ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมก่อให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร นั้น
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ,พ.ล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รรท.ผบช.ทท. , พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รรท.รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษธาพล ยี่สาคร รรท.รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ รรท.ผบก.ทท.๑ , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.๓ ,พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. ,พ.ต.อ.ศารุต แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.๑
ได้มอบหมายให้ บก.ทท.๑ , กก.คธม.บช.ทท. , บก.สส.สตม. และ ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกันติดตามและจับกุม
๑.นายเจียง หยูหาง (Mr.Jiang Yuhang) สัญชาติ จีน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ ๑
ข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”,“เป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพ โดยไม่ได้รับอนุญาต”,“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”,“ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารสิทธิ์อันเป็นเอกสารของทางราชการ” ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ ๔๔๑/๒๕๖๑ ลง ๙ ต.ค.๖๑
๒.นายอุดม แซ่เยีย อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ ๒
ข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน”,“ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์อันเป็นเอกสารของทางราชการ” ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ ๔๔๒/๒๕๖๑ ลง ๙ ต.ค.๖๑
๓. บริษัท ไทย ฮาวอาร์ยู จำกัด เลขที่ ๑๖๗๕ ซอยลาดพร้าว ๙๔ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา นายวิชาญ พรมวิชัย กรรมการบริษัท ในข้อหา “สนับสนุนให้ผู้อื่นเป็นมัคคุเทศก์โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน”
สืบเนื่องจาก นายหยู เจียนมิน (Mr.Yu Jianmin) นักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกมัคคุเทศก์ โกงค่าปรับ กรณีทิ้งขยะสูงกว่าความเป็นจริง โดยไกด์ชื่อ นายเจียง หยูหาง สัญชาติจีน และไกด์ไทย ชื่อ นายอุดม แซ่เยีย ผู้ต้องหาทั้งสองร่วมมือกันโกงค่าปรับ พฤติการณ์กล่าวคือเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ที่บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา นายหยู เจียนมิน ผู้เสียหาย ได้ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น จากนั้นจึงถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจพบและจับกุมพร้อมแจ้งข้อหา“ทิ้งสิ่งปฏิกูลในที่สาธารณะ” ก่อนเชิญตัวตนไปเสียค่าปรับ 2,000 บาท แต่นายเจียง หยูหาง ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เข้ามาเร่งรัดกับตน บอกว่าเรือกำลังจะออก จึงให้นายอุดม ผู้ต้องหาที่ 2 จัดการเรื่องค่าปรับแทน พร้อมยึดหนังสือเดินทางไว้ให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจ เมื่อกลับจากท่องเที่ยวเสร็จ และกลับมายังจุดเดิม นายอุดม ได้นำหนังสือเดินทางมาคืนให้พร้อมกับใบเสร็จค่าปรับ ที่มีตัวเลขแก้ไขจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ตนจึงสอบถาม และได้คำตอบว่า หากมีการยึดหนังสือเดินทาง ปกติจะต้องปรับ 5,000 บาท แต่ตนเป็นไกด์นำทัวร์ได้ช่วยพูดให้เจ้าหน้าที่เทศกิจปรับแค่ 3,000 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง จึงจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา แต่นายอุดม และ นายเจียง ห้ามปรามไว้โดยบอกว่าพัทยานั้นอันตราย มีแต่เจ้าหน้าที่มาเฟีย ทำให้ตนไม่กล้าไปแจ้งความ ต่อมาเมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๑ ได้กลับมาถึงกรุงเทพมหานคร ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศจีนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภมิ ให้ช่วยดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว จึงประสาน สภ.เมืองพัทยา ท้องที่เกิดเหตุรวมรวมหลักฐานดำเนินการขอศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับ นายเจียง หยูหาง สัญชาติจีน และ นายอุดม แซ่เยีย จนสามารถจับกุมได้ในเวลาต่อมา ส่วนบริษัททัวร์ของ
นักท่องเที่ยวจีนดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวดำเนินการเข้าตรวจค้น บริษัท ไทย ฮาวอาร์ยู จำกัด เลขที่ ๑๖๗๕ ซอยลาดพร้าว ๙๔ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา นายวิชาญ พรมวิชัย กรรมการบริษัท ในข้อหา “สนับสนุนให้ผู้อื่นเป็นมัคคุเทศก์โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน”
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น