พินิจ จารุสมบัติ เยือนจีน ร่วมประชุม “ปรัชญาจูจื่อกับอารยธรรมโลก”
ชี้สอดคล้องค่านิยมไทย–ยกย่องเป็น “ทรัพย์สินทางปัญญาแห่งมนุษยชาติ”
เมืองหนานผิง สาธารณรัฐประชาชนจีน — วันที่ 18 ตุลาคม นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานสภาวัฒนธรรมไทย–จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ในฐานะรองนายกสภาสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ เข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ “ปรัชญาจูจื่อกับอารยธรรมโลก” ณ เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “ศูนย์รวมแห่งปรัชญาจูจื่อ” และ “เมืองแห่งวัฒนธรรมของฝูเจี้ยน”
นายพินิจ กล่าวแสดงความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเวทีระดับนานาชาติครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านอารยธรรมและสืบค้นคุณค่าของปรัชญาจูจื่อในยุคสมัยใหม่ พร้อมชี้ว่า
“ปรัชญาจูจื่อไม่เพียงเป็นสมบัติของวัฒนธรรมจีนเท่านั้น แต่ยังเป็น ทรัพย์สินทางปัญญาของมวลมนุษยชาติ ที่หล่อหลอมแนวคิด ‘สร้างความปรองดองบนพื้นฐานของความต่าง’ — สรรพสิ่งมีแก่นสารเดียวกันแต่มีรูปร่างต่างกัน”
เขาอธิบายว่า “สรรพสิ่งมีแก่นสารเดียวกัน” หมายถึง ความใฝ่ฝันร่วมของมวลมนุษย์ในการแสวงหาสันติภาพ ความยุติธรรม และความรุ่งเรือง ส่วน “รูปร่างต่างกัน” คือ ความหลากหลายทางอารยธรรมที่ควรได้รับการเคารพและเข้าใจ ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับ ข้อริเริ่มอารยธรรมโลกของจีน ที่มุ่งเน้นความร่วมมือบนพื้นฐานของความแตกต่างอย่างสันติ
นายพินิจ ยังกล่าวถึงสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างไทย–จีนว่า ทั้งสองประเทศเป็นเสมือน “ครอบครัวเดียวกัน” โดยมีวัฒนธรรมเป็นรากฐานสำคัญของมิตรภาพ ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สภาวัฒนธรรมไทย–จีนฯ ได้ร่วมกับสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ จัดงาน “ฟอรั่มอารยธรรมเหอเหอ 2025” ที่กรุงเทพฯ เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในระดับอาเซียน
“ค่านิยมของไทย เช่น การเคารพผู้ใหญ่ ความเมตตา และการมีน้ำใจ สอดคล้องกับหลักคิดของจูจื่อที่ว่า ‘พัฒนาตนเพื่อความสงบสุขของผู้อื่น’ และ ‘บำเพ็ญตนตามระเบียบแบบแผน’ นี่คือรากฐานของคุณธรรมและความสมานฉันท์ทางสังคม” นายพินิจกล่าว
พร้อมย้ำว่า ปรัชญาจูจื่อเป็น “สะพานแห่งอารยธรรม” ที่ก้าวข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม เชื่อมมนุษย์ทุกชาติให้เรียนรู้และเคารพซึ่งกันและกัน
“ดังคำของจูจื่อที่ว่า ‘คลองน้ำใสสะอาดเช่นนี้ได้อย่างไร ก็เพราะแหล่งน้ำไหลมาไม่ขาดสาย’ — ปัญญาในแต่ละอารยธรรมคือแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงโลก และจูจื่อคือหนึ่งในบ่อเกิดแห่งปัญญานั้น”
นายพินิจ ทิ้งท้ายว่า หวังให้การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ปรัชญาจูจื่อเป็นพลังใหม่ในการส่งเสริมความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทย–จีน และให้แสงแห่งภูมิปัญญาตะวันออกได้ส่องประกายในโลกยุคใหม่อย่างงดงาม
//
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น