ตำรวจ สน.ยานนาวา จับสาวขะแม ล้วง !! สาวเกาหลี บนสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2566 พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.ยานนาวา เผยว่า ทาง สน.ยานนาวาได้รับหนังสือจากสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (แผนกกงสุลตำรวจ) เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีที่ Ms.Hyeri Kim (น.ส.เฮียรี่ คิม) ที่ได้มาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 เวลาประมาณ 15.00 น.นั้น ทาง สน.ยานนาวาได้จับกุมคนร้ายเป็นหญิง ชื่อนาง แซม อายุ 31 ปี (เป็นบุคคลต่างด้าว) สัญชาติกัมพูชา ได้แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินคดี
[ ลำดับเหตุการณ์ในคดี ]
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มี Ms.Hyeri Kim (น.ส.เฮียรี่ คิม) สัญชาติเกาหลีใต้ ได้มาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ว่าตนได้ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน ซึ่งหลังจากได้ออกมาจากสถานีรถไฟฟ้า BTS แล้ว พบว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ยี่ห้อ Samsung Galaxy S23 Ultra สีขาว ของตนได้หายไป โดยไม่ทราบว่าตนได้ทำหล่นหายที่บริเวณใดหรือมีบุคคลใดมาลักเอาไป
หลังจากนั้น ฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา ได้สืบสวนติดตาม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานีรถไฟฟ้า BTS ตากสิน และบริเวณโดยรอบตามข้อมูลการซักถามของผู้เสียหาย และได้ประสานข้อมูลการปฎิบัติร่วมกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS
หลังจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีหญิงอายุประมาณ 40 ปี ตัวเล็ก สวมเสื้อสีขาว ได้พยายามเดินตามหลังผู้เสียหายในระยะประชิด และเมื่อสบโอกาส จึงได้ใช้มือล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย และจากนั้นได้เดินหลบหนีไป
ต่อมาฝ่ายสืบสวน ได้ประสานข้อมูลกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS ซึ่งได้ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนว่า มีข้อมูลของกลุ่มคนร้ายที่ได้เคยการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันในสถานีรถไฟฟ้าในสถานีอื่นๆ และคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายในกลุ่มเดียวกัน จึงได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า เป็นหญิง มีลักษณะตรงกันกับภาพในกล้องวงจรปิด เชื่อว่าจะได้กระทำความผิดลักษณะเดียวกันนี้อีกครั้งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน จึงได้ร่วมกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ติดตาม เฝ้าระวังจนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ ได้พบเห็นหญิงซึ่งมีลักษณะตรงกับคนร้าย เดินอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้า BTS ตากสิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบพบว่ามีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายจริง โดยจากการสอบถามและขยายผลพบว่า นาง แซม อายุ 31 ปี เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา (ทราบชื่อภายหลัง) ได้ยอมรับว่าตนเองได้กระทำความผิดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามจริง โดยตนเป็นผู้ล้วงกระเป๋าเพื่อเอาทรัพย์สิน โทรศัพท์มือ ของผู้เสียหายในคดีจริง ซึ่งเป็นหญิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหลังจากนั้นตนได้เอาโทรศัพท์มือถือไปขายต่อ ในราคา 1,500 บาท และได้สมัครใจนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ และยังรับว่าตนเองได้หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งสิทธิ และข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหาทราบว่า "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" และจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขอขอบคุณ
คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น