วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สืบนครบาลรวบ “จ๊อก เอมิริ” แก๊งลักรถจักรยานยนต์ย่านบึงพระราม 9 รับสารภาพสิ้น ก่อเหตุมาแล้วกว่า 5 ครั้ง อ้างวิ่งหนีเพราะตำรวจหล่อเกิน

 สืบนครบาลรวบ “จ๊อก เอมิริ” แก๊งลักรถจักรยานยนต์ย่านบึงพระราม 9 รับสารภาพสิ้น ก่อเหตุมาแล้วกว่า 5 ครั้ง  อ้างวิ่งหนีเพราะตำรวจหล่อเกิน



        ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือเพจสืบนครบาล IDMB ว่ารถจักรยานยนต์ที่ใช้ทำมาหากินสูญหายบ่อย สืบสวนพบวีรกรรมสุดแสบของแก็งค์บึงพระราม 9 ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมช่วงเวลา 23.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. จากนั้นเมื่อพบรถจัรยานยนต์ที่จอดโดยไม่ล็อคคอรถ หรือจอดโดยไม่ระวัง ผู้ต้องหาจะทำการหักคอรถแล้วลักไปขาย




        พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุด “หมาล่าเนื้อ” สืบนครบาล พร้อมลูกศิษย์ นักเรียนสืบสวน 110 ลงพื้นที่ตามเบาะแสปิดล้อมหัวหน้าแก็งค์บึงพระราม 9 ย่านปทุมธานี ที่กบดาน แต่ผู้ต้องหาไหวตัววิ่งหลบหนี ก็ไม่รอดจมูกหมาของ “สืบนครบาล+สืบ 110 ”  เจ้าตัวอ้างหน้าตาเฉยว่า ตำรวจสืบนครบาล 110 หล่อเกินกว่าเขื่อว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ





          เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ,พ.ต.อ.วรพจน์  รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ  ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการที่ 1 และ 2 และนักเรียนสืบสวนรุ่น 110 ได้ร่วมกันจับกุมตัว 


 

          นายธีระพงษ์ หรือ จ๊อก เอมิริ  ปิยะวงค์ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 12 หมู่ 8 ต.ดอนแรด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์   ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1941/2566 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2566 

         โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งเเต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร "



       สถานที่จับกุมบริเวณหลังบ้านเลขที่ 7/29 ซ.ไสวประชาราษฎร์ 31 ถ.ลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

     พฤติการณ์การจับกุม วันที่ 31 ก.ค.66 เวลาประมาณ 15.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณ คล้ายกันกับนายธีระพงษ์ ปิยะวงค์ (ทราบชื่อภายหลังและเป็นบุคคลตามหมายจับ) อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 7/29 ซ.ไสวประชาราษฎร์ 31 ถ.ลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เมื่อนายธีระพงษ์ฯ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตกใจและวิ่งหลบหนีออกทางประตูหลังบ้านและเข้าไปในป่าหญ้าหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทัน จากการวิ่งหลบหนีทำให้นายธีระพงษ์ฯ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหนามในป่าข่วนทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจให้บุคคลดังกล่าวตรวจดูจนเป็นที่พอใจ และได้แสดงหมายจับให้นายธีระพงษ์ฯ ตรวจสอบดู จากการสอบถามบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน 



        โดยผู้ต้องหาอ้างว่าที่วิ่งหลบหนี ใส่เกียร์ม้าไม่คิดว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเรื่องจากรูปหล่อมาก และได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจัดทำบันทึกจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



        จากการสอบถาม นายธีระพงษ์  ปิยะวงค์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และให้การปฏิเสธในข้อหารับของโจร  และให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณต้นปี 2566 ข้าฯ ได้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถส่งสินค้า Lalamove และพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 7/29 ซ.ไสวประชาราษฎร์ 31 ถ.ลำลูกกา    ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้มีเพื่อนชื่อ นายดิ๊ก (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ชักชวนให้ข้าฯ ไปลักรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้ แล้วจะให้เงิน 3,000 – 4,000 บาท ต่อรถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยให้ข้าฯ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น wave 110i สีเทา-ดำ คันหมายเลขทะเบียน 6ขฎ-7539 กทม. (ขณะก่อเหตุได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าวออก) ยันรถคันที่ก่อเหตุมายังจุดที่นัดหมายโดยมีนายดิ๊กฯ เป็นคนขี่ แล้วข้าฯก็แยกกลับไปก่อน

โดยครั้งแรก ข้าฯ ได้ลักรถจักรยานยนต์ยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave110 สีแดง จำหมายเลขทะเบียนและวันก่อเหตุไม่ได้   จากบริเวณซอยพัฒนาการ และได้รับเงินจากการลักรถจักรยานยนต์คันแรกเป็นเงินสด 3,000 บาท จากนายดิ๊กฯ ที่ได้ร่วมกันลักทรัพย์ และได้แยกย้ายกันไป

ก่อเหตุครั้งที่ 2 บริเวณอ่อนนุช ได้ไปลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda  รุ่น wave110 สีน้ำเงิน  จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และได้เงินจากการลักรถครั้งนี้มา 4,000 บาท

ก่อเหตุครั้งที่ 3 บริเวณอ่อนนุชเช่นเดิมเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda รุ่น wave110 สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และได้เงินจากการลักรถครั้งนี้ เป็นเงิน 3,000 บาท  

ก่อเหตุครั้งที่ 4 นายดิ๊กฯได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปแล้วข้าฯจึงได้ร่วมกันกับนายเอ็ม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)     ลักทรัพย์บริเวณมักกะสันเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda รุ่น wave125 สีดำ-แดง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้และไม่ได้เงินตอบแทนในครั้งนี้เนื่องจากนายเอ็มถูกจับกุมได้ขณะก่อเหตุ ส่วนข้าฯหลบหนีมาได้

ก่อเหตุครั้งที่ 5 ได้ร่วมกันกับนายเกรท (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ไปลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda รุ่น wave110 สีแดง บริเวณเขตคลองตันและได้รับเงินจำนวน 4,000 บาท ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนีไป

ต่อมา วันนี้ (31 ก.ค.66) ข้าฯถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในที่สุด


        พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “การก่อเหตุของกลุ่มบึงพระราม 9 สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกอบอาชีพสุจริต    โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย  จึงขอประชาสัมพันธ์ผู้ใดมีเบาะแสอาชญากรรมโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น