โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง ( งามศิริวิทยาคาร ) เปิดเรียนวันแรก เข้มงวด รักษาระยะห่าง เน้นล้างมือ เพื่อความปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19 อย่างเต็ม 100%
เมื่อเวลาช่วงเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ณ.บริเวณลานกีฬาหน้าเสาธงของโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง ( งามศิริวิทยาคาร ) ท่าน ปราโมทย์ อินทรสุชาติ ผอ.โรงเรียนฯ ได้กล่าวทักทายนักเรียน เนื่องด้วยเป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 พร้อมทั้งให้ความรู้ และการแนะนำในการปฏิบัติตนในช่วงระหว่างที่อยู่ในโรงเรียนหรืออยู่ที่บ้าน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้มีการเว้นระยะห่าง ( Social distancing ) ระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1.50 เมตร หมั่นล้างมือด้วยน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งสวมหน้ากากอนามัย ใช้ช้อนรับประทานอาหาร ที่เป็นของตนเอง รวมถึงแก้วน้ำ ทั้งนี้ขอให้นักเรียนยึดถือหลักปฏิบัติตามนี้ เพื่อป้องกันการสุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องด้วยในช่วงเวลาที่ปิดภาคเรียนประจำปี 2562 นั้นได้เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หวู่ฮั่น หรือโคโรน่า หรือ โควิด-19 ซึ่งสร้างความโกลาหลและเดือดร้อนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจำนวนมากไปทุกประเทศทั่วโลก และประเทศไทยเราก็เช่นกันซึ่งได้รับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และส่งผลสร้างความเดือดร้อนได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วนไปอย่างกว้างขวาง รวมถึงสถานศึกษา จึงทำให้การเปิดภาคเรียนของการศึกษาประจำปี 2563 เลื่อนเวลาออกไป
และในวันนี้ทางท่าน ปราโมทย์ อินทรสุชาติ ผอ.โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง ( งามศิริวิทยาคาร ) และคณะคุณครู ฯได้มีการประชุมวางมาตรการ ในระหว่างช่วงปิดภาคเรียน โดยคำนึงถึงนักเรียนเปรียบเสมือนหนึ่งบุตรหลาน ดังนั้นในการเข้ามายังภายในโรงเรียน จะมีจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและฉีดเจลแอลกอฮอล์ยาล้างมือ ที่ประตูด้านหน้า และประตูด้านหลังโรงเรียน อีกทั้งมีการจัดทำอ่างล้างมือจำนวนมาก ตรงบริเวณรอบอาคารเรียน เพื่อให้นักเรียนล้างมือได้สะดวก รวมถึงคุณครูจะช่วยกันสอดส่องดูแลนักเรียนในขณะเวลาพักรับประทานอาหาร จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวด
หลังจากนั้น ทางโรงเรียนฯได้มีการจัดกิจกรรมการหล่อเทียนจำนำพรรษา เพื่อปลุกจิตสำนึกให้กับนักเรียน เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่สำคัญและดีงามทางพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นประเพณีที่มีการเรียนการสอนในบทเรียน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งความรู้ และได้บุญในเวลาเดียวกัน
# ประวัติที่มาของพิธีหล่อเทียนจำนำพรรษา
พิธีประเพณีหล่อเทียนเพื่อนำไปจำนำพรรษาที่วัดมีมาแต่ครั้งสมัยพุทธกาล โดยชาวพุทธได้ยึดถือและปฏิบัติต่อเนื่องกันมาโดยตลอดจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตพระภิกษุสงฆ์ที่จะต้องจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน ในช่วงฤดูฝนไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ และพระภิกษุสงฆ์จะต้องปฏิบัติศาสนกิจอยู่แต่ภายในวัด หรือแหล่งพุทธสถานที่พระภิกษุสงฆ์จะจำพรรษา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนเป็นฤดูเพาะปลูกข้าว รวมถึงมีแมลงนาๆชนิด ตามทุ่งนาจึงอาจจะไปเหยียบย่ำทำให้ข้าวที่เพาะปลูกรวมถึงแมลงนาๆชนิด ทำให้เกิดความเสียหายและอาจจะผิดศีลในข้อ " ปาณาติปาตา " ได้ ดังนั้นชาวพุทธศาสนิกชนจึงได้นำเทียนพรรษาซึ่งให้แสงสว่างแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อได้ใช้ประโยชน์ และปฏิบัติศาสนกิจ เสมือนหนึ่งได้ทะนุบำรุงศาสนาให้กับชาวพุทธศาสนิกชน อยู่สืบไป
ขอขอบคุณ
ท่าน ปราโมทย์ อินทรสุชาติ ผอ.โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง ( งามศิริวิทยาคาร )
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น