วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566

จับกุมเจ้าของธุรกิจค้าเนื้อแมวเวียดนามสำเร็จ! พบซากแมวแช่แข็งหลายตัน แมวเกือบ 200 ตัวหวิดดับ

 จับกุมเจ้าของธุรกิจค้าเนื้อแมวเวียดนามสำเร็จ! พบซากแมวแช่แข็งหลายตัน แมวเกือบ 200 ตัวหวิดดับ

 ​


เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมเจ้าของธุรกิจค้าเนื้อแมวขนาดใหญ่ในจังหวัดด่งท้าป ทางตอนใต้ของเวียดนาม พบมีแมวถูกจับมาชำแหละวันละ 500 ตัวเพื่อนำเนื้อไปขายต่อ



เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามทำลายซากเนื้อแมวแช่แข็งน้ำหนักรวมกว่า 5 ตันที่ตรวจพบในโรงเชือดเนื้อแมวที่ดำเนินงานมากว่าสิบปีและต้องยุติกิจการในทันที พร้อมจับกุมเจ้าของโรงเชือดหลังจากสอบสวนพบว่าไม่มีใบอนุญาตในการดำเนินกิจการโรงฆ่าสัตว์แต่อย่างใด ในสถานที่ดังกล่าวยังพบแมวที่มีชีวิตอยู่ 197 ตัวถูกนำมาจับขังรวมกันเพื่อเตรียมขนส่งไปขายต่อ การบุกจับครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ในประเทศเวียดนาม



​กระบวนการค้าเนื้อแมวที่โรงเชือดดังกล่าวถูกเปิดโปงโดยมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก) หน่วยงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ในประเทศไทยซึ่งดำเนินการยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวในทวีปเอเชีย มูลนิธิฯ ยังได้ช่วยเหลือแมวทั้ง 197 ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่จากโรงเชือดโดยแมวทั้งหมดได้รับการดูแลโดยสัตวแพทย์ของซอยด๊อกแล้ว



​ตัวแทนจากซอยด๊อกกล่าวแสดงความยินดีกับการจับกุมผู้กระทำผิดในครั้งนี้ โรงเชือดเนื้อแมวที่ดำเนินธุรกิจอย่างผิดกฎหมายมาเป็นเวลานานต้องยุติลงเสียที ส่วนแมวที่รอดชีวิตขณะนี้ปลอดภัยและได้รับการรักษาโดยสัตวแพทย์ แม้ว่าแมวทั้งหมดจะแสดงอาการตื่นกลัวอย่างรุนแรงขณะช่วยเหลือแต่ขณะนี้ส่วนใหญ่เริ่มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ แมวหลายตัวได้รับการทำหมันแล้วซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกขโมยมาเพื่อนำไปขายต่อในธุรกิจการค้าเนื้อแมว โรงเชือดเนื้อแมวที่จังหวัดด่งท้าป ประกอบกิจการชำแหละและแล่เนื้อแมว 500 ตัวต่อวัน ทุกขั้นตอนจนถึงการแล่เป็นเนื้อเตรียมส่งจำหน่ายใช้เครื่องจักรที่มีกลไกเช่นเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรม


 เจ้าของธุรกิจโรงเชือดซึ่งสื่อท้องถิ่นเวียดนามพาดหัวว่า “นักฆ่าสัตว์เลี้ยง” จะขโมยแมวมาจากบริเวณบ้านและใช้สวิงตาข่ายเพื่อจับแมวมาจากชุมชนต่าง ๆ เมื่อมาถึงที่โรงเชือดแมวบางส่วนจะถูกนำไปแล่เนื้อ แช่แข็งและบรรจุหีบห่อเพื่อนำไปขายเป็นวัตถุดิบในการทำยาโดยในบางพื้นที่เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคได้และในร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแมว แมวอีกส่วนหนึ่งจะถูกบรรจุในกรงอัดกันทั้งเป็นเพื่อเตรียมนำส่งต่อไปยังตอนเหนือของเวียดนามและประเทศจีนซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อเนื้อแมวในปริมาณมาก

 ก่อนหน้านี้เจ้าของโรงเชือดเคยถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการละเมิดข้อกฏหมายในท้องถิ่น ซอยด๊อกมีความเชื่อมั่นว่าการจับกุมในกระบวนการค้าเนื้อแมวอย่างเปิดเผยในครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจในด่งท้าปดังกล่าวยุติลงอย่างถาวร อย่างไรก็ตามธุรกิจค้าเนื้อแมวนี้เป็นเพียงส่วนน้อยจากอุตสาหกรรมการค้าเนื้อสุนัขและแมวในประเทศเวียดนามทั้งหมดที่มีสัตว์ถูกเชือดหลายล้านตัวต่อปี


 มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยมุ่งมั่นทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อผลักดันให้เวียดนามออกกฎหมายยุติการค้าและบริโภคเนื้อสุนัขและแมวเพื่อให้การกวาดล้างธุรกิจเช่นนี้มีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากขึ้น

มูลนิธิฯ ได้ยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวสำเร็จอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2557 และขณะนี้กำลังร่วมมือกับฝ่ายสุขภาพสัตว์แห่งกรุงฮานอยเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์เดียวกันในการยุติการเนื้อสุนัขและแมวในเมืองหลวงของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการบริโภคเนื้อแมวมีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่กิจการค้าเนื้อแมวนั้นไร้มนุษยธรรมและโหดเหี้ยม


นอกจากเป็นการทารุณกรรมสัตว์แล้ว การค้าเนื้อสุนัขและแมวยังเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในเวียดนาม แม้ว่าทางการจะประกาศว่าจะกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในเวียดนามให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2573 แต่จากรายงานข่าวในท้องถิ่นพบว่าสถานการณ์โรคในประเทศแย่ลงอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ประเทศเวียดนามจะปลอดโรคพิษสุนัขบ้าหากการค้าเนื้อสุนัขและแมวยังคงดำเนินต่อไป ทุกขั้นตอนตั้งแต่การขโมยสัตว์เลี้ยงหรือจับมาจากข้างถนน ขนส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์และแล่เนื้อล้วนเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าระหว่างสัตว์สู่คน  


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น