วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566

“ผู้กองนัส” ฟุ้ง !! ได้ ส.ส.ทั่วประเทศเกิน 50 ที่นั่ง ส่วนปทุมธานีหวังกวาดยก 7 เขต ขณะที่กองเชียร์ พปชร. มาแน่นพื้นที่ เวทีปราศรัยยิ่งเย็นยิ่งคึก !!

 “ผู้กองนัส” ฟุ้ง !! ได้ ส.ส.ทั่วประเทศเกิน 50 ที่นั่ง ส่วนปทุมธานีหวังกวาดยก 7 เขต ขณะที่กองเชียร์ พปชร. มาแน่นพื้นที่ เวทีปราศรัยยิ่งเย็นยิ่งคึก !!



เมื่อเวลา 17.30.น.วันที่ 9 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เวทีปราศรัยใหญ่ตั้งอยู่บริ เวณลานดินหลังตลาดกลางลาดสวาย ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ  กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ดร. เกียรติศักดิ์ ส่องแสง (อดีต ส.ส.) ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 6 ปทุม ธานี หมายเลข 5 ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โดยการสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีเพื่อเสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โดยมีประชาชนนับหมื่นเข้าร่วมรับฟังในครั้งนี้



ในขณะที่ทางด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กำลังขึ้นปราศรัยบนเวทีาอยู่นั้นทางด้านนายศรรัก ทองชัย แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ให้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ เรื่องขอให้พรรคพลังประชารัฐชูนโยบาย "ก้าวข้ามความขัดแย้ง" ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติให้สัมฤทธิ์อย่างเร่งด่วน



โดยนายศรรัก กล่าวว่านโยบาย " ก้าวข้ามความขัดแย้ง " ของพรรคพลังประชารัฐนั้นประชาชนจึงเห็นด้วยกับนโยบาย อย่างน้อยพรรคการเมืองผู้หลักผู้ใหญ่ รวมถึงผู้มีอำนาจในบ้านนี้ เมืองนี้ก็ยังได้มีความพยายามที่จะหาจุดเริ่มต้นหาทางแก้ไข และหาทางเยียวยาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน พวกเราประชาชนมีผลกระทบในทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ อนาคตลูกหลานมีผลกระทบทั้งหมด



วันนี้จึงมายื่นหนังสือฉบับนี้เพื่อให้ทางพรรถที่ออกนโยบายนี้มาพร้อมเรียกร้องให้พรรค การ เมืองทุกพรรคสนับสนุนนโยบาย " ก้าวข้ามความขัดแง " สัมฤทธิ์ผลและเกิดขึ้นจริงอย่างเร่งด่วนและสิ่งที่เรียกร้องประกอบด้วย


1. กำหนดกรอบวันเวลา ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ประชาชนทุกสีทุกกลุ่ม ได้มีโอกาสออกจากเรือนจำ กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวพ่อแม่พี่น้องลูกหลานเขาอย่างอบอุ่นอย่างเร่งด่วนในทุกกรณีที่เป็นเหตุคคีทางการเมือง 2. ออก พรบ.ชดเชยเยียวยาให้ผู้ที่มีคดีความและติดคุกเหตุทาง การเมืองทุกๆกรณี 3. สำคัญขอให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรดการเมืองที่นำร่องรณรงค์ตามนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง " อย่างแท้จริงและมีความจริงใจต่อประชาชนตามนโยบายของพรรค



พวกเราภาคประชาชนจึงขอฝากความหวังที่จะได้เห็นนโยบาย " ก้าวข้ามความขัดแย้ง " สัมฤทธิ์ ผลเกิดขึ้นจริงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต่อประเทศชาติขอแสดงความนับ ถือด้วยความเคารพ


ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  กล่าวว่าในจังหวัดปทุมธานีเรายังไม่มี ส.ส.เนื่องจากตั้งแต่ปี 62 มาเรามีการเตรียมตัวน้อยมากแต่มาในปี 66 นี้เรามั่นใจว่าผู้สมัครเราจะสู้คู่แข่งได้ไม่ยาก โดยทั้ง 7 เขตนั้นมีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นแต่เรามั่นใจมากว่าผู้สมัครเรามีฐานการเมืองที่ดีอยู่แล้ว จึงคาดว่าจะสามารถปักมุดได้ในจังหวัดปทุมธานี


สำหรับพื้นที่ภาคเหนือนั้นอย่าไปมองว่ามีหลายพรรคแข่งขันกันแต่ทว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยแค่ 2 พรรคเท่านั้น ยกตัวอย่างเมื่อปี 62 เราสามารถล้มแชมป์ 5-6 สมัยได้เพราะเรามีความพร้อม


ในส่วนของเรื่องจะมีการดิวในการจัดตั้งรัฐ บาลกับพรรคอื่นหรือยังนั้น โดยทาง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคท่านได้ย้ำอย่างชัดเจนไว้ว่ายังไม่ถึงเวลาให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก่อน ในส่วนของการจะจับมือร่วมรัฐบาลกับใครนั้นพรรคเรามีนโยบายชัดเจนคือการก้าวข้ามความขัดแย้งและอะไรที่เกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองและประชาชนเราพร้อมเสมอ


ในส่วนตัวตนเองนั้นซึ่งเป็นผู้สมัครและอยู่ในพื้น ที่จึงมั่นใจว่าเราจะได้ที่นั่งเกิน 50 ที่นั่งในส่วนการจะจับมือกับ พรรคเพื่อไทย หรือ พรรครวมไทยสร้างชาติ นั้นก็อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคยังไม่สามารถตอบได้ ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 30 กว่าวัน และยังไม่รู้เลยว่าทั้ง 2 พรรคนั้นจะได้ที่นั่งของ ส.ส.มาเท่าไหร่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  กล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น