วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ นำโดยภัทรพันธุ์ กฤษณา ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เรียกร้องขอคัดค้านการประกาศขยายเวลาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขายไปอีก 1 ชั่วโมง โดยได้ทำ หนังสือเพื่อคัดค้านถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค

 


    เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ นำโดยภัทรพันธุ์ กฤษณา 

ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ 

เรียกร้องขอคัดค้านการประกาศขยายเวลาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขายไปอีก 1 ชั่วโมง โดยได้ทำ

หนังสือเพื่อคัดค้านถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค



    ตามที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2568 ได้ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นมา ทั้งนี้โดยพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ประกาศใช้นี้ ได้ให้อำนาจคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ใช้อำนาจในการประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบังคับใช้ 

   เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับในฐานะเหยื่อผู้สูญเสียจากการเมาแล้วขับ ทราบมาว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้เตรียมพิจารณาออกประกาศขยายเวลาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขายจากเวลา 24.00 น. ไปอีก 1 ชั่วโมงนั้น

     เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับจึงมีหนังสือมาเพื่อคัดค้านการประกาศที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กำลังพิจารณาอยู่ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

    1.การขยายเวลาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปอีก 1 ชั่วโมง มีผลเสมือนเป็นการขยายเวลาให้บริการของสถานบริการหรือร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยปริยาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ จากการเมาแล้วขับเพิ่มมากขึ้นกรณีดังกล่าวเทียบเคียงได้กับการขยายเวลาให้สถานบันเทิงเปิดได้ถึงเวลา 04.00 น. ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ 1 กรุงเทพฯ 2.เชียงใหม่

 3.สุราษฎร์ธานี 4.ชลบุรี  5.ภูเก็ต  ผลปรากฏอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเพิ่มขึ้นใน 5 พื้นที่ ดังกล่าวอย่างมีนัยยะสำคัญ

     2.มาตรการควบคุมคนเมาแล้วขับจากร้านนั่งดื่ม ปัจจุบันไม่มีมาตรการทางกฎหมายรองรับการปล่อยให้ผู้ขับขี่ที่มีแอลกอฮอล์

มาขับรถบนท้องถนนร่วมกับประชาชนที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นการสร้างปัญหาให้คนบริสุทธิ์ ที่ขับขี่รถบนท้องถนน เพราะคนที่เมาแล้วขับจะไปก่อเหตุทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องเสียชีวิต บาดเจ็บ สูญเสียโอกาสในชีวิต สูญเสียทรัพย์สิน 

โดยสถานประกอบการได้ผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ แต่ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น



     3.จะเป็นภาระกับบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ในสถานพยาบาลในการต้องดูแลรักษาคนที่ประสบอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ซึ่งปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์ก็มีภาระหนักอยู่แล้ว

     4.คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นิยามของคณะกรรมการชุดนี้ และเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ คือการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในกฎระเบียบ ไม่ละเมิดสิทธิ์ ความปลอดภัยของประชาชน คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จึงต้องยึดหลักการคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนเป็นหลัก แทนการเอื้อสนับสนุนส่งเสริมให้พิษภัยของแอลกอฮอล์ ทำร้ายประชาชน

ด้วยเหตุผลที่ระบุมาข้างต้น เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จึงขอส่งหนังสือเพื่อคัดค้านการพิจารณาออกประกาศดังกล่าว


     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น