พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 สั่งรวบโจรชั่ว วิ่งราวทรัพย์ชาวมาเลเซีย ทำเสื่อมเสียภาพพจน์การท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2567 ณ สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 เลขที่ 447 ถนน พลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ได้มี MISS NORALAI BINTI MOHD NOOR AZEMI สัญชาติมาเลเซีย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ A58384347 มาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วุฒิศักดิ์ นาครินทร์ พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ว่าเมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 เวลาประมาณ 23.45 น.ตนได้มาท่องเที่ยวที่ถนนเยาวราช จากนั้นได้เดินเท้าจากถนนเยาวราชไปตามถนนลำพูนไชย และมุ่งหน้าถนนพระราม 4 ครั้นเมื่อเดินเท้ามาถึงบริเวณแยกลำพูนไชย ตัดกับถนนพระราม 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ได้มีชายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีฟ้า มาก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท มูลค่าราว 100,000 บาท ที่ตนสวมใส่อยู่ไป จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางแยกหมอมี เป็นเหตุทำให้ได้รับความเสียหายและตกใจกลัว ดังนั้นตนจึงมาร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 จึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาถึงเหตุที่เกิดขึ้นตามลำดับ โดย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น. 6 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 สั่งการมายัง พ.ต.ท.สุทิน ยุ่นสมาน รอง ผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 2, พ.ต.ท.ธนกฤต วุฒิมโนจินดา สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2, ร.ต.อ.ณัฏฐ์พรรษ ประดับพงศ์ รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.ท.เฉลิมพล จันทร์สุข รอง สว.สส.ฯ พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ให้เร่งจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี เนื่องจากผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาท่องเที่ยว และยิ่งไปกว่านั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยวของเรา
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 จึงได้ทำการติดตาม สืบสวน จนกระทั่งรู้ตัวผู้ก่อเหตุ จึงได้ขออำนาจจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่ออนุมัติออกหมายจับตัว ผู้ก่อเหตุ
ต่อมา ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับที่ 80/2567 ลงวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2567 ในฐานกระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยปลอมแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” เพื่อจับกุมนายพรพนมหรือ ไมเคิ่ล (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน บริเวณซอยเลียบฯฝั่งใต้ 2/3 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร (ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนหาข่าวและได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่าผู้ก่อเหตุนายพรพนม หรือไมเคิ่ลฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ พักอาศัยอยู่ที่บริเวณ ซอยเพชรเกษม 77 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
และจากการสอบถามจากสายข่าว ยืนยันว่าพบเห็น นายพรพนม หรือไมเคิ่ลฯ พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวจริง ต่อมา เวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางเพื่อไปตรวจสอบ และเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา ครั้นเมื่อเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบตัวนายพรพนม หรือไมเคิ่ลฯ ซึ่งมี ตำหนิ รูปพรรณ ตรงตามที่สายลับแจ้ง ขณะกำลังอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมแสดงบัตรเจ้าพนักงานตำรวจให้ นายพรพนม หรือไมเคิ่ลฯ ดู จากนั้นได้แสดงหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 80/2567 ลงวันที่ 26 มกราคม 2567 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยปลอมแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมตำหนิ รูปพรรณ ผู้กระทำผิด ให้ นายพรพนม หรือไมเคิ่ลฯ ดูพร้อมกับอ่านให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว และยอมรับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ยังไม่เคยถูกจับกุมและดำเนินคดีในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใดจริง
จากการสอบถามผู้ต้องหา ได้ยอมรับว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง จากนั้น ผู้ต้องหาได้สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจยึดของกลางในการก่อเหตุ โดยมี
1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีน้ำเงิน ดำ หมายเลขทะเบียน 6ขห 2752 กรุงเทพมหานคร เลขตัวถัง MLHJA144P5291743 เลขเครื่อง JA14E-4791743 จำนวน 1 คัน (ตรวจยึดจากผู้ถูกจับขณะจอดอยู่หน้าบ้าน)
2.กุญแจรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 6ขห 2752 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 ดอก (ตรวจยึดจากภายในบ้านของผู้ถูกจับ)
3.เสื้อยืดคอกลม แขนสั้น สีขาว จำนวน 1 ตัว (ตรวจยึดจากผู้ต้องหาสวมใส่ขณะถูกจับกุม)
4.เสื้อคลุมแขนยาว ผ้าร่ม สีดำ จำนวน 1 ตัว (ตรวจยึดจากภายในบ้านของผู้ถูกจับ)
5.รองเท้าแตะ แบบสวม สีขาว ลายดำ ขาว น้ำเงิน ยี่ห้อ ADDA จำนวน 1 คู่ (ตรวจยึดจากภายในบ้านของผู้ถูกจับ)
โดยรายการที่ 1 ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดของกลางรายการที่ 2,3,4,5 ซึ่งเป็นชุดเสื้อผ้า รองเท้า ที่ผู้ถูกจับสวมใส่ไปก่อเหตุ โดยผู้ถูกจับกุมได้ซุกซ่อนของกลางดังกล่าวไว้ภายในบ้านที่อาศัยอยู่ตรงระแวก ซอยเพชรเกษม 77 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้คนร้ายที่ก่อเหตุ ส่ง สน.พลับพลาไชย 2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เผยว่า ในพื้นที่การดูแลของทาง สน.พลับพลาไชย 2 เป็นแหล่งเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจในการมาท่องเที่ยวในเมืองไทย ดังนั้นหากมีผู้ที่มาก่อเหตุหรือไม่ประสงค์ดีในพื้นที่ฯ ถือว่าบุคคลนั้นไม่รักประเทศชาติ เพราะว่านั่นคือการทำลายภาพพจน์ที่ดีของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผมเองก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายเช่นกัน
ขอขอบคุณ
พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2
คุณ พิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ รองประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สน.พลับพลาไชย 2 /ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น