วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ซินเจนทา ซีดส์ ทุ่มงบกว่า 330 ล้าน เพิ่มกำลังการผลิตขยายโรงงานใหม่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน ที่จังหวัดลพบุรี พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำ ยกไทยเป็นฮับส่งออก

 ซินเจนทา ซีดส์ ทุ่มงบกว่า 330 ล้าน เพิ่มกำลังการผลิตขยายโรงงานใหม่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน ที่จังหวัดลพบุรี พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำ ยกไทยเป็นฮับส่งออก



กรุงเทพมหานคร - วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565 บริษัท  ซินเจนทา  ซีดส์ ประเทศไทย จัดงานเปิดโรงงานส่วนต่อขยายใหม่ที่โรงงานจังหวัดลพบุรีอย่างเป็นทางการ โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ให้เกียรติเป็นประธาน ร่วมด้วยนายจัสติน วอล์ฟ ประธานกรรมการบริหารธุรกิจเมล็ดพันธุ์ บริษัท ซินเจนทา สำนักงานใหญ่ นายคอนราดีน ราซี่ อุปทูต รักษาการเอกอัครราชทูตแห่งสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและคู่ค้าทางธุรกิจร่วมเฉลิมฉลองในพิธีเปิดส่วนต่อขยายและติดตั้งเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก



นายจัสติน วอล์ฟ ประธานกรรมการบริหารธุรกิจเมล็ดพันธุ์ บริษัท ซินเจนทา สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า ในฐานะผู้พัฒนาและผู้ผลิตเมล็ดข้าวโพดสำหรับอาหารสัตว์ชั้นนำของโลก ซินเจนทามีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในภาคการเกษตรของประเทศไทย ซึ่งเราได้นำความรู้และทักษะ ประสบการณ์ที่ยาวนาน รวมกับความชำนาญของทีมงานที่ไทย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการเกษตรในไทย ด้วยการทำงานอย่างหนักของทีมเรา ทำให้เกษตรกรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากเรามากขึ้นและส่วนแบ่งในตลาดของเราก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้เกษตรกรไทยและหุ้นส่วนของเราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในทุกๆปีอีกหลายล้านบาท เพื่อทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมให้ได้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าสู่ตลาด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงทางอาหารในไทย และช่วยสร้างระบบการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน



"เราภูมิใจที่จะประกาศว่าซินเจนทาได้ลงทุนกว่า 330 ล้านบาท โดยการนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงและทันสมัยที่สุดมาใช้ ให้ได้ผลผลิตเมล็ดข้าวโพดลูกผสมที่มีคุณภาพสูงและตรงกับความต้องการของเกษตรกรมากที่สุด และเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแก่เกษตรกรไทย ซินเจนทาจะพัฒนานวัตกรรมต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมของเรามีความพร้อมสำหรับความท้าทายในอนาคตที่จะมาถึงอยู่เสมอ”



นายพิชญา รุจิรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ซินเจนทา ซีดส์ ประจำประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่า “โรงงานในส่วนต่อขยายนี้เพิ่มศักยภาพกำลังการผลิตสูงสุดได้ถึง 10 ตันต่อชั่วโมง จากเดิมที่ทำได้เพียง 3 ตันต่อชั่วโมง โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนากระบวนการผลิตที่นำเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมันนีและประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนการผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมสำหรับอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดสำหรับอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอาเซียน”



“นอกจากนี้โรงงานส่วนต่อขยายใหม่ของซินเจนทา ซีดส์ ยังควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ มีการใช้หุ่นยนต์แขนกลในการจัดเรียงสินค้าเพิ่มความปลอดภัยลดการใช้แรงงานหนักและความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถตรวจสอบการทำงานผ่านระบบเครือข่ายไร้สายได้ และยังมีระบบกำจัดฝุ่นแยกอิสระในเครื่องจักรแต่ละส่วน เพื่อป้องกันมลภาวะทางอากาศระหว่างการปฏิบัติการ จึงเป็นโรงงานที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน”


ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ บริษัทซินเจนทา ซีดส์ สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม โดยดำเนินการผลิตภายใต้สัญลักษณ์ทางการค้ายี่ห้อ NK อาทิ เช่น NK6253, NK6848, NK7321, NK8216, NK6275, S7328 และ S6248 สำหรับใช้ในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิเช่น เวียดนาม, กัมพูชา, เมียนมาร์, ปากีสถาน, ศรีลังกา, เอกัวดอร์ และกัวเตมาลา


ในส่วนของการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง ที่นี่จะมีการตรวจสอบ DNA ของข้าวโพดว่ามีลักษณะของพันธุ์ถูกต้องตามขบวนการปรับปรุงพันธุ์หรือไม่ มีการสุ่มตรวจสอบเมล็ดเพื่อทดสอบอัตราการงอกและความแข็งแรงของเมล็ด ซึ่งเมล็ดพันธุ์ของซินเจนทามีอัตราการงอกสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 (ตามกฏหมายระบุให้เกินร้อยละ 76 เท่านั้น) และมีความชื้นของเมล็ดพันธุ์ไม่เกินร้อยละ 12 เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการคัดแยกเมล็ดให้ได้ความบริสุทธิ์ทางกายภาพและมีขนาดที่เป็นมาตรฐาน


ด้วยนวัตกรรมใหม่ทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่ผลิตได้ มีคุณภาพทั้งในเรื่องอัตราการงอก ความแข็งแรงของต้นกล้า ความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์ ความบริสุทธิ์ทางกายภาพ และความสม่ำเสมอของขนาดที่ดี ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้ง รวมถึงโรคและแมลงต่าง ๆ ช่วยให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มมากขึ้น เพียงพอกับความต้องการ และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร


ทั้งนี้ประเทศไทยมีความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากถึงปีละ 8-9 ล้านตัน แต่ปัจจุบันกลับมีกำลังการผลิตในประเทศเพียง 5-6 ล้านตัน ยังขาดปริมาณที่ต้องการอีกถึง 2-3 ล้านตัน ปัญหาส่วนหนึ่งก็มาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยังขาดทั้งในแง่ปริมาณผลผลิต คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ลักษณะของพันธุ์อาทิเช่น การทนทานต่อศัตรูพืชและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยให้ประเทศไทยลดการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม


บริษัท ซินเจนทา ซีดส์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย ดำเนินธุรกิจทั้งวิจัยและผลิตเมล็ดพันธุ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำนวัตกรรมมาแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้ลงทุนกว่า 330 ล้านบาท โดยได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ดำเนินการสร้างโรงงานส่วนต่อขยายในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ระหว่างปี พ.ศ. 2564–2565


—-


 #สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น