ 27 ธันวาคม 2557
          กว่า 4 ปีแล้วที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้  ซึ่งปีที่ผ่านมาก็มีกระแสในการที่จะแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องการขึ้นทะเบียนสัตว์ ของกลุ่มสนช.และกรมปศุสัตว์ ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วยในหลักการ  การขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว แต่วิธีการต้องพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบก่อน โดยเฉพาะต้องพิจารณาว่ากฎหมายที่จะแก้ไข เพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 นั้น มีความเหมาะสมสอดคล้องกับเจตนารมณ์หรือไม่ ไปซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นหรือไม่ เพราะเดิม มีกฎหมายอย่างน้อย ถึง สองฉบับคือ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ที่ให้ขึ้นทะเบียนสัตว์อยู่แล้ว และการเสนอเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปนั้นย่อมเพิ่มภาระให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น ดังนั้น การขึ้นทะเบียนสัตว์จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาแต่ต้องมีมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย คือ การทำหมัน ฉีดวัคซีน หาบ้านใหม่และการสร้างจิตสำนึกควบคู่กันไป สำหรับการนิยามสัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาตินั้น ก็เป็นที่น่ายินดีที่มีการประกาศให้ครอบคลุมสัตว์ป่า เพิ่มอีก 5 ชนิด ซึ่งอนาคตควรมีการประกาศเพิ่มขึ้นและให้ครอบคลุมสัตว์ป่าให้มากยิ่งขึ้นด้วย
       









 25 ปี สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA)  ที่ผ่านมา ได้ดำเนินกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ หลากหลายมิติ เช่น โครงการเผยแพร่เนื้อหาและวิธีใช้พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557  โครงการบ้านอุปถัมภ์ สัตว์จรจัดกว่า 5,500 ชีวิตจากบ้านอุปถัมภ์ 26 แห่งทั่วภูมิภาคของประเทศ ที่สมาคมฯ ดูแลทั้งด้านอาหาร ยารักษาโรค เพื่อให้สัตว์จรจัด มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  โครงการรักสัตว์ในโรงเรียน ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการปลูกฝังให้เยาวชนมีความรักและเมตตาต่อสัตว์ ซึ่งได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือเสริมประสบการณ์เกี่ยวกับการส่งเสริมสวัสดิภาพและป้องกันการทารุณสัตว์ โดยจัดพิมพ์และมอบให้กับโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง  และร่วมกับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ในการพัฒนาหลักสูตรลูกเสือสวัสดิภาพสัตว์ การจัดตั้งสโมสรลูกเสือสวัสดิภาพสัตว์  โครงการพัฒนาเครือข่าย จากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศกว่า 90 องค์กร ในการช่วยสอดส่องดูแลและช่วยลดปัญหาการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้ดียิ่งขึ้น  ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขอมติมหาเถรสมาคมในการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ให้เขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามปล่อย และซื้อขายสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร รวมทั้งได้การจัดกิจกรรมรณรงค์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น “ทำบุญ ไม่ทารุณสัตว์” “ปล่อยนก บุญ หรือบาป?” และ “รักไม่ปล่อย” ในปีนี้ จะมีการจัดทำคู่มือและการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูวาฬและโลมา  และที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ กรรมการสมาคมฯ นายสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจรักษาช้าง ที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เป็นต้น
เป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อเร็วๆ นี้ รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และอุปนายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้รับรางวัลระดับโลก "WORLD VETERINARY ASSOCIATION ANIMAL WELFARE AWARDS 2019" รองศาสตราจารย์นุชทิพย์ บรรจงศิลป์ อุปนายกสมาคมฯ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นแห่งชาติ จากสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน กรรมการและปฏิคมสมาคมฯ ได้รับมอบตำแหน่ง Wildlife Champion ในฐานะ “ทูตพิทักษ์สัตว์ป่าคนแรกของโลก” จากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ หรือ USAID (U.S. Agency of International Development ) อีกด้วย
          สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) จะยังคงมุ่งมั่นทุ่มเท ทำงานเพื่อสร้างสรรค์คุณประโยชน์ ในการช่วยเหลือดูแลสรรพสัตว์น้อยใหญ่ไม่ให้ได้รับการทารุณกรรมอย่างไม่สมควร และพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ให้ยั่งยืนสืบต่อไป


ซีพี ออลล์ เดินหน้าจัดงาน “ซีพี ออลล์ กับยุทธศาสตร์การศึกษา 2562” (CP All Education Forum 2019) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายการศึกษาร่วมพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนของประเทศให้มีศักยภาพโดยใช้หลักสูตรการเรียนภาคทฤษฎีควบคู่กับการฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ  มีผู้บริหารสถานศึกษาพร้อมด้วยคณาจารย์และนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน  พร้อมมอบทุนการศึกษาประจำปีรวมทั้งสิ้นอีกกว่า 1,360 ล้านบาท เพื่อศึกษาในปัญญาภิวัฒน์ฯและเครือข่าย
ภายในงานมี ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การศึกษาไทยแห่งอนาคต” และการเสวนาพิเศษหัวข้อ “การศึกษาไทยในฝันของ GEN Y” โดย คุณครูชินกร พิมพิลา คุณครูจากโรงเรียนบ้านนาสีนวล จ.สกลนคร, วิว-ชนัญญา เตชจักรเสมา ยูทูปเปอร์นักเล่าเรื่องเจ้าของช่อง “Point Of View”  และ ว่าที่ร.ต.อิสามะแอ สะแม  บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) “นักศึกษาสู้ชีวิตสู่นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ”  ร่วมเสวนา




นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ซีพี ออลล์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ “คน” ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงได้ดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการก่อตั้งสถาบันการศึกษาเพื่อสังคมขึ้นมา 2 แห่ง คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (PAT) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์(PIM) นอกจากนี้ยังได้เปิดศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ จำนวน 20 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อรองรับนักเรียนที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนโดยไม่ต้องทิ้งถิ่นกำเนิด เพราะสามารถเรียนได้ในจังหวัดบ้านเกิดหรือจังหวัดใกล้เคียง โดยใช้รูปแบบการสอนในระบบ VDO Conference  สถาบันการศึกษาเพื่อสังคมในกลุ่มซีพี ออลล์ ใช้ระบบการเรียนการสอนภาคทฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติงานจริง หรือ Work-based Education เป็นหลักสูตรการจัดการศึกษาที่พัฒนาเยาวชนให้ได้ทั้งความรู้ ความสามารถและทักษะที่พร้อมปฏิบัติงานได้จริงเหมาะกับโลกในยุคปัจจุบัน




“การเรียนรู้ด้านธุรกิจควบคู่กับการเสริมประสบการณ์จากการฝึกปฏิบัติงานจริง คือ จุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่การเป็นเจ้าของกิจการเหมาะกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ จึงได้นำหลักสูตรการเรียนการสอนแบบ Work-based Education มาพัฒนาสถาบันการศึกษา เป็นสถาบันการศึกษาเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์นโยบายด้านการจัดการศึกษาของรัฐบาลสร้างเยาวชนสู่มืออาชีพ ตลอดระยะเวลากว่า 24 ปี ที่ผ่านมา ซีพี ออลล์,วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์(PAT), สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM), ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์และสถานศึกษาในเครือข่ายความร่วมมือ ได้ผลิตเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี คนเก่ง ของสังคม ไปแล้วกว่า 30,000 คน โดยในปี 2562 ซีพี ออลล์ เตรียมมอบทุนการศึกษาอีกจำนวนกว่า 24,000 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,360 ล้านบาท ให้กับนักเรียนนักศึกษาของปัญญาภิวัฒน์และเครือข่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชนไทยและเป็นไปตามปณิธานของซีพี ออลล์ นั่นคือ “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับทุกคน” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวทิ้งท้าย
-----------------