วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568

เปิดศูนย์ “BAM Remedy Center” ขับเคลื่อน UNGPs เสาหลักที่ 3 สร้างกลไกเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

 เปิดศูนย์ “BAM Remedy Center” ขับเคลื่อน UNGPs เสาหลักที่ 3 สร้างกลไกเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม




ที่บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM Remedy Center  นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันศึกษาและพัฒนาการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี (มูลนิธิ ส.พ.ส.) อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอดีตประธานคณะทำงานขับเคลื่อนหลักการชี้แนะเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UNGPs) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 ได้รับเชิญกล่าวปาฐกถาพิเศษ และร่วมพิธีเปิด ศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM Remedy Center



นางประกายรัตน์ ระบุว่า การจัดตั้ง BAM Remedy Center ถือเป็นการนำ กรอบงานเสาหลักที่ 3 “การเยียวยา (Remedy)” ตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน มาขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ BAM ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พนักงาน รวมถึงประชาชนทั่วไปที่อาจได้รับผลกระทบ สามารถเข้าถึงกลไกร้องทุกข์และการเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิผล โปร่งใส และเป็นธรรม


ทั้งนี้ ศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ BAM นับเป็นหนึ่งใน ศูนย์แรกของประเทศ ที่จัดตั้งขึ้นตามหลัก UNGPs อย่างชัดเจน สะท้อนบทบาทภาคธุรกิจไทยในการยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชน ควบคู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดย BAM เป็นหนึ่งในเครือข่ายความร่วมมือของมูลนิธิ ส.พ.ส. ในการขับเคลื่อนหลักการดังกล่าว



นางประกายรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลักดัน UNGPs ในประเทศไทยตลอดที่ผ่านมา ครอบคลุมทั้ง 3 เสาหลัก ได้แก่

เสาที่ 1 การคุ้มครอง (Protect) ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐ ได้มีการผลักดันความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ จนเกิดการลงนามปฏิญญาขับเคลื่อน UNGPs และการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (NAP) ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในฐานะประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่ประกาศใช้ NAP อย่างเป็นทางการ



เสาที่ 2 การเคารพ (Respect) ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาคธุรกิจ ได้มีการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จัดทำรายงานความยั่งยืนแบบ 56-1 โดยบูรณาการหลัก ESG และการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence : HRDD)



และล่าสุด เสาที่ 3 การเยียวยา (Remedy) ได้ถูกนำมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการจัดตั้ง BAM Remedy Center ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของภาคธุรกิจไทยในการสร้างความเชื่อมั่น ลดความขัดแย้ง และเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนสากลและการพัฒนาที่ยั่งยืน

//

ป.ป.ส.–อว. จับมือผนึกกำลังมหาวิทยาลัย สร้าง “เกราะป้องกันยาเสพติด” ดัน EF–กฎหมายยาเสพติด ลงหลักสูตร ปูทางสังคมปลอดภัยยั่งยืน

ป.ป.ส.–อว. จับมือผนึกกำลังมหาวิทยาลัย สร้าง “เกราะป้องกันยาเสพติด” ดัน EF–กฎหมายยาเสพติด ลงหลักสูตร ปูทางสังคมปลอดภัยยั่งยืน



สำนักงาน ป.ป.ส. ผนึกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนาม MOU ขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มนิสิตนักศึกษา พร้อมยกระดับการเรียนการสอน ผลิตบุคลากรคุณภาพรับมือปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ



พิธีลงนามจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ส. โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ น.ส.วราภรณ์ รุ่งตระการ รองปลัดกระทรวง อว. ร่วมลงนาม ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงและเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นสักขีพยาน


เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยกระดับการป้องกันยาเสพติดในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง เปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาเป็นพลังสำคัญ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และการบูรณาการองค์ความรู้ด้านยาเสพติดในหลักสูตร พร้อมวางกลไกป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา ลดปัญหา “ดรอปเอาต์” และขยายผลสู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน



ไฮไลท์สำคัญของ MOU คือ การดึงองค์ความรู้ทางวิชาการเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการบูรณาการทักษะสมองเพื่อการจัดการชีวิต (Executive Functions: EF) ในหลักสูตรครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ เพื่อผลิตครูปฐมวัยที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง และการบรรจุความรู้ด้านกฎหมายยาเสพติดในหลักสูตรนิติศาสตร์ เพื่อสร้างนักกฎหมายที่เข้าใจปัญหาในมิติรอบด้าน



นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานยังร่วมมือด้านการวิจัย พัฒนาวิชาการ ฝึกอบรมบุคลากร และการสื่อสารสาธารณะ เพื่อเสริมสร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันทางสังคมให้เข้มแข็ง ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการผนึกกำลังรัฐ–การศึกษา วางรากฐานสังคมไทยปลอดภัย ห่างไกลยาเสพติดอย่างยั่งยืน

//