วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2565

“อลงกรณ์”มั่นใจประชาธิปัตย์ภาคกลางได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น เร่งเดินหน้าฟื้นศรัทธาประชาชนพร้อมชูธงนำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจการเมือง

 “อลงกรณ์”มั่นใจประชาธิปัตย์ภาคกลางได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น เร่งเดินหน้าฟื้นศรัทธาประชาชนพร้อมชูธงนำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจการเมือง



นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมนาสมาชิกและเครือข่ายแกนนําพรรคประชาธิปัตย์ 26 จังหวัดภาคกลางและบรรยายพิเศษในหัวข้อ” นโยบายและผลงานพรรคประชาธิปัตย์กับการเลือกตั้งครั้งหน้า”ระหว่างวันที่ 16- 17 ธันวาคมนี้ที่จังหวัดเพชรบุรี



     โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองพรรคแรกของประเทศอยู่มา76ปีถือเป็นสถาบันทางการเมืองหลักผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและเมื่อเป็นรัฐบาลได้สร้างผลงานเป็นรูปธรรมมาหลายยุคหลายสมัยในการวางรากฐานเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะในช่วง30ปีที่ผ่านมา(2535-2565)ตั้งแต่ยุคหัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันครอบคลุมการพัฒนาประเทศทุกมิติ เช่น การพัฒนา

เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ การพัฒนาท้องถิ่น การกระจายอำนาจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาการศึกษาและการสาธารณสุข เช่นการจัดตั้ง กระทรวงแรงงาน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการนมโรงเรียนและอาหารกลางวัน องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพสต. ) กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มหาวิทยาลัยภูมิภาค ถนนสี่เลน รถไฟทางคู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โฉนดชุมชน การปฏิรูปที่ดิน กองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โครงการประกันรายได้เกษตรกร ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม77จังหวัด คณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน7,255ตำบล เป็นต้น

และในยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติทางการเมืองและทางเศรษฐกิจเช่นต้มยำกุ้งและแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารจนประเทศรอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติหลายต่อหลายครั้ง




   นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีศักยภาพมากแต่สูญเสียโอกาสเพราะเหตุแห่งการคอรัปชั่นและความขัดแย้งทางการเมืองแบ่งแยกประชาชนเป็น2ฝ่ายต่อสู้ห้ำหั่นกันจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากนำไปสู่การรัฐประหารถึง2ครั้งแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้ นับเป็นปัญหาวิกฤติเรื้อรังที่บั่นทอนอนาคตของประเทศมาตลอด20ปี

      “3ปีกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นถึงการถอยออกจากวังวนความขัดแย้งมุ่งมั่นตั้งใจทำงานมีจุดยืนชัดเจนที่จะคลี่คลายแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิถีทางประชาธิปไตยและพร้อมที่จะร่วมเป็นผู้นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง

   พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะสถาบันทางการเมืองหลักจะต้องสร้างความเชื่อมั่นทำให้ประชาชนเห็นถึงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง(Strong Leadership)มีทักษะประสบการณ์ความสามารถและจุดยืนประชาธิปไตยที่มั่นคงพร้อมเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลและเป็นทางเลือกที่ดีกว่า2ขั้วความขัดแย้ง สามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจเพื่อให้การเลือกตั้งในปี2566 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นก้าวใหม่ของประเทศ

   สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง26จังหวัดซึ่งมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ เป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลรับผิดชอบมี ส.ส. 8คน มีสาขาพรรค สมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัครที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นทำงานเพื่อประเทศชาติ 76ปีของพรรคคือ76ปีที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกอยู่ทุกหนแห่งทั่วประเทศ ขอให้สมาชิกพรรคและแกนนำพรรรร่วมกันรณรงค์สนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ในแบบเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดภาคกลางจะได้รับการเลือกตั้งมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าจากผลงาน3ปีกว่าที่ผ่านมาและนโยบายที่ทันสมัยตอบโจทย์อนาคตของประชาชน

และสามารถสร้างขีดความสามารถของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคน.

นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น