วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

บุรีรัมย์ วงจรปิดชัดมาเป็นครอบครัวลูกเล็กเด็กแดงฉกลูกชิ้นยืนกินขึ้นมอไซค์เผ่น

 บุรีรัมย์ วงจรปิดชัดมาเป็นครอบครัวลูกเล็กเด็กแดงฉกลูกชิ้นยืนกินขึ้นมอไซค์เผ่น



อำเภอเมือง//วงจรปิดเห็นชัดเจนน่าสงสารหรือน่าลงโทษ มาทั้งครอบครัวขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงรถเข็น พ่อแม่ลูกรวม 6 คน แอบขโมยลูกชิ้นยืนกินที่เจ้าของร้านเอามาวางให้ลูกค้ามารับเองกลางคืน ชายคาดว่าหัวหน้าครอบครัวเดินมาหอบเอา 1 ถุงมูลค่า 300 บาท ขึ้นรถหนีไป เจ้าของร้านระบุบางมุมก็น่าสงสารแต่ทำไมกล้าทำวงจรปิดมีเต็มตลาด ตำรวจรู้ตัวทันทีรอผู้เสียหายแจ้งความ



วันที่ 25 พ.ค.67 เจ้าของโรงงานผลิตลูกชิ้นยืนกินนำคลิปวงจรปิดมาร้องสื่อ เป็นภาพรถจักรยานยนต์พวงท้ายรถเข็น มาด้วยกันทั้งหมด 6 คน มีเด็กอายุประมาณ 10 ปีนั่งอยู่ด้านหน้า มีชายอายุประมาณ 17 ปี เป็นคนขับรถ มีเด็กเล็กอายุประมาณ 5 ขวบซ้อนหลังโดยมีหญิงซึ่งคาดว่าเป็นแม่นั่งซ้อนท้ายปิด ส่วนรถเข็นที่พ่วงมามีหญิงวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปีนั่งด้วยกันกับชายอายุประมาณ 50 ปี รวมทั้งหมดนั่งมาในรถคันนี้ 6 คน



รถคันดังกล่าวได้ขับมาจอดฝั่งตรงข้ามร้านผลิตลูกชิ้นยืนกินชื่อบริษัท”เอสเค ลูกชิ้นหมูบุรีรัมย์ 2024 จำกัด” ภาพในกล้องวงจรปิดจะเห็นสินค้าใส่ถุงพลาสติกวางอยู่บนตู้แช่หน้าร้านจำนวน 2 ถุง



จากนั้นได้มีชายซึ่งคาดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า รูปร่างโปร่ง สูงประมาณ 170-175 ซม.ลงจากรถแล้วเดินมายกเอาลูกชิ้นไป 1 ถุง แล้วรีบวิ่งขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์ที่ติดเครื่องรอหนีออกไป



ตรวจสอบบริษัทลูกชิ้นดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในตลาดไนท์บาซาร์ เลขที่ 267/65-66 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยนางสาวณิชชาวีณ์ ฐิติไชยรังสี อายุ34 ปี  เจ้าของร้านเอสเคลูกชิ้นหมูบุรีรัมย์ เล่าว่า ลูกชิ้นจำนวน 2 ถุงดังกล่าว เอามาวางไว้ให้ลูกค้าที่จะเอาไปขายตอนกลางคืนมารับเอาเอง เพราะร้านปิดก่อน


ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น.ลูกค้าโทรมาว่าของที่สั่งได้ไม่ครบ แต่จำแม่นว่าเป็นคนเอาไปวางไว้บนตู้แช่ด้วยตนเอง จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูเห็นชัดเจนว่ามีคนขโมยเอาไปดังกล่าว 


น.ส.ณิชชาวีณ์ กล่าวด้วยว่าจริงแล้วมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปมูลค่าประมาณ 300 บาทเท่านั้น อีกทั้งมองดูภาพในกล้องวงจรปิดแล้วรู้สึกสลดใจ เพราะมากันเป็นครอบครัวมีทั้งลูกเล็กเด็กแดง แต่ไม่อยากให้ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก เพราะเท่ากับทำให้เด็กๆเห็นแล้วมองเป็นเรื่องปกติ 


ที่ผ่านมามีคนโดนขโมยของในลักษณะเดียวกันหลายครั้งแต่ไม่ค่อยมีคนไปแจ้งความ ทำให้ผู้ก่อเหตุเคยชินจึงกล้าเอาเยาวชนมาด้วย จึงตัดสินจะแจ้งความกับตำรวจไว้ในวันนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอยากและอยากให้เด็กรับรู้ถึงโทษของการกระทำผิดหากพ่อได้รับโทษ


ล่าสุด พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้สั่งให้ชุดสืบสวนแกะรอยผู้ก่อเหตุ จนรู้ที่อยู่ชัดเจนแล้ว รอให้เจ้าของร้านไปแจ้งความก็จะนำตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป///////////


ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง

ทีมข่าวภูมิภาคบุรีรัมย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น