กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวครบรอบ ๑ ปี ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๑ โดยมี พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน และพลตำรวจโท สาคร ทองมุณี ผบช.ทท. พลตำรวจตรี คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.ทท. พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวระดับสูงให้การต้อนรับ
เนื่องจากเป็นการจัดงานสถาปนาเป็นครั้งแรกที่ครบรอบ 1 ปี กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมจำนวนมาก จำนวนนี้มาจาก มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีตผู้บังคับบัญชาผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและเอกอัครราชทูต ราชทูต กงสุล เข้าร่วมพิธีกว่า ๒๐ ประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักโดยแพร่หลายต่อบุคคลทั่วไปในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
- กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้รับการยกฐานะ จากที่เคยเป็นกองบังคับการ ขึ้นเป็น กองบัญชาการในวันที่ ๑กันยายน ๒๕๖๐ ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ เนื่องในปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตำรวจท่องเที่ยวนั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ธุรกิจร่วมกับเอกชน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ประสานมายังกรมตำรวจในขณะนั้นเพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ กรมตำรวจจึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวขึ้นโดย สังกัดกองปราบปราม โดยในขณะนั้นประกอบด้วยกำลังพลจำนวน ๖๐ นาย และมีพื้นที่รับผิดชอบเพียงเขตกรุงเทพมหานคร ในปี ๒๕๒๓ กรมตำรวจและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันปรับปรุงศูนย์อำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เป็นศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยเพิ่มพื้นที่รับผิดชอบเป็นทั่วประเทศไทย และในปี ๒๕๒๕ กรมตำรวจได้จัดตั้งหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยวขึ้นเป็นการถาวร คือกองกำกับการ ๘ กองปราบปราม ต่อมาเนื่องจากการพัฒนาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีการขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้นโครงสร้างของตำรวจท่องเที่ยวในระดับกองกำกับการไม่เพียงพอ ในการดูแลพื้นที่ ทั่วประเทศ รัฐบาลจึงได้มีการยกฐานะตำรวจท่องเที่ยวขึ้นเป็น กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งนับ เป็นระยะเวลา ๒๕ ปี โดยมีผู้บังคับการที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรมาแล้ว ๑๕ ท่าน ซึ่งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มีการเพิ่มกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้เหมาะสมกับภาระงานที่รับผิดชอบ แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ที่สำคัญให้แก่ประเทศ จึงมีการส่งเสริม การท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับอาชญากรรมหลายรูปแบบได้พัฒนาขึ้นพร้อม ๆ กัน และอาจมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน ประเทศไทยจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้พัฒนาประสิทธิภาพทั้งด้านกำลังพล ปริมาณเจ้าหน้าที่ ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสนองต่อการให้บริการและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง ประกอบด้วยข้าราชการตำรวจท่องเที่ยว มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติตำรวจ แห่งชาติ และกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ตำรวจ พันธกิจของตำรวจท่องเที่ยว จึงไม่เพียงแต่จำกัดอยู่เพียงดูแลให้ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยเท่านั้น มีการพัฒนาการปฏิบัติงานในรูปแบบการบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ และร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปริมาณภารกิจ ความรับผิดชอบในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่วันนี้ ตำรวจท่องเที่ยวไม่เพียงแต่เป็นที่พึ่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัย รักษาภาพพจน์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เท่านั้น ยังทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกหมู่เหล่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น