นนทบุรี วงจรปิด หนุ่มพริตตี้บอย ถูกซ้อมเย็บ7เข็ม หลังมีสาวมาปรับทุกข์เรื่องความรัก
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 28 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายกิตติ ภารังกูล อายุ 24 ปี อาชีพ พริตตี้บอย ว่าถูกชายทราบชื่อคือนายโจ ตะโกนด่าทอ ก่อนลากคอมาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บที่หางคิ้วซ้ายเย็บ 7 เข็ม สาเหตุหึงหวงแฟนหลังเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ดื่มเหล้าปรับทุกข์เรื่องความรักกับพริตตี้บอยผู้เสียหาย ที่เกิดเหตุบริเวณ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถ.เลียบคลองประปา ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา แจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 28 เม.ย.66 เวลาประมาณ 00.54 น. บันทึกภาพผู้เสียหายขณะเดินไปส่งลูกค้าตามปกติ ก่อนจะถูก 1 ในโต๊ะของคู่กรณีโกนด่าด้วยคำหยาบคาย ผู้เสียหายจึงเดินเข้าไปหาเพื่อถามถึงสาเหตุก่อนคู่กรณีมีปากเสียงกับตน ก่อนจะลากคอตนไปทำร้ายร่างกาย
ภาพวงจรปิดอีกมุมนึงของร้านบันทึกภาพเวลา 01.00 น.บันทึกภาพผู้เสียหายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบ ถูกชายคู่กรณีสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ล็อคคอก่อนชกไปที่บริเวณคิ้วข้างซ้าย 2 หมัดจนทำให้ผู้เสียหายตั้งมือเพื่อป้องกันตัว จากนั้นมีเพื่อนคู่กรณีสวมหมวกแก๊ป ใส่แว่น เสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เดินถือซ้อมเข้ามามีท่าทีจะมาทำร้าย ก่อนเพื่อนอีก 2 คนของคู่กรณีซึ่งเป็นผู้ชาย และผู้หญิง วิ่งมาห้ามปราม รวมถึงพนักงานภายในร้านอีก 2 คน รีบวิ่งมาช่วยกันห้าม
นายกิตติ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเจอแฟนสาวของนายโจคู่กรณี ได้มาที่ร้านเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมานั่งแล้วสั่งเบียร์ดื่มตนก็ทำหน้าที่ปกของพริตตี้บอย คือการบริการดูแลลูกค้า ชงเครื่องดื่มปกติ โดยทางแฟนสาวของคู่กรณีก็ชวนคุยปรับทุกข์เรื่องแฟนของเขา ตนก็ให้ตำปรึกษาไปว่าให้ใจเย็นๆ ค่อยๆคุยกันประมาณนี้ หลัจากนั้นไม่นานพอใกล้ร้านจะปิด แฟนหนุ่มที่เป็นคู่กรณีตนก็มาถึงร้านแล้วก็มานั่งด้วยกัน แล้วก็ชวนตนคุยปกติชวนดื่มเหล้า รวมถึงแฟนหนุ่มคู่กรณีตนชวนไปดื่มต่อที่อื่นอีกด้วย ตนก็ปฎิเสธไม่ได้ไปกับพวกเขา หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน ทั้งคู่ก็มาที่ร้านอีกครั้งโดยมาพร้อมเพื่อนๆ มาถึงร้านตนก็เข้าไปทักทายตามหน้าที่ตน ทั้งคู่ก็พูดคุยกับตนปกติสั่งเครื่องดื่มมากินกับเพื่อนๆ แล้วแยกย้ายกลับบ้านตามปกติ วันต่อมาทางผู้จัดการร้านโทรมาหาตนโดยพูดกับตนว่าคู่กรณีตนโทรมาหาว่าตนไปยุ่งกับแฟนเขา ตนก็รู้สึกงง แล้วอธิบายกับผู้จัดการว่า ชื่อผู้หญิงตนยังไม่รู้จักเลย ช่องทางการติดต่ออื่นๆก็ไม่มี ทางผู้จัดการก็รับปากว่าเดี๋ยวจะคุยให้ ตนก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ แฟนสาวคู่กรณีก็มาที่ร้านอีกครั้งแล้วเรียกตนไปคุยโดยบอกว่า ขอโทษกับตนที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วพี่โจแฟนเขาฝากมาขอโทษอีกคนด้วย ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ต่อมาล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 01.00 น. ตนทำงานปกติเดินไปส่งลูกค้าที่หน้าร้านเสร็จขณะที่เดินผ่านโต๊ะคู่กรณีซึ่งมีประมาณ 4 คน โดยแฟนสาวของเขาไม่ได้มาด้วย หลังจากตนกำลังเดินผ่านโต๊ะคู่กรณีก็ตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายว่า "มองค...ยไร" ตนจึงเดินเข้าไปเพื่อจะพูดคุยอธิบายแต่คุ๋กรณีไม่ฟัง รวมถึงเพื่อนของเขาที่ใส่หมวกแก๊ปทำท่าทางเหมือนจะมาทร้ายตน จากนั้นเหจุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ โดยลากคอตนจากโต๊ะไปต่อยที่หน้าร้านได้รับบาดเจ็บที่คิ้วซ้าย 7 เข็ม ตนพยายามที่สะสะบัดออกแต่สู้แรงไม่ไหวทำได้เพียงเอามือตั้งการ์ดป้องกันตัว เท่าที่รู้สึกตัวตนจำได้ว่าถูกต่อย 2 หมัด แล้วเพื่อนของคู่กรณีก็ถือช่อนซ้อมมา 1 คัน ทำทีจะเข้ามาทำร้ายตน แต่ก็มีเพื่อนของเขาอีก 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิงอีก 1 คน พยายามเข้าห้ามอยู่ตลอดเวลา กาอเหตุเสร็จก็เดินทางกลับบ้านแบบปกติหน้าตาเฉย
นายกิตติ กล่าวต่ออีกว่า ตนทำงานในร้านนี้มากว่า 2 ปี ตั้งแต่ยังเรียน อยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 4 ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เนื่องจากตนให้เกียรติลูกค้าตลอด บริการแค่ในหน้าที่ไม่เคยลวนลาม หรือเกินเลยใดๆทั้งสิ้น เบื้องต้นตอนนี้ก็ได้ไปรักษาแผลที่ รพ. มงกุฎแจ้งวัฒนะ สำรองจ่ายไปแล้วกว่า 3,500 บาท ความรู้สึกตนตอนนี้คือ ตนไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากตนผิดจริงไปยุ่งวุ่นวายกับแฟนเขาผมก็สมควรโดนในการกระทำดังกล่าว แต่ตนไม่ได้ทำอะผิดแล้วมาโดนแบบนี้ รู้สึกว่าตอนนี้ความปลอดภัยจะหาได้ที่ไหน ตนทำงานประจำที่นี่วันไหนจะโดนแอบยิง หรือลุมทำร้ายก็เป็นได้ ต้องมาเสี่ยงกับคนที่จะมาทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ก็ยังทำงานไม่ได้ยังเจ็บกับบาดแผลอยู่ แล้วงานตนเป็นงานบริการลูกค้าต้องใช้หน้าตาในการทำงานตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าแผลจะหายปกติตอนไหนแล้วจะกลับมาทำงานได้ตอนไหน เลื้องต้นได้แจ้งความไว้แล้วที่สภ.ปากเกร็ด ยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย แล้วก็มาชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา รวมถึงเยียวยารับผิดชอบในการกระทำดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น