วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566

บุรีรัมย์ สั่งย้าย พงส ขอหารครึ่ง จากเงินประกันประกัน 5 แสน

 บุรีรัมย์ สั่งย้าย พงส ขอหารครึ่ง จากเงินประกันประกัน 5 แสน



   ผู้การฯบุรีรัมย์ สั่งย้ายพนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ ไปภูธรจังหวัด เพื่อรอการสอบ หลังญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุร้อง”สายไหมต้องรอด”ว่าพนักงานสอบสวนเรียกเงิน 2.5 แสน จาก5 แสนที่จะได้จากประกัน พรบ.เวลาผ่านมาร่วม 3 เดือนไม่ได้เงินเพราะไม่ตกลง ภรรยาเผยสามีเข้าฝันอยากทำบุญร้อยวัน วอนช่วยภาครัฐช่วยเหลือ เพราะต้องใช้หนี้ค่าจัดงาน



  วันที่ 9 เม.ย. 2566 กรณี น.ส.จันทร์ธิดา พิทักษา อายุ 38 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนายอาชาน โอภาสธนากูร เพจสายไหมต้องรอด กรณี นายหวอย พิทักษา อายุ 72 ปี บิดา ประสบอุบัติเหตุถูกรถบิ๊กไบค์ ชนท้ายจักรยานยนต์ของบิดา ขณะกำลังกลับบ้านจนเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2566 หรือเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา


ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน ได้โทรศัพท์มาต่อรอง เรียกเงิน 250,000 บาท จากที่จะได้รับเงินประกันจาก พรบ.500,000 บาท หากตกลงจะได้รับเงินภายใน 3 วัน 7 วัน” สุดท้ายผ่านไปร่วม 3 เดือนยังไม่ได้รับเงินประกัน เพราะไม่ตกลงตามเงื่อนไขของตำรวจ 



ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.ลำปลายมาศ ได้ออกมายืนยันว่าจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


ล่าสุด พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมยก์ ได้สั่งให้มีการย้ายพนักงานสอบสวน ยศ ร.ต.อ. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ภูธรจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว จนกว่าจะมีการสอบเสร็จ


ด้านนางแดง พิทักษา อายุ 71 ปี  บ้านเลขที่ 71 ม.1 ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะยืมเงินชาวบ้านมาจัดงานศพหมดไปกว่า 100,000 บาท 


สงสารลูกสาวที่ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องมาวิ่งขอรับเงินประกัน พรบ.500,000 บาท รวม 4 ครั้ง แต่ไม่เคยได้เพราะขาดหลักฐานจากตำรวจไปยื่นให้ประกัน ตอนนี้ถูกเจ้าหน้าที่ทวงหลายครั้ง ได้แต่บอกว่า”รอเงินประกัน”จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี


นางแดง กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตนนอนไม่หลับเพราะคิดแต่เรื่องนี้ ที่สำคัญใกล้จะครบทำบุญร้อยวันให้กับสามี เงินยังไม่มี หนี้ยังไม่ได้ใช้///////////


ธีรยุทธ์/บุรีรัมย์ /รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น