#ราชบัณฑิตยสภา เปิดบ้านรับฟังความคิดเห็นเรื่อง #ราชบัณฑิตในมุมมองของสื่อมวลชน พร้อมแถลงกิจกรรม #๑๐๐ปีราชบัณฑิตยสภา
:
:
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล นายกราชบัณฑิตยสภา เป็นประธานการรับฟังความคิดเห็นเรื่อง “ราชบัณฑิตในมุมมองของสื่อมวลชน” โดยได้เชิญสื่อมวลชนมาให้ความเห็นและเสนอมุมมองว่าอยากเห็นราชบัณฑิตยสภาเป็นอย่างไรในอนาคต โดยมีสื่อมวลชนจากองค์กรสื่อเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ณ ที่ทำการราชบัณฑิตยสภา เรือนเจ้าเจ้ามารดาเลื่อน
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล กล่าวว่า
“ราชบัณฑิตยสภาเป็นสถานที่บำรุงสรรพวิชา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนาขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๙ ในวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ ๒๔๖๙ มีวัตถุประสงค์ที่จะค้นคว้าวิจัยเพื่อเผยแพร่ ส่งเสริม แลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนา อนุรักษ์ และให้บริการทางวิชาการ ให้เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ แม้ว่าราชบัณฑิตยสภาได้ดำเนินการและพัฒนางานวิชาการมาอย่างต่อเนื่องจนจะก้าวสู่ศตวรรษใหม่ใน พ.ศ. ๒๕๖๙ รวมถึงได้เตรียมจัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานรองรับการดำเนินงานและพัฒนางานวิชาการไว้แล้ว แต่ยังประสงค์จะรับฟังความคิดเห็นและมุมมองของสื่อมวลชนว่าอยากเห็นราชบัณฑิตยสภาเป็นอย่างไรในอนาคต เพื่อนำไปเป็นข้อมูลและวิเคราะห์การพัฒนางานวิชาการและงานของราชบัณฑิตยสภาต่อไป
และในโอกาสที่ราชบัณฑิตยสภาจะครบ ๑๐๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๖๙ นั้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว ราชบัณฑิตยสภาจึงจัดการประชุมวิชาการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๖๙ โดยเลือกประเด็นที่สำคัญและเกิดขึ้นในสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันมาเป็นหัวข้อการประชุม ซึ่งใน พ.ศ. ๒๕๖๘ นี้ ได้กำหนดจัดการประชุมวิชาการเนื่องในการเฉลิมฉลองครบ ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา การประชุมสุดยอดว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์แห่งประเทศไทย ๒๕๖๘ เพื่อการพัฒนาความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับประเทศไทย จัดระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ ห้องบอลรูม ๓-๔ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงเปิดการประชุมและทอดพระเนตรนิทรรศการ ในวันพุธที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น.
การประชุมสุดยอดนี้จะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำภาคอุตสาหกรรม และนักวิชาการ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในการเร่งพัฒนาขีดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทย และเตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญกับการปฏิวัติทางเทคโนโลยีเอไอที่จะมีผลกระทบต่ออนาคตของประเทศไทย โดยงบประมาณในการจัดงานนอกจากที่สำนักงานราชบัณฑิตยสภาได้จัดสรรให้แล้ว ยังได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนด้านงบประมาณจากหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.), มูลนิธิสิริวัฒนภักดี ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน),บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ทั้งนี้ ข้อสรุปจากการประชุมฯ จะนำเสนอรัฐบาลเพื่อนำไปพิจารณาเป็นแนวทางการแก้ปัญหาต่อไป
“สำหรับใน พ.ศ. ๒๕๖๙ จะจัดการจัดการประชุมวิชาการในหัวข้อ “ราชบัณฑิตยสภา ปัจจุบันและอนาคต” โดยจะพูดถึงผลงานในปัจจุบัน คือตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่มีการเปลี่ยนชื่อและพระราชบัญญัติจากราชบัณฑิตยสถานเป็นราชบัณฑิตยสภาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเรื่องที่เป็นปัญหาของชาติหรือของโลก ตั้งแต่ปัจจุบันถึง ๑๐ ปีข้างหน้าและยังจัดกิจกรรมอื่นที่สนใจเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการจัดนิทรรศการงานมหกรรมศิลปะและวิชาการการจัดงานคอนเสิร์ต ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภาการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา การจัดพิมพ์พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสภา ฉบับฉลองครบ ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา และฉลองครบ ๑๐ ปี แห่งการครองราชย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นฉบับแรกที่มีการชำระตั้งแต่อักษร ก ถึง ฮ รวมถึงการจัดพิมพ์หนังสือในโอกาสเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปีราชบัณฑิตยสภา ฉบับอื่น ๆ อีกมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น