วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566

หนังสือรับรองผลงานปมร้อนประมูลโรงน้ำมหาสวัสดิ์ 6.5 พันล้าน!

 Ooหนังสือรับรองผลงานปมร้อนประมูลโรงน้ำมหาสวัสดิ์ 6.5 พันล้าน!oO



เมื่อ“วงษ์สยาม” ใช้หนังสือรับรองผลงานที่ออกใหม่ จาก การประปาส่วนภูมิภาค ลง วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ก่อนวันยื่นข้อเสนอเพียงวันเดียว โดย ออกเพิ่มข้อความที่ไม่มีในสำเนาสัญญาและไม่มีปรากฏ ในแบบก่อสร้าง “เผื่อน้ำสูญเสีย 10%” หนังสือรับรองปมร้อนนี้  กปภ.ไม่เคยออกให้ผู้รับจ้างใดๆเลยทั้งประเทศ ยกเว้น “วงษ์สยาม” มิหนำซ้ำ ไม่เป็นไปตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด ด่วนสุด กค(กวจ) 0405.4/ว101 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 “ทั้งนี้ในการออกหนังสือรับรองผลงานก่อสร้าง หน่วยงานของรัฐย่อมต้องออกตามความเป็นจริงตามที่ปรากฏในสัญญาจ้าง”

เหตุผลกลใดเล่า ถึงมีการออกหนังสือรับรองเพิ่มข้อความที่ไม่มีในสัญญาได้ รายเดียวทั้ง การประปาส่วนภูมิภาค

 


*กปน. “ปาดหน้าเซ็น”สัญญา ITA ก่อนคำสั่งศาลปกครอง*******กำลังประเด็นสุดฮอต เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์”**กับเรื่องที่ “บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด” ผู้รับสัมปทานโครงการบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลัก ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มูลค่ากว่า 25,000 ล้าน ของกรมธนารักษ์ ที่ออกมา“ฟ้อนเงี้ยว” จากการที่ต้อง “ชวด”โครงการจ้างก่อสร้างและขยายกำลังการผลิตน้ำโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน มูลค่ากว่า 6,526 ล้านบาทของการประปานครหลวง (กปน.)*



 



โดยบริษัทอ้างว่าถูก กปน.เขี่ยตกเวทีอย่างไม่เป็นธรรม ทั้ง ๆที่ เสนอราคาต่ำกว่าคู่แข่งคือ ITA Consortium โดยบริษัทเสนอราคา 6,150 ล้านบาท ขณะที่ ITA Consortium เสนอ 6,390 ล้านบาท แต่กลับถูกคณะกรรมการประกวดราคา และ กปน.ตีตกอ้างว่าข้อเสนอของวงษ์สยามไม่ผ่านการพิจารณา และขัดคุณสมบัติด้านเทคนิค  

 


แม้บริษัทจะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ กรมบัญชีกลาง โดยยืนยันว่า ตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขในประกาศ TOR จนได้กลับมาขึ้นเวทีอีกหน แต่ กปน.และคณะกรรมการคัดเลือกก็ยังคงไม่ยอมพิจารณาข้อเสนอราคาของวงษ์สยามฯและไม่ยอมประกาศให้บริษัทเป็นผู้ชนะประมูลอยู่ดี

 

*ล่าสุด! มีกระแสข่าวว่าศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อ 24 มีนาคม 66 ให้ กปน.ชะลอการเซ็นสัญญาโครงการโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ดังกล่าวออกไปก่อน ตามคำรองขอคุ้มครองชั่วคราวของบริษัทวงษ์สยาม จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่ก็มีรายงานจาก การประปานครหลวงว่า ก่อนที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งระงับการลงนามในสัญญาลงมายังกปน.นั้น กปน.ได้ "ปาดหน้า" ดำเนินการลงนามในสัญญาโครงการจ้างเหมาก่อสร้างและขยายกำลังการผลิตน้ำ โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์กับกลุ่ม ITA Consortium ไปเรียบร้อยแล้ว  ทำเอาคำสั่งศาลปกครองที่มีมายัง กปน. “มาช้าไปไม่ทัน” ไปโดยปริยาย*

*ยันไม่ได้ทิ้งทวน แต่ประมูลลากยาวมา 2ปีแล้ว*

 

การที่ กปน.เร่งรัดลงนามในสัญญาโครงการนี้ในช่วงที่ "นายกฯ “บิ๊กตู่” ยุบสภาฯไปแล้ว ขณะที่ถนนทุกสายกำลังย่างเข้าสู่โหมดเลือกตั้งทั่วไป แถมยังปาดหน้าลงนามกันไปก่อนที่คำสั่งศาลปกครองจะเดินทางมาถึง จึงถูกมองว่าเป็น “มหกรรมทิ้งทวน” ก่อนเปลี่ยนผ่านอย่างช่วยไม่ได้

 

แต่เมื่อย้อนรอยไปพิจารณาเส้นทางการประมูลโครงการนี้ และรับฟังเหตุผลของ กปน.กับคณะกรรมการคัดเลือกที่ยืนยันในผลประกวดราคาและเหตุผลที่ต้องเขี่ยข้อเสนอของ "บริษัทวงสยามก่อสร้าง" พ้นวงโคจร ดังที่ นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ชี้แจงต่อสื่อล่าสุดว่า

 

แม้บริษัทวงษ์สยามก่อสร้างจะเสนอราคาต่ำกว่า แต่ กปน.และคณะกรรมการคัดเลือกจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอที่ยังประโยชน์ต่อหน่วยงาน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักมากกว่า “ของถูก” ตามนัยพรบจัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา65 โดยต้องคำนึงถึงเกณฑ์ราคา และพิจารณาเกณฑ์อื่นประกอบ  ตามมาตรา65(2) มาตรฐานของสินค้าหรือบริการและมาตร65(6) ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น “ ในกรณีที่กำหนดให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค และเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ.2560 มาตรา 55(2) วรรคสองตามหนังสือจากกรมบัญชีกลางตอบกลับ ด่วนสุดที่ กค (กวจ) 0405/31807 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่มีใจความสำคัญว่า “หาก กปน. จะดำเนินการพิจารณาผลการประกวดราคาฯใหม่ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ได้แจ้งผลให้ กปน.ทราบหลังจากที่ กปน.ได้ประกาศผลการประกวดราคา เมื่อ 7 มีนาคม 65 ไปแล้ว นั้น

จากการตรวจสอบผลประมูลในครั้งแรกที่ กปน.ได้ประกาศออกไปแล้วก่อนหน้านั้น นอกจากจะพบว่า บริษัทไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในประกาศและเอกสารประกวดราคาฯมาตั้งแต่แรกแล้ว ยังพบด้วยว่า เครื่องมือและอุปกรณ์ที่บริษัทเสนอที่ถือเป็น “สาระสำคัญ” ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดและคุณสมบัติเฉพาะตามประกาศ TOR กำหนดอีกด้วย!

ส่วนต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาในการประกวดราคานั้น เป็นผลมาจาก หนังสือรับรองผลงานเจ้าปัญหา ของ การประปาส่วนภูมิภาค ที่ตั้งใจออกให้ทำให้ความเข้าใจอาจสับสนได้ถ้าไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมประปา และ ไม่ได้ดูประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรื่อง กำลังการผลิตน้ำประปา  ตามประกาศประกวดราคาของผลงานก่อสร้างระบบตกตะกอน และระบบกรองน้ำสำหรับระบบผลิตน้ำประปาขนาดไม่น้อยกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่ง กปน. ยืนยันและนั่งยันว่า ต้องหมายถึง “กำลังการผลิตน้ำสุทธิ” ซึ่งเป็นไปตามหลักวิศวกรรมการประปา และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดทำโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)เท่านั้น

 

ซึ่งในช่วงที่กปน.เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผู้เข้าประมูลทุกรายต่างก็รับรู้นิยามความหมาย และจุด มุ่งหมายในข้อนี้ และไม่ได้มีเอกชนรายใดลุกขึ้นมาทักท้วงหรือตั้งข้อกังขาต่อนิยามผลงานโครงการที่ต้องนำมาแสดงประกอบการประมูลแต่อย่างใด รวมไปถึงบรรดาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องไม้ที่ต้องได้ตามมาตรฐานและข้อกำหนดว่าด้วยคุณสมบัติเฉพาะตามที่กำหนด

*ยันโปร่งใส -องค์กรต้านโกงร่วมสังเกตการณ์*

กับข้อกังขาและข้ออุทธรณ์ของบริษัทวงษ์สยามก่อสร้างที่มีมายังกปน.ก่อนหน้านั้น ผู้ว่ากปน.ยืนยันว่าเมื่อ 22 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา กปน.ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์กลับไปยังบริษัท โดยยืนยันผลการประกวดที่เคยประกาศไปครั้งแรก (7 มีนาคม 2565) ซึ่งหลังจาก กปน.ได้ตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติของบริษัทพบว่า หนังสือรับรองผลงานที่การประปาส่วนภูมิภาคออกให้ใหม่เมื่อ 14 ธันวาคม 64  มีข้อความเพิ่มเติมไม่ตรงกับสำเนาสัญญาและใบแจ้งปริมาณงานที่บริษัทแนบมาก่อนหน้า และเป็นประเด็นสาระสำคัญที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข TOR กำหนดคือ ขนาดกำลังผลิตน้ำไม่ถึง 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน (บริษัททำได้แค่ 96,000 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น)

 

แม้ต่อมา กปน.จะยอมรับหนังสือร้องอุทธรณ์ของบริษัทตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ กรมบัญชีกลาง แจ้งผลอุทธรณ์มายัง กปน. แต่เมื่อ กปน.ต้องดำเนินการพิจารณาผลประกวดราคาก็จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ประกอบด้วย โดยต้องพิจารณาผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขในประกาศและเอกสารประกวดราคาฯ ที่กปน.กำหนดเป็นหลัก  

 

_ยิ่งในส่วนของคุณสมบัติด้านเทคนิคของอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทนำเสนอที่อ้างว่าครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขข้อกำหนด ตามประกาศประกวดราคา TOR นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เป็นการโต้แย้งเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคาฯและเอกสารแนบท้าย ซึ่งเป็นรายการรายละเอียดด้านวิศกรรมที่กปน.เปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นไปก่อนหน้านี้ โดยที่บริษัทเองไม่ได้มีการวิจารณ์หรือโต้แย้งมาก่อน ดังนั้นบริษัทจึงใช้สิทธิ์อุทธรณ์ไม่ได้ และไม่มีเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ตั้งแต่ต้น (ตามนัยมาตรา 114 ประกอบมาตรา 116 วรรคสองแห่ง พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และเป็นไปตาม มาตรา115(4) ข้อ2 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ตามกฎกระทรวงกำหนด

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ว่า กปน.ออกโรงย้ำด้วยว่าที่ผ่านมาการดำเนินโครงการนี้ กปน.ได้จัดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ในการดำเนินงานทุกขั้นตอน โดยเข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)โดยกรมบัญชีกลาง และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้แต่งตั้ง "คณะผู้สังเกตการณ์อิสระ" เข้าร่วมสังเกตการณ์การดำเนินงานทุกขั้นตอน ซึ่งที่ผ่านมาคณะผู้สังเกตการณ์ฯ มิได้มีประเด็นข้อกังวลใจใด ๆ ในขั้นตอนการดำเนินการ อันสื่อให้เห็นถึงการดำเนินโครงการนี้ มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

 

ข้อกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ไม่ชัดเจน ก่อนจะมุบมิบ ๆ ดำเนินการแก้ไขและจัดประมูลแบบ "ม้วนเดียวจบ"ในเวลาไม่ถึง 3 เดือนด้วยซ้ำ

 

แม้โครงการดังกล่าวจะลงนามในสัญญาไปแล้วก็ตาม จึงอยากให้สังคมตั้งข้อกังขามีการออกหนังสือรับรองใหม่ได้อย่างไร และ เพิ่มข้อความที่ไม่มีในสำเนาสัญญา และ ไม่ตรงกับแบบก่อสร้าง ได้ด้วยหรือไม่ และ ทำไมไม่ทำตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางกำหนด จึงให้การประมูลนี้ยืดเยื้ออย่างผิดสังเกต หน่วยงานที่ควรออกมาตอบสังคมที่แท้จริง ควรจะเป็น “การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)” หรือไม่อย่างไร?  

 

 ​โครงการจ้างก่อสร้างและขยายกำลังผลิตน้ำ โรงงานน้ำมหาสวัสดิ์ของ กปน.ก็เช่นกัน เมื่อการประปานครหลวง(กปน.) ได้ดำเนินการเซ็นสัญญากับบริษัทเอกชนผู้ชนะประมูลไปแล้ว ก่อนที่คำสั่งศาลปกครองจะตกมาถึงกปน. ขั้นตอนหลังจากนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่ ฝ่ายบริหาร กปน.จะต้องมีหนังสือชี้แจงกลับไปศาลปกครอง ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่กปน.ต้องตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป  เพราะไม่อาจจะทอดยาว ปล่อยให้การประมูลยืดเยื้อจนส่งผลกระทบต่อศักยภาพและขีดความสามารถในการให้บริการน้ำ โดยเฉพาะในฝั่งกรุงเทพตะวันออก ที่กำลังขยายตัวอย่างมาก

 

 

*ส่วนกรณีของบริษัทวงษ์สยามก่อสร้างที่ต้องชวดโครงการนี้ไป และยังคงมีความพยายามดิ้นรนสุดเฮือกอยู่นั้นก็คงปล่อยให้กระบวนการไต่สวนของศาลว่ากันต่อไป ส่วนจะทอดยาวไปถึงไหนกว่าจะได้ข้อยุตินั้นดู ต้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงกันต่อไป......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น