สมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงิน จัดการอบรมและทดสอบพนักงานทวงถามหนี้ตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 รุ่นที่ 24 ณ หอประชุมพุทธวิชชาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวนทั้งสิ้น 515 คนการอบรมจัดขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายการทวงถามหนี้ และส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานมีจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ รวมทั้งปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นธรรมระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ในระบบเศรษฐกิจ
ในพิธีเปิดการอบรมได้รับเกียรติจากนายประชา ชัยสุวรรณ นายกสมาคมฯ ประธานจัดอบรมในครั้งนี้ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยกล่าวถึงความสำคัญของการอบรมว่า “สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพบุคลากรในธุรกิจทวงถามหนี้ให้มีความรู้ทางกฎหมาย มีจรรยาบรรณ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามกรอบของกฎหมายการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เพื่อประโยชน์ของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ รวมถึงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคม”
สำหรับการอบรมและการทดสอบในครั้งนี้ สมาคมฯ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ พล.ต.ต.วิชัย แดงประดับ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,นางสาวณัฐธิดา ศิริวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายมาตรฐานและระเบียบกฎหมาย กรมการปกครอง ,นายอังคาร เพชรอาวุธ ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ตรวจการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงผู้แทนจากภาคเอกชน นายวัชรินทร์ นิลโมจน์ รองนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และรองนายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงิน มาร่วมบรรยาย ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในการบังคับใช้กฎหมาย และร่วมจัดทำข้อสอบเพื่อทดสอบความรู้ของผู้เข้ารับการอบรมหลังเสร็จสิ้นหลักสูตรสรุปผลการทดสอบและเกณฑ์ผ่านการอบรม
ในการอบรมและทดสอบครั้งนี้มีนายนิพลฐ์ สุขภิบาล เลขาธิการสมาคมฯ เป็นพิธีกรและผู้ดำเนินรายการ
ภายหลังการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนต้องเข้าทดสอบวัดผลความรู้ตามหลักสูตร โดยผู้ที่ทำคะแนนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 จะได้รับวุฒิบัตรรับรองความรู้ตามมาตรฐานที่สมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงินกำหนด ทั้งนี้ ผลการทดสอบปรากฏว่าผู้ผ่านเกณฑ์เป็นจำนวนมากกว่า 90% ของผู้เข้าร่วมทั้งหมดการจัดอบรมและทดสอบรุ่นที่ 24 นี้นับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพทวงถามหนี้ให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของธุรกิจทวงถามหนี้ในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น