นครบาลบุกรวบ 7 ต่างชาติ 1 คนไทยย่านนานา ฉากหน้าเปิดร้านตัดผม เบื้องหลังค้ายานรก
ผบ.ตร.สั่งสแกนพื้นที่ท่องเที่ยว ส่งชุดลาดตระเวน On Ground ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ย่านนานา พบแก๊งแขกขาว ค้ายาเสพติดด้วยไอเดียสุดบรรเจิด “ซื้ดเดียวถึงยอดพีระมิด” Motto สุดเบี้ยวพร้อมเซอร์วิสที่แปลกใหม่คือ “ห้องลับ” ไว้ให้ลูกค้าเสพยาเสพติด นำมาสู่ “ปฏิบัติการทลายรังแขก" รวบตัวแขกขาวได้ 7 คน หญิงชาวไทย 1 คน ตรวจยึดของกลางยาเสพติดหลายรายการ ขยายผลพบว่า“ทุกระบบไปจบที่บังแคระ”
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดาผบก.สปพ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศอ.ปส.บช.น.และ บก.สส.บช.น. “ปฏิบัติการทลายรังแขก" จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น 8 ราย
☆ 1.MR.Mina farouk sorian khalil อายุ 41 ปี สัญชาติอียิปต์ ถูกจับกุมตัวในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต (เพื่อจำหน่าย)”
☆ 2.Mr.Maw hain draa อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ถูกจับกุมตัวในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต (เพื่อจำหน่าย)”
☆ 3.Mr.AHMAD HASHIR อายุ 30 ปี สัญชาติปากีสถาน ถูกจับกุมตัวในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว (ช่างตัดผม)”
☆ 4.นาย MOHAMMAD KEZA KHADIMIอายุ 21 ปี สัญชาติอัฟกานิสถาน ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
☆ 5.นาย AL MANSURY SAJJAD SALWA อายุ 25 ปี สัญชาติอิรัก ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
☆ 6.นางสาว OHN HTEE อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด”
☆ 7.Mr.Gil Yasir อายุ 30 ปี สัญชาติปากีสถาน ในข้อหา “ซ่อนเร้น จำหน่าย ช่วย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าราชอาณาจักร ตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560”
☆ 8.นางฉลองขวัญ อายุ 50 ปี สัญชาติไทย ถูกจับกุมตัวในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต (เพื่อจำหน่าย), เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ร่วมกันนำของต้องเสียภาษีสรรพสามิตเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ชำระภาษี, มีไว้เพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายสินค้าต้องเสียภาษีที่ยังไม่ได้เสียภาษี” ตรวจยึดของกลางได้ 11 รายการ ดังนี้
☆ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 4 เม็ด
☆ 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 4 ถุง น้ำหนัก 3.3 กรัม
☆ 3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (โคเคน) จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 1.7 กรัม
☆ 4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 เม็ด
☆ 5.เห็ดเมา จำนวน 7 ซอง
☆ 6.เตาและหม้อบารากุ 23 หม้อ
☆ 7.บุหรี่แบบอม (Snuff) จำนวน 55 กล่อง
☆ 8.บุหรี่เถื่อน จำนวน 125 ซอง
☆ 9.สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม
☆ 10.เงินสด จำนวน 125,000 บาท
☆ 11.เงินสดจากการล่อซื้อ 4,000 บาท
โดยจับกุมได้ที่ : อาคารพาณิชย์เลขที่ ซ.สุขุมวิท 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จ.กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ กล่าวคือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยสแกนพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก โดยเน้นตรวจสอบสถานบันเทิง และจุดรวมกลุ่มนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดหรือลักลอบกระทำความผิด ดั่งเช่นกรณีเหตุจับ 4 ชาวอิสราเอล จัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติดในวิลล่า บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 68 เวลา 04.30 น. ที่ผ่านมา ถือเป็นมาตรการยกระดับความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและเป็นยอมรับในระดับสากล ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้น “การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. “ส่งชุดลาดตระเวน On Ground” ในทันที โดยคัดเลือกสายสืบอำพลางเป็นนักท่องเที่ยว ลงพื้นที่ย่านนานาเพื่อหาเบาะแส กระทั่งได้มาถึงบริเวณ ซ.สุขุมวิท 3 พบกลุ่มชายชาวต่างชาติ (แขกขาว) จำนวนหลายคนลักษณะมีพิรุธ คอยชักชวนนักท่องเที่ยวเข้าไปในอาคารพาณิชย์ทั้งที่สภาพอาคาร โดยมีชายชาวต่างชาติ (แขกขาว) รูปร่างสูงใหญ่ 2 คน เข้ามาทักและชักชวนตำรวจอำพลางให้ซื้อยาเสพติด เปิดบทสนทนาด้วยจุดเด่นของสินค้า “เพียงแค่ซื้ดครั้งเดียวก็ทำให้ได้ไปอยู่บนยอดพีระมิดได้เลย” อันเป็นคำเชิญชวนที่มัดใจเหล่าลูกค้านักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี ก่อนถูกพาตัวเข้าไปในตึก เมื่อเข้าไปภายในอาคารพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น เมื่อขึ้นไปชั้น 5 บนสุดของตึก พบร้านตัดผมชาวอาหรับเปิดบังหน้าซึ่งมีห้องลับอยู่ด้านหลัง เมื่อผ่านเข้าไปแล้วเสมือนทะลุไปยังมิติอื่น จากนั้นได้นำยาเสพติดขึ้นมาให้ตำรวจอำพลางรับชม ก่อนจะยื่นของกลางยาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพลางก่อนเสนอขายราคาเม็ดละ 2,000 บาท ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในการมอนิเตอร์ของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. จึงได้สั่งการให้บุกทลายในทันที่
วันที่ 15 ต.ค. 68 เวลา 23.00 น. พล.ต.ท.สยามบุญสม ผบช.น.สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลัง ศอ.ปส.บช.น. “เปิดปฏิบัติการทลายรังแขก” ส่งชุดสืบสวนนับสิบชีวิตบุกเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ซ.สุขุมวิท 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จ.กรุงเทพฯ ทว่ากลุ่มคนร้ายมีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้เป็นอย่างดี ประสาน พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. จึงได้นำสุนัขดมกลิ่น 2 นาย นามว่า จีจี้ และ อาลฟ่า มาช่วยภารกิจตรวจค้นจนกระทั่งได้พบว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในแกนกลางของเครื่องปั่นน้ำผลไม้ และยังตรวจค้นพบ สิ่งผิดกฏหมายหลายรายการ โดยภายในอาคารนี้เป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มชายชาวต่างชาติ (แขกขาว) เป็นจำนวนมาก โดยจับกุมตัวทั้งขบวนการเป็นจำนวน 8 คน โดยจากการขยายผลการจับกุมมีการซักทอดไปถึงชาวอาหรับรายหนึ่ง
ในชั้นจับกุม Mr.Mina Farouk ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “กลุ่มของตนเป็นชาวอาหรับที่มาทำงานเป็นลูกจ้างเท่านั้น หัวหน้าของตนนั้นคือ นางฉลองขวัญฯ และชาวอาหรับรายหนึ่ง นามว่า “ยาซิม” ซึ่งมีใบหน้าเหมือนตัวละคร มินนี่มี จากภาพยนตร์ ออสตินพาวเวอร์ ตนเองนั้นเป็นเพียงคนเรียกแขกเพื่อมาเสพยาเพียงเท่านั้น”
ในชั้นจับกุม นางฉลองขวัญฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร้าน เพียงแค่ขายกัญชา และเปิดร้านทำผมเท่านั้น ส่วนของที่ผิดกฎหมายทั้งหมดในอาคารตนขอปฏิเสธ ของผิดกฏหมายทั้งหมดเป็นของคนอื่น”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น./ รองโฆษกฯ กล่าวว่า “จากการขยายผลการจับกุมพบว่า กลุ่มชายชาวแขกขาวกลุ่มนี้ ร่วมกันทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำหลายหน้าที่ โดยเมื่อเจาะลึกลงไปแล้วยังพบว่าเกี่ยวข้องไปถึงการกระทำความผิดในรูปแบบอื่นนอกเหนือจากการจำหน่ายยาเสพติดซึ่ง และจากเบาะแสยังพบว่าชาวอาหรับบางส่วนในพื้นที่ย่านนานา มีพฤติกรรมลักษณะเป็นผู้มีอิทธิพล สร้างความหวาดกลัวให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว และยังสร้างความเอือมระอาให้กับประชาชนคนไทยในพื้นที่ อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในลักษณะนี้ทั่วพื้นที่นครบาล และจะมีบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขยายผลให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.”
ขอขอบคุณ
ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝอ.5 บช.น.
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร