นนทบุรี เปิดใจเด็ก 17 ปี แก๊งปาระเบิดอ้างตามเพื่อนมาพี่ชายเดือดพาไหว้ขอโทษคู่กรณี
จากกรณีเมื่อเวลา 01.30 น .วันที่ 11 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าสามารถจับกุมตัววัยรุ่นได้หนึ่งคนหลังรวมตัวกันมากับพรรคพวก ขี่จยย.จำนวน 4 คัน จำนวน 9 คน เข้ามาปาระเบิด-ยิงปืน หน้าชุมชนปากด่านหมู่ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบผู้ก่อเหตุชื่อนายเอฟ อายุ 17 ปี (คนถอดเสื้อนั่ง) สภาพเบ้าตาข้างซ้ายบวมปูด โดยมีชาวบ้านหลายสิบคนทั้งหญิงและชายยืนล้อมเอาไว้ไม่ให้หลบหนี หลังนายเอฟพร้อมกับพรรคพวกบุกเข้ามาในชุมชนปากด่านแล้วปาระเบิด-ยิงปืน เสียงดังสนั่น โดยมีชาวบ้านในชุมชนวิ่งออกมาไล่กวดกลุ่มของนายเอฟ ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในวัดกลางเกร็ด 8 คน สามารถจับกุมตัวนายเอฟ ได้เพียงคนเดียว ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุขี่จยย.แยกย้ายกันหลบหนีไปได้ มีเพียงนายเอฟ ที่จอดรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อเปิดใต้เบาะพบแผ่นป้ายทะเบียน 4ขท-9265 กรุงเทพฯ ซุกซ่อนอยู่ ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 11 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นไปยังซอยภูมิเวท17 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายพัฒนชาติ พิมพ์สอน อายุ 38 ปี อาชีพ จยย.รับจ้าง ได้พาหลานชายชื่อนายโฟร์ค อายุ 17 ปี และนายแบงค์ อายุ 17 ปี ทั้งสองคนอยู่ในกลุ่มที่ก่อเหตุปาระเบิดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เดินทางเข้ามาขอโทษกับทางนายประธาน จิตรเที่ยง ซึ่งเป็นคู่กรณีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยนายโฟร์ค และนายแบงค์ได้คุกเข่ายกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายประธานก็ให้อภัยและรับไหว้คำขอโทษพร้อมสั่งสอนพร้อมตักเด็กทั้งสองว่าหย่าหลงผิดไปก่อเหตุแบบนี้อีก แต่จะดำเนินคดีกับคนยิงให้ถึงที่สุด นายโฟลค์ กล่าวว่า ตนขี่จยย.ออกมาพร้อมเพื่อนชื่อเอฟที่โดนจับได้เมื่อคืน และแบงค์ โดยนายเอฟเป็นคนชวนมาด้วยตนจึงติดรถมา ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครมีปัญหากับใคร โดยเอฟเพื่อนของตนถูกคนชื่อตี๋ซึ่งเป็นคนก่อเหตุยิงเมื่อคืนชวนออกมาก่อเหตุ หลังจากเกิดเหตุที่กลุ่มตนปาระเบิดและยิงปืนตนได้วิ่งหนีเข้าไปในวัดกลางเกร็ด โดยทิ้งรถจยย.ไว้ ในเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนไม่ได้เป็นคนปาระเบิด และไม่ได้เป็นคนยิงปืน ตอนนี้รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่มีคลิปกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.มา 7 คัน 16 คน ที่มาปาระเบิดก่อนหน้านี้ตนไม่ได้มาด้วย ตนพึ่งมาเมื่อคืนเป็นครั้งแรกได้ยินว่ากลุ่มเพื่อนตนเขาจะเข้ามาเล่นงานใครไม่รู้ ตนกับเพื่อนจึงต้องขอโทษพี่ที่ขับวินทุกคนที่โดนกระทำเพราะตนไม่ได้ตั้งใจ นายพัฒนชาติ กล่าวว่า วันนี้ตนพึ่งทราบเรื่องว่าเมื่อคืนน้องชายตนคือนายโฟร์คเข้าไปอยู่ในกลุ่มเหตุการณ์เมื่อคืน วันนี้จึงพามาเปิดใจคุยกับนายประธาน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับตน โดยให้ทางน้องตนและเพื่อนของน้องชายมาขอโทษ ตนไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ได้เข้าข้างน้องตัวเอง ซึ่งจากที่ตนถามข้อมูลทางน้องเล่าว่าตามเพื่อนมา เพื่อนชวนออกมาแต่น้องชายตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดๆทั้งสิ้น วันนี้ให้น้องชายเข้ามาขอโทษ เพราะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งเมื่อคืนรถจยย.สีขาวที่ถูกจับได้พร้อมน้องเอฟ เป็นรถของอาตน น้องชายตนเอาออกมาใช้ ซึ่งปกติแล้วน้องจะนอนอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อคืนออกไปเลยทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้น หลังจากนี้ตนจะไม่ให้น้องไปกับกลุ่มนี้และเลิกติดต่อกัน และตนจะเอาน้องชายย้ายไปอยู่กับตนและตนจะดูแลเอง ซึ่งตนกับเพื่อนที่ขับวินก็ได้คุยกันแล้ว และไม่อยากมีเรื่องบาดหมางกันอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น