ฟังธรรม : การใช้สื่อ หรือ การบริโภคสื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน โดย พระราชปัญญารังษี (วีระเวส สุวีโร ป.ธ.๗ ,ดร.) เจ้าอาวาสวัดชิโนรสารามวรวิหาร

"อีกที่สำคัญประการหนึ่งในโลกปัจจุบันก็คือ คนเราทั้งหลายมักจะนิยม หรือเรียกร้อง หรือให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิ หรือเรื่องของส่วนบุคคล โดยเฉพาะในเรื่องการใช้สื่อ หรือการบริโภคสื่อ อันนี้เราทั้งหลายก็ย่อมจะรู้อิทธิพลของสื่อดี ว่ามันมีสิ่งที่จะให้เราได้ดูได้ฟังหรือได้บริโภคนั้นเกลื่อนกล่นไปทุกเรื่อง ในการเข้าไปใช้มันเราก็ต้องตั้งสติให้ดี อย่าไปเลือกเอาเรื่องซึ่งมันถ้าเป็นไปเพื่อความสนุกเพลิดเพลินแต่เพียงอย่างเดียว ต้องเลือกเนื้อหาสื่อที่มันเกื้อกลูต่อจิตวิญญาณของเรา เช่นเรามีสิทธิ์ในการที่จะใช้หู ใช้ตาเรา แต่เราก็ต้องไม่ใช้มันไปในการดูสื่อต่างๆทางโลกออนไลน์นั้นโดยไม่คุ้มค่าเราควรที่จะหาแหล่งข้อมูลที่จะเป็นตัวกระตุ้นปลุกเร้าให้เรา ได้ใช้ศักยภาพของเราในการพัฒนาเพิ่มพูนมันให้มากขึ้น เช่น สื่อที่นำพาเราไปสู่วิธีการสร้างความรับผิดชอบให้กับจิตวิญญาณของเราสื่อหรือเนื้อหาที่มันนำพาเราไปสู่การพัฒนา หรือการปลุกเร้าความขยันหมั่นเพียร ความอดทน ตลอดถึงความเสียสละ เราควรจะเลือกหาหรือเสพหรือบริโภคสื่อจากสังคมออนไลน์ในลักษณะนี้ 

เพราะว่าศักยภาพของมนุษย์ มันสามารถที่จะพัฒนาขึ้นมาได้จากภายในของเราเอง เพียงแต่ให้เราเข้าใจว่าสิทธิของเรา ที่เราจะใช้ในการดูการฟังนั้น จะต้องใช้มันอย่างฉลาดถ้าเราใช้มันไปเพื่อการแสวงหาปัญญา การแสวงหากิจกรรมที่ทำให้เราได้ใช้ความอดทน ได้ใช้ความขยัน ได้ใช้ความเสียสละเหล่านี้แล้ว มันจะทำให้เราเติบโตทางจิตวิญญาณขึ้นมาเป็นคนไม่เห็นแก่เนื้อแก่ตัว จะเป็นคนที่เสียสละและก็สู้กับความยากลำบากได้โดยไม่ทุกข์ โดยไม่กังวล และโดยไม่กลัวทั้งนี้แบบอย่าง หรือตัวอย่างมันมีอยู่อย่างมาก ฉะนั้นถ้าเราใช้สิทธิ์ของเราเลือกเนื้อหาที่เป็นไปในลักษณะนี้ มันจะกระตุ้นให้เราใช้ศักยภาพของเรา ที่มีอยู่มันไปตอบสนองต่อเหตุปัจจัย ที่จะทำให้เราเจริญเติบโต และก็ประสบความสำเร็จได้

เพราะอย่าลืมว่าการเติบใหญ่ได้โตนี้ มันขึ้นอยู่กับสภาพของจิตวิญญาณไม่ใช่แค่ร่างกาย ฉะนั้นถ้าคนพัฒนาจิตวิญญาณให้มีความรับผิดชอบในภารกิจของตน หรือพัฒนาความอดทนตลอดถึงสติปัญญาขึ้นมาให้มากกว่าเดิม โดยอาศัยสื่อเป็นเครื่องไม้เครื่องมือนั้นจะถือว่าเป็นคนที่เกิดมาในยุคที่โลกมีความทันสมัย และก็ได้ใช้ประโยชน์จากมัน นำมาพัฒนาสิ่งที่เรามีอยู่ให้มากขึ้น เช่นเราเกิดมาเรามีปัญญา เราเอาปัญญาจากการศึกษาสังคมสื่อออนไลน์ มาต่อเติมปัญญาให้กับเรา เท่ากับเราเอาปัญญาไปต่อความฉลาด หรือเรามีความขยัน ความอดทนอยู่แล้ว เราก็หาแหล่งความรู้ที่จะทำให้เราไม่ทิ้งความเพียรความอดทน มันก็จะทำให้เราเพิ่มพูนสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาการบริโภคสื่อของเรา ก็จะเป็นไปเพื่อการพัฒนาศักยภาพของเราเพราะความสำเร็จ เราไม่อยากจะไปวิงวอน หรือขอหรือหวังพึ่งใครได้ดีไปกว่าการพึ่งพาทางจิตวิญญาณตัวเอง ที่พัฒนาขึ้นโดยมีเนื้อหาจากสื่อออนไลน์ ที่เราสามารถบริโภคได้โดยไม่ยากไม่เย็น เพียงแต่ขอให้เราฉลาด และขอให้เราเลือกในสื่อที่มันเกื้อกูลต่อจิตวิญญาณอย่างนี้นี่แหละ มันจะทำให้กับคนเหล่านั้นก้าวหน้า หรือไปได้ไกลในโลกปัจจุบัน แต่ถ้าไม่อย่างนี้แล้วเราจะตกเป็นเหยื่อของสังคมออนไลน์ และเราจะทำลายศักยภาพตัวเอง หรือลุ่มหลงเหนื่อยล้าไปกับการตามล่าดูสื่อในออนไลน์ทั้งหลาย แล้วมันก็ทำให้เราเหนื่อยล้าทางหูทางตาจ นแทบไม่ได้พักเสร็จแล้วจะมาทำอะไรในภารกิจของตนก็หย่อนสมรรถภาพลง สุดท้ายก็กลายเป็นความล้มเหลว

 ดังนั้นก็ขอให้ใช้สื่อไปในทางที่เป็นเครื่องมือพัฒนาศักยภาพของตนเองขึ้นมา ตามที่ได้ให้แนวทางไว้นั้น ก็จะน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ถ้าหากว่าเราจะเลือกเอาตามกระแสหรือตามใจอย่างเดียวเจริญพร"