วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ปิดชิงนายกสภาทนายความ ..

 เปิดชิงนายกสภาทนายความ ..



      เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.วิเชียร ชุบไธสง นำคณะรวม 23 คน ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ จับสลากได้นายก เบอร์ 3 และกรรมการสภาทนายความ เบอร์ 25-46 ในการเสนอตัวเพื่อชิงนายกสภาทนายความครั้งนี้จะใช้กลยุทธ์ 5 ป.คือ “ปกป้อง ปรับปรุง โปร่งใส เปิดกว้าง ประสิทธิภาพ” โดยชูนโยบาย 6 ด้านในการที่จะเข้าไปบริหารสภาทนายความ คือ

1. ปกป้องเกียรติยศองค์กร เพื่อผดุงไว้ซึ่งเกียรติของวิชาชีพทนายความ และไม่เอาแนวทางปฏิรูปการศึกษานิติศาสตร์แห่งชาติ ด้านวิชาชีพทนายความ

2.ปรับปรุงด้านสวัสดิการ โดยจะฟื้นฟูกองทุนต่างๆของสภาทนายความ ให้สมาชิกทนายความได้รับเงินสวัสดิการมากขึ้น สูงขึ้น และเร็วขึ้นในทันที โดยภายในสามเดือนจะเห็นการเปลี่ยนแปลง

3.ปรับปรุงด้านเทคโนโลยี จะนำระบบ Digital และ Blokchain มาใช้ในการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเพิ่มช่องทางการต่อใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และจ่ายเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ผ่าน Application 

4. จัดการบริหารองค์กร ยึดหลักการบริหารองค์กรด้วยการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้อย่างเคร่งครัด  พร้อมเพิ่มโครงสร้างด้วยการ

กระจายอำนาจอย่างแท้จริงไปยังส่วนภูมิภาค

5.ด้านวิชาการ จัดให้มีการอบรมหลักสูตรเฉพาะทางชำนาญการ 36 หลักสูตร จัดการอบรมวิชาทั้งระบบ Online และ Onsite อย่างทั่วถึง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้เฉพาะทางมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างงานวิชาการ ทุกรูปแบบ  จัดห้องสมุด E-Library บรรจุข้อมูลคำพิพากษาฎีกาใหม่ล่าสุด ตัวบทกฎหมาย แบบฟอร์มศาลและหน่วยงานภาครัฐ ไว้ให้สืบค้น 

6.เพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย โดยจะช่วยเหลือประชาชนที่ยากไร้และไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมายเชิงรุก และเปิดโอกาสให้ส่วนภูมิภาคเป็นผู้อนุมัติให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย   รวมถึงการเพิ่มค่าตอบแทนทนายความอาสานั่งเวรวันละ 1,500 บาท โดยจ่ายภายในหนึ่งเดือน 






#สรุปนโยบายส่วนขยายดูเพจคณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง 

#ไม่มีใครรักเราเท่าเรารักกัน

“ชณทัต ปัทะมะภูวดล“อุปนายก” สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ เข้าแสดงความยินดี ‘’เปิดสถานกงสุล’’จังหวัดเชียงใหม่

 “ชณทัต ปัทะมะภูวดล“อุปนายก” สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ 

เข้าแสดงความยินดี

‘’เปิดสถานกงสุล’’จังหวัดเชียงใหม่



เอกอัครราชทูต สหพันธรัฐรัสเซีย 

ประจำประเทศไทย พณฯ นายเยฟกินี โทมิคิน (Evgeny Tomikhin) 


 ‘’ สุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือ CP เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซียในเขตภาคเหนือของประเทศไทย ครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย 




วันที่ 21 กพ 2565 ผู้สือข่าวรายงานว่าเมื่อ 18 -กพ -65 ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย พณฯ เยฟกินี โทมิคิน (Evgeny Tomikhin) พร้อมด้วย นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน ร่วมทำพิธีเปิดสำนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย พร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลคุ้มครองบุคคลสัญชาติรัสเซียที่พำนักอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยมีแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน อาทิ นายศักดิ์ชัย  คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสืบพงษ์  นิ่มพูลสวัสดิ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พลโท บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.ท.ปิยะ  ต๊ะวิชัย  ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ชณทัต ปัทะมะภูวดล อุปนายกสมาคมกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล  สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  เป็นต้น ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสำนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธรัฐรัสเซียประจำจังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่  บนถนนศิริมังคลาจารย์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

 



ฯพณฯ เยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า  พิธีเปิดสำนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ถือเป็นโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 125 ปี ไทย-รัสเซีย และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว โดยรัสเซียพร้อมให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือทางการทูต และในโอกาสนี้ขอแจ้งให้ทราบถึงการเปิดเที่ยวบินระหว่างรัสเซีย - เชียงใหม่ โดนหวังว่าหากสถานการณ์โควิดดีขึ้น นักท่องเที่ยวจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยในอีกไม่ช้า

 


นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ยินดีที่มีโอกาสได้รับตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีภูมิประเทศที่งดงาม อุดมด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า การอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าก็มีส่วนสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยในตอนนี้กำลังมีเป้าหมายที่จะอนุรักษ์ช้างในพื้นที่ ซึ่งมูลนิธิเพื่อช้างดำเนินการให้ความช่วยเหลืออยู่ในเบื้องต้น  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นเราจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซียให้ได้มาเที่ยวชมความสวยงามและความสมบูรณ์ของภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทย ทั้งนี้ สำนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมให้ความช่วยเหลือกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพำนักในประเทศไทยหากเกิดปัญหาใดๆ ระหว่างอยู่ที่นี่อย่างเต็มที่

 

ปัจจุบันคนรัสเซียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยสูงเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป และก่อนเกิดโควิด-19 มียอดนักท่องเที่ยวรัสเซียมาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 1.4 ล้านคน สูงเป็นอันดับที่ 3 รองจากจีน และมาเลเซีย (จากข้อมูลปี 2563) และสร้างรายได้มากกว่า 100,000 ล้านบาทในแต่ละปี โดยเดินทางมาเยือนเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอนไม่น้อยกว่า 10,000 คนต่อปี ตลอดจนพำนักอาศัยในจังหวัดดังกล่าวมากกว่า 1,000 คน โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจมรดกทางวัฒนธรรมและโอกาสทางธุรกิจ จากแต่เดิมที่คนรัสเซียนิยมท่องเที่ยวทางทะเลในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศไทยเป็นหลัก การเปิดสำนักงานกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกแก่ชาวรัสเซียที่เดินทางมาพำนักอยู่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก

"มูลนิธิพระราหู"โดย ดร.หิมาลัย ร่วมกับ ส.ส.สุรชาติ จัดโครงการ"ใจถึงใจ ปันน้ำใจ มอบทุนการศึกษา" ให้นักเรียน จำนวน 50 ทุน 14 โรงเรียน ในพื้นที่ อ.บึงนาราง จ.พิจิตร!!

 "มูลนิธิพระราหู"โดย ดร.หิมาลัย ร่วมกับ ส.ส.สุรชาติ จัดโครงการ"ใจถึงใจ ปันน้ำใจ มอบทุนการศึกษา" ให้นักเรียน จำนวน 50 ทุน 14 โรงเรียน ในพื้นที่ อ.บึงนาราง จ.พิจิตร!!



วันที่ 20 ก.พ.65 เวลา 13.00 น.ที่ โรงเรียนวัดบ้านบางลายเหนือ ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร โดยดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู /ประธานพิธีฯ พร้อมด้วย นายสุรชาติ ศรีบุษกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 ,น.อ.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง ผู้อำนวยการกองข่าวอากาศ, น.ส.ปุณณรีย์ ศรีบุษกร เลขา กมธ.แก้ไขปัญหาราคาผลิตผล เกษตรกรรม พร้อมคณะ ได้ร่วมพิธีมอบทุนการศึกษา ตามโครงการ"ใจถึงใจ ปันน้ำใจ มอบทุนการศึกษา"ให้น้องๆนักเรียน ที่เรียนดีแต่ครอบครัวยากจน ในระดับอนุบาล และประถม จำนวน 50 ทุน 14 โรงเรียน ได้แก่






1.โรงเรียนวัดบ้านบางลายเหนือ

2.โรงเรียนวัดบ้านบางลายใต้

3.โรงเรียนบ้านห้วงปลาไหล "สิงหะวิทยา"

4.โรงเรียนบ้านหนองแขม

5.โรงเรียนบ้านศรีศรัทธามิตรภาพที่176

6.โรงเรียนบ้านบึงทับจัน"ทศอุปกรณ์"

7.โรงเรียนอนุบาลบึงนาราง (ห้วยแก้ว)

8.โรงเรียนบ้านโป่งวัวแดง

9.โรงเรียนบ้านทุ่งทอง

10.โรงเรียนบ้านทุ่งพรหมทอง

11.โรงเรียนบ้านบึงลี

12.โรงเรียนบ้านแหลมรัง "ราษฎร์บำรุง"

13.โรงเรียนบ้านวังพร้าว

14.โรงเรียนวัดบ้านบึงนาราง "แก้ววิทยาคาร"








โดยมี พระอธิการธรรมวิทย์ ฐานธมฺโม เจ้าอาวาสวัดคุณพุ่ม เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายนิมิตร พรหมอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านบางลายเหนือ เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมทั้ง นายธรรมนูญ เทศอินทร์ กำนัน ต.บางลาย-และผู้ใหญ่บ้านใน ต.บางลาย, พ.ต.ต.ไพทูรย์ เกษาอาจ สารวัตร สถานีตำรวจภูธรบางลาย รวมทั้ง ข้าราชการ ครู นักเรียน ร่วมให้การต้อนรับและร่วมพิธีมอบทุนการศึกษา ครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง










นอกจากนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ,นายสุรชาติ ศรีบุษกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ส.ส.กำแพงเพชร เขต 4 น.อ.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง ผู้อำนวยการกองข่าวอากาศ พร้อมคณะได้ร่วมเยี่ยมชม ห้องธรณีวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนวัดบ้านบางลายเหนือ พร้อมรับฟังการบรรยายและแนะนำ แร่ หิน ชนิดต่างๆจาก มัคคุเทศก์น้อย รวมทั้ง ได้พาคณะเยี่ยมชม และสัมผัสความสวยงาม ที่น่าอัศจรรย์ใจ ของหิน แร่ และซากดึกดำบรรพ์ ณ ห้องธรณีวิทยา ศูนย์การเรียนรู้ โรงเรียนวัดบ้านบางลายเหนือ แห่งนี้


วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

“ ตำรวจนครบาล รายงานผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด ผลงาน กก.สส.บก.น.3”

 “ ตำรวจนครบาล รายงานผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด

ผลงาน กก.สส.บก.น.3”



            ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดและ

สิ่งผิดกฎหมายเนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง




         กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก

รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.น.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามจับกุมผลการปฏิบัติดังนี้




  วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 65 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน

กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 นำโดย

พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3, พ.ต.ท.พฤทธิพงศ์ พรหมเต็ม รอง ผกก.สส.บก.น.3/หน.ชปส.บก.น.3ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้ทำการจับกุมตัว นายเอกอาทิตย์หรือบาส อายุ 21 ปี และ นายเอกมงคลหรือแบงค์ อายุ 27 ปี ริมถนนเลียบคลองสองบริเวณสะพานไม้ข้ามคลอง ภายในซอยไม่ทราบชื่อ แขวงกระทุ่มราย

เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องบ้านพักเลขที่ 68/17 หมู่บ้านอมรทรัพย์ ซอย 1 (ฝั่งยาว) แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

พร้อมด้วยของกลาง

 ยาบ้า จำนวน 1,509,200 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 3.3 กิโลกรัม

โดยกล่าวหาว่า“ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์และยาบ้า)ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์และยาบ้า)ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย”






           วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 19.20น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จับกุมนายเอกอาทิตย์ฯ หรือบาส อายุ 21 ปีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนัก 88.8 กรัม ได้ที่ริมถนนเลียบคลองสองบริเวณสะพานไม้ข้ามคลอง ภายในซอยไม่ทราบชื่อ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

 และ นายเอกอาทิตย์ฯ หรือบาส ได้ให้การว่า นายเอกมงคลฯ หรือแบงค์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของตนได้สั่งการให้นำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้า ที่บริเวณดังกล่าว ต่อมา นายเอกอาทิตย์ฯ หรือบาส ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านพักเลขที่ 35/8 หมู่ที่ 7 แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านพักที่นายเอกมงคลฯ หรือแบงค์ พักอาศัยอยู่ เมื่อเดินทางไปถึงพบนายเอกมงคลฯ หรือแบงค์อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวและรับว่าได้สั่งการให้นายอาทิตย์ฯ หรือบาส นำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าจริง ซึ่งต่อมานายเอกอาทิตย์ฯ หรือบาส และนายเอกมงคลฯ หรือแบงค์ ได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า มียาเสพติดอีกจำนวนมากถูกเก็บซุกซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 68/17 หมู่บ้านนอมรทรัพย์ ซอย 1 (ฝั่งยาว) แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านพักที่นายเอกอาทิตย์ฯ หรือบาส พักอาศัยอยู่ จากจากนั้นผู้ต้องหาได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปบ้านหลังดังกล่าว และได้ทำการตรวจยึด ยาบ้า จำนวน 1,505,200 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว






           พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น

การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี

ทีมข่าวภาคสนาม/รายงาน







"สมาคมเหรียญกษาปณ์และเงินพดด้วง" จัดนิทรรศการ เหรียญธนบัตร และเงินตราโบราณ เรียนเชิญ "รมช.สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง" มาเป็นประธานในพิธี

 "สมาคมเหรียญกษาปณ์และเงินพดด้วง" จัดนิทรรศการ เหรียญธนบัตร และเงินตราโบราณ เรียนเชิญ "รมช.สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง" มาเป็นประธานในพิธี 



วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 นายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ กรรมการที่ปรึกษา "สมาคมเหรียญกษาปณ์และเงินพดด้วง" กล่าวถึงการจัดงาน "THAILAND INTERNATIONAL NUMISMATIC FAIR 2022" ที่จะมีขึ้น ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ห้องคอนเวนชั่น

ถ.สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ

ในวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น.ถึง 18.00 น. ซึ่งจะมีกิจกรรมนิทรรศการ เหรียญ ธนบัตร และเงินตราโบราณ ที่หายาก การเสวนา การออกร้าน โดยดีลเลอร์จำหน่ายเหรียญจากในประเทศ และต่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์การจัดงาน ก็เพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการสะสมในระดับสากล และให้ชาวต่างประเทศต่างชาติที่เป็นนักสะสม เดินทางมายังประเทศไทยในปีต่อๆไป 

ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวไทยในอนาคต นายยุทธนากล่าว 



ส่วนประวัติโดยสังเขป

"สมาคมเหรียญกษาปณ์พดด้วง" ก่อตั้งเมื่อปี 2560 ตามทะเบียนเลขที่ จ.5662/2560  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ศึกษาค้นคว้ารวบรวมความรู้ เกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก เงินพดด้วง เงินตราโบราณ และธนบัตร โดยมีภารกิจเพื่อการเผยแพร่ความรู้ดังกล่าว สำหรับสาธารณประโยชน์ โดยที่ทำการ สำนักงานใหญ่ของสมาคม ตั้งอยู่เลขที่ 107/13-14 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ

กรุงเทพฯ  โดยมีนายเกรียงไกร หิรัญพันธุ์ทิพย์ เป็นนายกสมาคม พร้อมด้วยคณะกรรมการรวม18 ท่าน และมีที่ปรึกษา อีกจำนวน 24 ท่าน ประกอบด้วยนายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์, พลตรีพัชร รัตตกุล, พลตำรวจโทอาจิณ โชติวงศ์, พลเอกยอดชาย เทพยสุวรรณ, ม.ล.กิติยาภรณ์ กมลาสน์, ฯลฯ

         โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้ทางสมาคม ได้ดำเนินการจัดนิทรรศการเป็นประจำทุกปี ในชื่องานแสดงเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร

และเงินตราโบราณ (THAILAND INTERNATIONAL NUMISMATIC FAIR) 

โดยเริ่มจัดขึ้นในปี 2562 เป็นครั้งแรก ซึ่งในปีนี้ได้รับเกียรติจากกรรมการที่ปรึกษาของสมาคม ท่านพลตรีพัชร รัตตกุล Chief Executive Officer บริษัท

หาดทิพย์ จำกัด( มหาชน) ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน และต่อมาปี 2563 สมาคม ได้รับเกียรติจากนายยุทธนา หยิมการุณ

อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิด

งานซึ่งในงานนี้ มีดีเลอร์จากต่างประเทศมาร่วมออกงานจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย

จีน ฮ่องกง มาเลเซีย

อังกฤษ เยอรมัน เป็นต้น 

และมีนักสะสมจากต่างประเทศเดินทางเพื่อชมงานนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นสมาคมจึงเชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ชาวต่างชาติ เดินทางมาเพื่อการนี้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกทางหนึ่ง 

     คณะกรรมการและที่ปรึกษา สมาคมเหรียญกษาปณ์และเงินพดด้วง จึงขอเรียนเชิญท่านที่สนใจ ร่วมงานในวันเวลาดังกล่าว นี้...///




#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคประเทศไทย