วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567

ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดทีมลำเลียงสายเหนือ ยึดยาบ้า 10,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300,000,000 บาท

 ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดทีมลำเลียงสายเหนือ ยึดยาบ้า 10,000,000 เม็ด

มูลค่ากว่า 300,000,000 บาท




เวลา 10:00 น.วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2567 ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 และข้าราชการตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายการลักลอบขนยาเสพติด จากทีมลำเลียงสายเหนือ







     จากนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ






     ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ. 1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1,

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.๑/ศอ.ปส.ภ.1, บช.ปส. โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมเกียรติ

วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส.. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส.

และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ร้อง ผบช.ปส., ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., ขกท.ศปก.น.ส.ศ. โดย พ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./(ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลกระทรวงมหาดไทย, ภ.จว.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส..ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 3 และ

สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนาย

ในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด









     พฤติการณ์ในการจับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากสายข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาในพื้นที่ อ.วังน้อย จวพระนครศรีอยุธยา จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายายาเสพติดและทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายจรัสหรือคิว อายุ 47 ปี และ นายธีรนันท์หรือเค อายุ 45 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายจรัสหรือคิว และ นายธีรนันท์หรือเคๆ






     ต่อมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายจรัสหรือคิวฯ และนายธีรนันท์ฯ ผู้ต้องหา ใช้รถบรรทุก HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (บริเวณขาเข้า กทม.) ม.3 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้

1.) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50 กระสอบ รวมจำนวน 5,000 มัด ประมาณ 10,000,000 เม็ด

2.) รถบรรทุก HINO สี่ขาว จำนวน 1 ค้น (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)

3.) รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง)

โดยกล่าวหานายจรัสหรือคิวฯ และนายธีรนันท์ฯ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน





     โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณลานจอตรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (บริเวณขาเข้า กทม.) ม.3 ต.หันสัง

อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 19.15 น.

     จากการซักถามขยายผล นายจรัสหรือคิวฯ และนายธีรนันท์ ฯ รับว่าได้ร่วมกันขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจากจังหวัดพะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนายจรัสหรือคิว จะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 200,000 บาท และนายธีรนันท์ฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท และได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองแล้วพบว่า นายจรัสหรือคิวฯ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในฐานความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สภ.เวียงสา ภ.จว.น่าน





     การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด

ของกล้างหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือชายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำ

มาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้าไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น