วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567

สืบนครบาล รวบ บัญชีม้าขบวนการหลอกชักชวนเทรดหุ้นฮ่องกง แรกๆได้ผลตอบแทน แต่พอลงเงินเยอะขึ้นอ้างว่าต้องจ่ายค่ากองทุนและภาษี

 สืบนครบาล รวบ บัญชีม้าขบวนการหลอกชักชวนเทรดหุ้นฮ่องกง แรกๆได้ผลตอบแทน แต่พอลงเงินเยอะขึ้นอ้างว่าต้องจ่ายค่ากองทุนและภาษี



 ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์


.

         เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว



         นายเมธชัยเกียรติ อรุณรังษี อายุ 29 ปีที่อยู่เลขที่ 652/44 แขวงคลองกุ่ม เขต บึงกุ่ม กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1250/2567 ลงวันที่ 13 กันยายน 2567 

         ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอรลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยมิได้กระทำแก่ประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”

.

จับกุม ริมถนนสายท่าเสา-หนองดง ม.2 ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จว.พิจิตร 

.

จากการตรวจสอบยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย คือ หมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.157/2566 ลงวันที่  - มีนาคม 2567 ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ"

.


    พฤติการณ์ เมื่อประมาณวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ผู้กล่าวหาพบเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊กซึ่งเป็นสาธารณะชักชวนให้มาศึกษาและลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น ที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทชื่อ "Paiboon ห้องอบรมหุ้น068" ผู้กล่าวหาสนใจจึงได้เพิ่มเพื่อนและเข้าไปอ่านข้อมูลในห้องไลน์โอเพนแชทดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ตัดสินใจลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงเป็นคร้ังแรก ด้วยจํานวนเงิน 3,000 บาท โดยได้ทําการโอนเงินออนไลน์จากแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย ของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชี ชื่อบัญชี นายเมธชัยเกียรติ และในวันเดียวกันเวลา ผู้กล่าวหาได้รับเงินลงทุนพร้อมกําไรยอดจํานวน 3,245 บาท คืนเข้ามายังบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ด้วยเงินลงทุนก้อนแรกและผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งขั้นตอนการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว ทําให้ผู้กล่าวหา เชื่อมั่นและวางใจในการลงทุนที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทดังกล่าว จึงได้ลงเงินทุนเพิ่มขึ้นอีกคือยอด 15,000 บาท เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีชื่อนางสาวดวงนภา และครั้งสุดท้ายด้วยยอด 15,000 บาท เมื่อวันท่ี 25 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีออมสิน ชื่อนายทวีศักดิ์ ด้วยความหวังที่จะทํากําไรจากการเทรดหุ้นฮ่องกงกับกลุ่มไลน์โอเพนแชทนี้

.


แต่เมื่อการเทรดหุ้นจบลงในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ทําการถอนเงินพร้อมกําไรออกจากบัญชีในแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเทรดหุ้น ฮ่องกงมาสู่บัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา แต่เงินไม่เข้า ผู้กล่าวหาจึงถามไปยังผู้ประสานงานหรือฝ่ายบริการ และได้รับแจ้งว่าจะต้องจ่ายค่ากองทุนการกุศลและภาษีหุ้นฮ่องกงก่อนจึงจะสามารถถอนเงินออกจากพอร์ตการลงทุนได้ ผู้กล่าวหาได้ตอบกลับไปว่าผู้กล่าวหายินดีจะจ่ายภาษีหุ้นฮ่องกงอยู่แล้วโดยจะทําการเข้าระบบและโอนจากบัญชีเทรดไปยังบัญชีกองทุนและภาษี แต่ผู้ประสานงานบอกว่า ต้องจ่ายเข้าไปที่บัญชีทหารไทยธนชาต ชื่อนายอิทธิวัฒน์ ผู้กล่าวหา จึงเริ่มสงสัยในพฤติกรรมหรือขั้นตอนอันไม่ชอบมาพากลนี้ จึงเชื่อว่าตัวเองโดนหลอกให้ลงทุนออนไลน์ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนถึงที่สุด

.

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อกลางปี 2566 ตนเองได้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับเพื่อนใช้ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเพื่อนอ้างว่าไม่ผิดกฎหมาย จึงยินยอมไปเปิดบัญชีธนาคารให้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเนื่องจากเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทตน มาทราบอีกทีก็พบว่ามีหมายจับ จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

.

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนผู้ที่อยากลงทุนและประชาชน อย่าหลงเชื่อเพจปลอมหรือกลุ่มโซเชียลต่างๆ หลอกลวงให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน อ้างว่าได้ผลกำไรเยอะ แรกลงทุนจะได้รับเงินตอบ แต่เมื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะถอนเงินคืนไม่ได้ อ้างสารพัด สุดท้ายก็สูญเงิน ดังนั้น หากเพจ Facebook หรือ Line หรือ สื่อโซเชียลมีเดียใด ๆ ที่มีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ภาพผู้บริหาร และพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ชักชวนให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพสุดท้ายหากท่านตกเป็นเหยื่อ ให้รีบโทรแจ้งศูนย์AOC 1441 ทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น