วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หวิดสลด รับปิดเทอม พี่ชายวัย 13 ปีหอบพาน้องชายวัย5ขวบ หนีตายออกจากบ้านไฟไหม้

 หวิดสลด รับปิดเทอม พี่ชายวัย 13 ปีหอบพาน้องชายวัย5ขวบ หนีตายออกจากบ้านไฟไหม้  




เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ร.ต.อ.รุ่ง ปัญญา รอง สว.(สอบสวน) สภ.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชม วัดราษฎร์บรรทม ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต.บ่อโพง อบต.บ้านเกาะ ไปควบคุมเพลิง  




พบว่าภายในชุมชนเป็นลักษณะซอยแคบ รถดับเพลิงเข้าบริเวณที่เกิดเหตุด้วยความยากลำบาก เพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเลขที่ 100 / 20 ม.2 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะเป็นบ้านสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ เพลิงลุกไหม้บริเวณชั้นที่2ของบ้านซึ่งทำด้วยไม้ ที่เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมจีบน้ำเพื่อควบคุมเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงได้  ตรวจสอบพบว่าชั้นบนได้รับความเสียหายถูกเพลิงไหม้ทั้งหมดส่วนที่บริเวณชั้นล่างได้รับความเสียหายไปด้วย 



สอบถาม ด.ช.ทัศนัย  อายุ 13 ปี ที่อยู่ในอาการตกใจร้องไห้ตลอดเวลา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตนเองนอนหลับอยู่กับ ด.ช ธนวัฒน์ อายุ 5 ปี อยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงไฟฟ้าช็อตบริเวณชั้นที่สอง ของบ้าน จึงวิ่งขึ้นไปดูพบว่าไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณที่ตั้งของทีวี จึงได้รีบพาน้องชายหนีออกมาจากบ้านจากนั้นเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง  ภายในบ้านจะมี ภายในบ้านจะมีแมวและลูกแมวรวม 11 ตัว เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้แล้ว 3 ตัว ส่วนที่เหลือไม่รู้ว่าหายไปไหนบ้าง ต่อมา น.ส. วิชุตา น้อยผล  เจ้าของบ้าน เดินทางมาที่เกิดเหตุ ด้วยตกใจถามหาลูกชายทั้ง 2 คน เข้าไปสวมกอดด้วยความเป็นห่วง  



น.ส วิชุตา กล่าวว่าตนเองทำงานอยู่บริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุปกติจะไม่มีใครอยู่บ้านพอจะออกไปทำงานและลูกลูกจะไปเรียนหนังสือ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงให้ลูกทั้งสองคนอยู่ที่บ้านและคอยมาดูแลอยู่เป็นระยะระยะด้วยความเป็นห่วงก่อนเกิดเหตุเพิ่งจะออกไปทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงมีเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าที่บ้านเกิดไฟไหม้จึงรีบเดินทางกลับมาดูเป็นห่วงและตกใจมากกลัวว่าลูกทั้งสองคนจะเป็นอะไรยังไม่รู้ว่าอย่าไปพักที่ไหนในช่วงนี้เพราะบ้านเสียหายทั้งหลังทั้งหลัง 



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันสถานที่เกิดเหตุเอาไว้พร้อมประสานเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น