วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

ป้าวัย 60 ปี สุดช้ำ จ้างช่างรีโนเวทบ้านหมดไปครึ่งล้าน โดนช่างเทงานหลังคารั่วทั้งหลัง แถมไม่มีประตูรั้วปิดบ้าน

 ป้าวัย 60 ปี สุดช้ำ จ้างช่างรีโนเวทบ้านหมดไปครึ่งล้าน โดนช่างเทงานหลังคารั่วทั้งหลัง แถมไม่มีประตูรั้วปิดบ้าน




นนทบุรี วันที่ 29 เม.ย.2566 เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นาง อนงค์ หรือป้านงค์ (สงวนนามสกุล)อายุ 60ปี และ ร.ต.อธึก (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการเกษียณ คู่สามีภรรยา ว่าเมื่อช่วงเดือน กรกฎาคม 2565 ตนและครอบครัวได้ซื้อบ้าน2ชั้น ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ในราคา 1.5 ล้านบาท และได้ติดต่อจ้างนาย สุรเดชหรือช่างเดช (สงวนนามสกุล) จากการแนะนำของช่างแมวซึ่งเป็นเพื่อนของสามี เพื่อให้เข้ามาทำการรีโนเวทบ้านโดยมีการตกลงกันว่าให้ทำการเปลี่ยนหลังคาใหม่ทั้งหมด และต่อเติมหลังคาบริเวณด้านข้างของตัวบ้านพร้อมทั้งเปลี่ยนฝ้าใหม่และปูพื้นกระเบื้องทั้งหลัง และทำการต่อเติมห้องครัวบริเวณด้านหลังบ้าน ซึ่งตอนแรกได้มีการตกลงราคากันที่ 450,000 บาท และทางช่างเดชแจ้งว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดช่วงเดือน ตุลาคม 2565 แต่บ้านก็ยังไม่เสร็จทำไปแค่เปลี่ยนหลังคาบ้านและต่อเติมหลังคาด้านข้าง แต่ไม่รู้ทำหลังคายังไงพอฝนตกมีน้ำไหลลงมาจากหลังคาเต็มไปหมด กระเบื้องที่ปูในบ้านทั้ง2ชั้นก็ไม่ได้ระดับ เกยกันไปเกยกันมา แถมประตูรั้วหน้าบ้านก็ถูกตัดออกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 65 และยังไม่มีการนำประตูใหม่มาติดตั้งให้ จนตอนนี้ต้องใช้วิธีเอาประตูเก่ามาวางนอนแล้วเอาเชือกมัดแทน






จนตอนนี้เวลาผ่านไปจนถึงเดือนเมษายน 2566 บ้านก็ยังไม่เสร็จ แถมในช่วงเดือน ส.ค.ถึงเดือนกันยายน 65 มีการขอเบิกเงินอีกเรื่อยๆ จนยอดรวมเลยจากที่ตกลงกันไว้เพียง 450,000 บาท ไปเป็น 650,089 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ตนเป็นคนซื้อมาเองอีกกว่า100,000 บาท 






นาง อนงค์ หรือป้านงค์ เล่าว่า บ้านหลังนี้ครอบครัวตนอยู่กัน4คน คือสามีและลูกอีก2คน โดยจะเอาไว้ใช้เป็นที่อาศัยหลังเกษียณอายุราชการของสามีและให้ลูกๆอยู่ต่อในภายภาคหน้า จึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ในราคา 1.5 ล้าน บาท โดยเป็นบ้านมือสอง ตอนแรกที่ได้มาสภาพบ้านก็ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไรจึงตัดสินใจหาช่างเพื่อมาทำการรีโนเวทบ้านใหม่ พอดีช่างแมวซึ่งเป็นเพื่อนกับสามีได้แนะนำช่างคนนึงให้รู้จักชื่อว่าช่างเดชให้เข้ามาดูแลให้ โดยก่อนหน้านี้ช่างเดชเคยอ้างว่าเคยทำบ้านให้ระดับนายพลมาแล้วและด้วยความเป็นคนที่ช่างแมวแนะนำมาจึงตัดสินใจให้ช่างเดชดูแล ตอนแรกที่คุยกันตกลงราคากันที่ 450,000 บาท รวมค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าแรงแล้ว และได้โอนค่ามัดจำงวดแรกจำนวนเงิน 150,000 บาท ในวันที่ 31 ก.ค.65  และเริ่มทำตั้งแต่เดือนสิงหาคม65 และจะแล้วเสร็จช่วงเดือน ตุลาคม65 ซึ่งในระหว่างเดือนสิงหาคม ช่างเดชได้พาลูกน้องเข้ามาทำงานเป็นปกติจนถึงเดือนตุลาคม ในระหว่างนั้นช่างเดชก็จะขอเบิกเงินอยู่ตลอด อ้างว่าเบิกค่าอุปกรณ์บ้าง เบิกค่าแรงบ้าง โดยตนได้ทำการโอนเงินไปทั้งหมด  9 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 เดือนหมดเงินไป 650,089 บาท และค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ตนเป็นคนไปซื้อมาเองอีกกว่า 100,000 บาท โดยทำการโอนเงินให้ช่างเดช


วันที่ 30 ก.ค 65 จำนวน 150,000 บาท

วันที่ 6 ส.ค.65 จำนวน 100,000 บาท

วันที่ 22 ส.ค.65 จำนวน 200,000 บาท 

วันที่ 30 ส.ค.65 จำนวน 21,389 บาท

วันที่ 5 ก.ย.65 จำนวน 50,000 บาท

วันที่ 13 ก.ย.65 จำนวน 70,000 บาท 

วันที่ 19 ก.ย.65 จำนวน 30,000 บาท

วันที่ 26 ก.ย.65 จำนวน 8,700 บาท

วันที่ 27 ก.ย.65 จำนวน 20,000 บาท 

พอตนโทรไปหาช่างเดชก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด อ้างว่า เป็นโควิดบ้าง ไปงานบวชญาติบ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง จนตนและครอบครัวต้องไปหาถึงที่บ้าน ก็เห็นรับปากว่าจะกลับมาทำให้แต่ก็ไม่เห็นเข้ามาทำสักที





ป้านงค์ ยังกล่างเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้เครียดมาก ต้องกินยานอนหลับ ส่วนสามีเองก็เครียดเหมือนกัน เคยผ่าตัดหัวใจมาเมื่อ2ปีที่แล้ว บางครั้งเครียดจนมีอาการวูบๆไปเหมือนกัน พอได้เห็นสภาพบ้านตัวเองที่จะใช้อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิตก็รู้สึกหดหู่ไปหมด หลังคาที่ทำใหม่มั้งหมดก็รั่ว ตอนนี้ในห้องนอนมีน้ำซึมออกมาจากฝ้าที่เพิ่งทำใหม่แล้วเพราะเวลาฝนตกน้ำก็จะไหลเข้ามา ส่วนหลังคาด้านข้างที่ทำใหม่เพื่อใช้เป็นที่จอดรถเวลาฝนตกน้ำก็ไหลออกมาจากหลังคาเหมือนไม่มีหลังคาเลย รางน้ำฝนบางอันก็ไม่ใส่ท่อให้ ส่วนอันที่ใส่ท่อให้ก็ปล่อยให้ท่อลอยอยู่แบบนั้นไม่ได้ต่อลงท่อน้ำ เวลาน้ำฝนไหลลงมาก็เข้าพื้นบ้านโดยตรง กระเบื้องที่ปูในบ้านก็ไม่เท่ากัน และที่สำคัญคือประตูรั้วหน้าบ้านช่างเดชตัดประตูเดิมออกเพื่อที่จะเปลี่ยนประตูใหม่เป็นแบบเลื่อนเปิด ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.65 จนถึงตอนนี้ ประตูก็ยังไม่ได้ทำ ตนกับลูกๆต้องช่วยกันเอาประตูอันเดิมมาวางแนวนอนแล้วใช้เชือกมัดเอาไว้ วันไหนที่ลมแรงๆประตูก็ล้ม จะไปธุระที่ไหนไกลๆก็ไม่กล้าไปต้องมีคนคอยเฝ้าบ้านไว้คนนึงตลอด อยากฝากบอกไปถึงช่างเดช ช่วยสงสารกันหน่อยตนไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร ถ้าเป็นคนอื่นปูกระเบื้องแบบนี้เขาให้รื้อออกหมดแล้ว ตนแค่อยากให้กลับเข้ามาทำงานที่รับปากไว้ให้มันเสร็จ ตนให้โอกาสมาหลายรอบแล้ว เข้าไปคุยดีๆก็แล้ว จนตอนนี้เวลาผ่านไป 9 เดือนแล้วบ้านก็ยังไม่เสร็จ ตนกับครอบครัวต้องทนอยู่กันมาแบบนี้ แถมบ้านก็ต้องผ่อน เงินที่เอามาจ้างช่างเดชส่วนหนึ่งก็ยืมเขามา ตอนนี้ก็ต้องใช้หนี้หลายทาง ถ้าตนมีเงินตนจะไปจ้างช่างคนใหม่ให้มาทำบ้านให้เสร็จเลย แต่นี้ตนและครอบครัวเอาเงินที่มีทั้งหมดมาจ้างช่างเดชหมดแล้ว 





เบื้องต้นได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สมบัติ แสงอินทร์ ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว หากนาย สุรเดช ไม่ยอมกลับมาทำการซ่อมแซมบ้านให้ตนตามที่ได้เคยคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ ก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น