กก.อิสระประกาศพาIFECกลับมาเทรดภายใน4-6เดือนและคัดค้านฟื้นฟูกิจการ ขณะที่“หมอวิชัย”ติงกก.อิสระทำเกินหน้าที่-ขัดกฎหมาย ห่วงเจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินIFECขายทอดตลาดใช้หนี้หากไม่สร้างแผนแก้ปัญหาเร่งด่วนทั้งรับแผนฟื้นฟูหรือเร่งเลือกกรรมการให้ครบ ประกาศมีแผนฟื้นIFECคืนเงินทุกฝ่าย
นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) แสดงข้อสงสัยถึงการแถลงข่าวของพล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ และนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการอิสระ ที่ออกมายืนยันว่าจะนำพาและทำให้หุ้นIFECกลับมาซื้อขายได้ดังเดิม โดยนายวิชัยตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันยังปิดงบปี 2560 ไม่ได้เคยท้วงติงเรื่องนี้ตอนที่มีความพยายามทำให้กรรมการเหลือ3คนโดยไม่ชอบทำให้ไม่สามารถเลือก Audit ได้เพราะต้องใช้กรรมการที่ครบองค์ประชุม และการอ้างตัวออกมาทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของทั้ง 2 คน ขัดต่อกฎหมายมหาชนที่กำหนดให้กรรมการที่เหลืออยู่ไม่ครบ 5 คน ทำหน้าที่เพียงการจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการให้ครบ 9 คนตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งขัดต่อประกาศของของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ที่กำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการอิสระว่าต้องปลอดจากความเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและไม่เกี่ยวข้องกับงานบริหารทุกประเภท
“การอ้างมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่มีกรรมการอิสระประชุมเพียง2 คนถือว่าเป็นโมฆะ เพราะเป็นมติที่ไม่ครบองค์ประชุมตามกฎหมายกำหนดที่ต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมอย่างน้อย 5 คน อีกทั้งการแสดงเจตนาแต่งตั้งตนเองเป็นผู้บริหารก็ขัดต่อข้อห้ามด้านคุณสมบัติของกรรมการอิสระ จึงเท่ากับทั้ง 2 คน พ้นสภาพกรรมการแล้ว” นายวิชัย กล่าว
นอกจากนี้นายวิชัย ระบุถึงเรื่องที่ที่ฝ่ายบริหารใช้อาคารเดอะไนน์ เป็นห้องประชุมและต้อนรับแขก เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้ามาในIFEC แล้วทำลายระบบรักษาความปลอดภัยของสำนักงาน และจำเป็นต้องนำเอกสารที่พอมีเหลือไปเก็บในที่ปลอดภัย ไม่ใช่มาเก็บในห้องประชุม เพราะส่วนหนึ่งของเอกสารคือหลักฐานการทุจริตของอดีตผู้บริหารบางคน โดยกลุ่มคนที่เข้ามาทำลายระบบรักษาความปลอดภัยยังเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บุกรุกIFECล่าสุดเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งหลังจากสำนักงานถูกบุกรุกครั้งที่ 2 ฝ่ายบริหารตรวจพบว่าเงินในบัญชีของIFECหายไปบางส่วน ส่งผลให้เช็ค11 ใบที่IFECต้องใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไม่สามารถเบิกจ่ายได้ และพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บุกรุกIFEC
“ส่วนตัวผมสนับสนุนทุกหนทางที่จะแก้ปัญหาและทำให้IFECสามารถคืนเงินให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อยของIFEC ไม่ว่าจะเป็นแนวทางฟื้นฟูกิจการที่เจ้าหนี้ยื่นร้องต่อศาล หรือ แนวทางสรรหากรรมการให้ครบแล้วกลับมาบริหารกิจการ โดยพร้อมสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาและทำให้IFECเดินหน้าได้ต่อ ที่สิ่งที่กังวลในขณะนี้ คือกิจกรรมที่กรรมการอิสระกำลังดำเนินงานทั้งที่ไม่มีอำนาจและขัดต่อกฎหมาย ซึ่งอาจจะย้อนกลับมาสร้างปัญหาเพิ่มเติมภายหลังแก่IFEC” นายวิชัย กล่าว
ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นIFEC กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเจ้าหนี้IFECจำนวนมากได้ยื่นฟ้องร้องกว่า100คดีแต่บริษัทไม่มีความสามารถในการชำระในที่สุดก็จะนำมาสู่การบังคับคดีและล้มละลาย ศาลจะสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินIFECมาชำระหนี้ ซึ่งหากไม่เร่งสร้างแนวทางและแผนแก้ปัญหาอย่างชัดเจน ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของIFECจะต้องหายไป ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการคงอยู่ของIFEC
นายวิชัย ยังระบุอีกว่ามีการให้ข่าวหมิ่นประมาทเรื่องญาติของตนเอง ข้อเท็จจริงคือทุกคนฟ้องเพราะอยากได้เงินคืน ซึ่งดีที่ไม่ฟ้องล้มละลาย ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนอยากHaircut ตัวเองไม่ใช่ลูกหนี้จะได้ล้มบนฟูก และอยากให้สังคมรู้ข้อเท็จจริงเรื่องคุณศุภนันท์ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งไม่ได้ถูกปลด ที่ผ่านมาพยายามทำทุกทางในการติดตามเรื่องข้อพิรุธในการบริหารงานจนเป็นคดีขึ้นสู่ศาล ทำให้ตัวเองและครอบครัวถูกข่มขู่ บังคับเอาตัวไปกดดันให้ขายหุ้น มิใช่เป็นการใช้ข้อมูลภายใน เรื่องนี้คุณศุภนันท์ได้ร้องต่อกองปราบปรามแล้ว ขอให้หยุดสร้างปัญหาเพิ่มบ้านหลังนี้ต้องการการเยียวยา และควรรับผิดชอบการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อบริษัทและตลาดทุนโดยรวม
ในช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.บุญเลิศและนายฉัตรณรงค์ เปิดแถลงข่าวแสดงความมั่นใจว่า จะใช้เวลา4-6 เดือนทำให้หุ้นของIFECกลับมาซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมยืนยันว่าจะต้องทำหน้าที่กรรมการอิสระต่อไปด้วยเหตุผลว่าหากลาออกจะทำผิดมาตรา89/7 โดยไม่สนใจข้อกฎหมายเรื่องการขาดคุณสมบัติเนื่องจากเข้าไปเป็นกรรมการบริหารIFEC และออกมติคณะกรรมการแต่งตั้งฝ่ายบริหารที่ขัดต่อมาตรา83 ตามพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด ที่กำหนดให้กรรมการที่เหลือไม่ถึง 5 คน ทำได้เพียงอย่างเดียวคือจัดประชุมฯเพื่อคัดเลือกกรรมการให้ครบ รวมทั้งประกาศคัดค้านการฟื้นฟูกิจการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดหนี้ตามหลัก
การ“Automatic stay”เพื่อรักษาธุรกิจของIFEC ให้ดำเนินการต่อเนื่องตามปกติ และรักษามูลค่าทางธุรกิจของIFECและบริษัทย่อยไว้ รวมทั้งวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อพนักงาน ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้
ทั้งนี้กรรมการอิสระทั้งสองได้อ้างถึงอำนาจของผู้ใหญ่ใน กลต. และตลาดหลักทรัพย์ ให้สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อกฏหมาย
ซึ่ง กลต. และตลาดหลักทรัพย์คงต้องตอบคำถามผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ และประชาชนทั่วไป ว่าสามารถมีคนทำเหนือกฏหมายได้หรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น