วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

"พล.ต.ต.ไตรรงค์"รอง​ ผบช.น.​รุดติดตามคดี โจ๋ใช้มีดขู่ชิงเข็มพระเกี้ยว นร.ม.5 ร.ร.บดินทรเดชา!!

 "พล.ต.ต.ไตรรงค์"รอง​ ผบช.น.​รุดติดตามคดี โจ๋ใช้มีดขู่ชิงเข็มพระเกี้ยว นร.ม.5 ร.ร.บดินทรเดชา!!



"สืบเนื่องจากกรณีสื่อสังคมออนไลน์โพสต์คลิปวิดีโอวัยรุ่น 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์เข็มกลัดพระเกี้ยวนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาพร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดไม่ไกลจากบริเวณหน้าโรงเรียนดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้​ รวม 3​ คน​นั้น"




วันที่ 30 มิ.ย.65 เวลา 16.00 น.ที่สน.วังทองหลาง​ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง​ ผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี โจ๋ใช้มีดขู่ชิงเข็มพระเกี้ยว เด็กนักเรียน ม.5 โรงเรียนบดินทรเดชา หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักในย่านรามคำแหง พร้อมของกลาง อาวุธมีด รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ รวม 3​ คน​ เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ยังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา 2 คน และ ไม่ได้เรียนหนังสือ 1 คน โดยทั้งหมดถูกนำตัวเข้าสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง พร้อมรับสารภาพสาเหตุที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนอง อยากได้พระเกี้ยวไปห้อยกับโซ่ติดเสื้อ



โดย​ พล.ต.ต.ไตรรงค์​ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายนั้นยังเป็นเยาวชน จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เข้ามาร่วมการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ​ สำหรับในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้น​ให้การรับสารภาพ และจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนการจับกุม ตามกฏหมายเยาวชนฯ โดยเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยอมรับว่า เป็นค่านิยมในการสะสมเครื่องแบบสัญลักษณ์ของโรงเรียนตรงข้าม โดยผู้ก่อเหตุ อ้างว่า ไม่ได้มีการวางแผนแต่เป็นเพราะอารมณ์คึกคะนองชั่ววูบตัดสินใจในขณะนั้นและลงมือก่อเหตุทันที



"สำหรับในคดีนี้ มีผู้ก่อเหตุ​ รวม 3 คน จึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย ซึ่งอัตราโทษตามกฏหมาย ข้อหาปล้นทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10-15 ปี แต่หากเป็นการพยายามปล้นทรัพย์รับโทษ 2 ใน 3 และหากมีการใช้ยานพาหนะร่วมด้วยต้องรับโทษเพิ่มอีกกึ่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาที่มีอัตราโทษสูง ดังนั้น จึงขอให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ของกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ที่มีค่านิยมในลักษณะนี้ ตระหนักถึงโทษที่จะตามมาหลังจากก่อเหตุไปแล้ว​ นอกจากนี้ตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ปกครองจะเข้าข่ายที่จะต้องรับความผิดตามกฎหมายด้วยหรือไม่" รอง ผบช.น.กล่าว






พล.ต.ต.ไตรรงค์ ยังกล่าวอีกว่า "สำหรับการสอบปากคำผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพไปสอบปากคำเด็กนักเรียนผู้เสียหายที่โรงเรียนแล้วโดยไม่จำเป็นต้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจอีก​ ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะจัดตำรวจสายตรวจ เฝ้าระวังตามจุดล่อแหลมของโรงเรียนต่างๆ โดยประสานงานร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังเหตุและประชาสัมพันธ์ต่อไป"รอง ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น