วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

บุรีรัมย์ สองฝั่ง เอา ไม่เอาโรงน้ำตาลอ้างรถติด อีกฝั่งช่วยเกษตรกรเศรษฐกิจดี

 บุรีรัมย์ สองฝั่ง เอา ไม่เอาโรงน้ำตาลอ้างรถติด อีกฝั่งช่วยเกษตรกรเศรษฐกิจดี



เรืองรุจ วังแจ่ม/บุรีรัมย์/081-5492991

อำเภอชำนิ//ผู้ใหญ่บ้านนำชาวบ้านรวมตัวต้านไม่เอาโรงงานน้ำตาลระบุทำมลภาวะเป็นพิษและรถติด กำนันตำบลเดียวกันระบุตรงกันข้ามมีโรงงานสร้างเศรษฐกิจ เกษตรกรมีทางเลือก ถ้าไม่ดี 58 โรงานทั่วประเทศปิดไปแล้ว ขณะผู้บริหารโรงงานชี้พื้นที่ตั้งอยู่ห่างชุมชน ระบบการจัดการทันสมัยไม่กระทบชุมชนแน่นอน





วันที่ 31 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านหมู่ 10 ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นำโดยนายชัยพร มลิวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน และแกนนำเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พาชาวบ้านประมาณ 100 คน ถือป้ายเดินไปประท้วงและยื่นหนังสื่อต่อนายอำเภอชำนิ 



เพื่อคัดค้านการตั้งโรงงานน้ำตาลในเขตพื้นที่ตำบลหนองปล่อง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของโรงงานน้ำตาลชำนิ เครือข่ายบริษัท KI หรือโรงงานน้ำตาลพิมาย จ.นครราชสีมา มาประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 ที่ว่าการอำเภอชำนิ 




แกนนำผู้ชุมนุม พยายามชี้แจงให้ชาวบ้านว่า โรงงานน้ำตาลที่จะมาตั้งในพื้นที่อำเภอชำนิ จะมีกำลังผลิตน้ำตาล 20,000 ตันอ้อยต่อวัน และมีโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 5.4 เมก้าวัตต์  อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนใน 6 ตำบล



นายชัยพร มลิวรรณ(เสื่อเหลือง) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองปล่อง กล่าวว่าโรงงานเป็นโรงงานขนาดใหญ่ผลิตน้ำตาลวันละ 20,000 ตัน จะมีรถใหญ่วิ่งเข้ามาในตำบลหนองปล่องไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คัน เกรงว่าการจราจรจะเป็นอันตรายต่อลูหลาน เพราะมีโรงเรียนอยู่ทั้งสองฝั่งถนน ยืนยันการเคลื่อนไหวไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง มีเพียงชาวบ้านและกลุ่มโอโซนเท่านั้น 



ขณะที่นายสมอาจ คงสืบชาติ (ใส่หมวก)กำนันตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิ กล่าวว่า การที่โรงงานน้ำตาลจะมาลงในพื้นที่ ส่วนตัวเชื่อว่าหลักๆคือการสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในโรงงานน้ำตาล ถึงแม้จะไม่ครอบคลุมทั้งอำเภอแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่แรงงานไม่ต้องระเหเร่ร่อนไปทำงานไกลบ้าน ที่ไม่รู้ชะตากรรมเหมือนกับกรณีตึกถล่ม 



เท่าที่สอบถามชาวบ้านส่วนใหญ่มีความภาคภูมิใจที่จะมีโรงงานมาเปิดในพื้นที่ ทั้งมีงานทำทั้งเศรษฐกิจในพื้นที่กระเตื้องขึ้น ส่วนผลกระทบคำว่าโรงงานถ้าเกิดขึ้นที่ไหนจะต้องมีบ้างเพราะคนเข้ามาอยู่การหนาแน่นเหมือนนิคมอุสาหกรรมทั่วไป แต่เชื่อว่าโรงงานฯจะมีแผนรองรับอยู่แล้ว หากว่าไม่ดีโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 58 โรงงานคงจะอยู่ไม่ได้แล้ว 



กรณีที่เกิดขึ้นส่วนตัวเชื่อว่ามีคนหนุนหลังให้ชาวบ้านมาประท้วงอยู่แล้ว เพราะโรงงานน้ำตาลมาจากจังหวัดอื่น เพราะที่บุรีรัมย์ก็มีเหมือนกัน แต่ลึกๆตนไม่ทราบ ทั้งนี้ตนยังเชื่อมั่นว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะที่นาของเกษตรกรที่ทำนาไม่ได้ผลก็หันมาปลูกอ้อยจะมีรายได้ดีกว่าเดิมแน่นอน


ด้านนายอนุรักษ์ สุขประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงงานน้ำตาลเคไอ กล่าวว่า โรงงานน้ำตาลจะไปตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.หนองปล่อง ซึ่งบริเวณนั้นจะอยู่ห่างจากชุมชน บนเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ แต่ไม่อยู่กลางหมู่บ้าน


โรงงานเป็นโรงงานขนาดใหญ่จะมีขั้นตอนและแผนชัดเจน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบทุกขั้นตอน ส่วนโรงงานไฟฟ้าชีวมวลเป็นระบบทันสมัยเป็นระบบไฟฟ้าสถิตที่คอยจับฝุ่นละออง รวมถึงระบบน้ำและเสียงทางโรงงานได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้วเพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชน//////////////


ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง

ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน

คิวภาพ//บรรยากาศการประท้วง//บรรยากาศการประชุม//เสียงผู้ประท้วง//เสียงผู้ใหญ่บ้าน//เสียงชาวบ้าน//เสียงกำนัน//เสียงผู้บริหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น