วันนี้11ก.ย.2562
ที่สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีเวลา 14:00 น นางสาวพัชร์สิตา
เจ้าของโรงงานธุรกิจสื่อการเรียนการการสอนเดินทางมาที่
สภ.บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีหลังจากได้รับหมายจับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่
ให้เธอมาพบและรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งที่เธอแจ้งความหาว่ามีคนบุกทวงถามหนี้ข่มขู่ทวงหนี้ที่โรงงานเมื่อวันที่
13
มิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนแต่ตำรวจไม่สามารถที่จะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
น้ำซ้ำผู้ที่บุกรุกกับแจ้งความดำเนินคดีกับเธอในข้อหาฉ้อโกง คดีไวปานจรวด วันนี้เธอจึงมาหาผู้กำกับ สภ.บางใหญ่ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงว่าเหตุใดคดีเธอถึงไม่มีความคืบหน้า
โดยจะแจ้งนัดหมายกับสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอีกทั้งให้สื่อมวลชนมาเป็นพยานในการมาที่สถานีตำรวจในครั้งนี้เพราะตนเองเชื่อว่าหากมาคนเดียวเพียงลำพังอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เพราะที่สถานีตำรวจบางใหญ่ มีเจ้าแม่หรือผู้จัดการ สภ.
ซึ่งระว่างที่เธอได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร้องขอความเป็นธรรมในฐานะประชาชนคนธรรมดา
ก็มีเมียกำนันคนเก่งที่เธอบอกว่าเป็นผู้จัดการได้เดินทางมาที่
สภ.บางใหญ่พร้อมกับหญิงสาวอีก 1 คนโดยเดินเข้าในห้องพนักงานสอบสวน
ตามที่เธอได้พูดกับสื่อมวลชนไม่มีผิดว่าที่นี่มีผู้จัด
สภ.ขนาดผู้กำกับยังสั่งลูกน้องตัวเองไม่ได้
เธอเคยขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งกับผู้กำกับไป 1
ครั้งแล้วผู้กำกับรับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าพนักงานสอบสวนพันตำรวจโทยศอัศวิน
ซึ่งเธอบอกว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวทำตัวไม่เป็นกลาง
มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน และออกหมายจับในวันถัดมา
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนรีบเร่งรัดคดีและทำงานไม่ถูกระเบียบขั้นตอนอาจจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ซึ่งพรุ่งนี้นางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือร้องถึงผบตร.
รวมทั้งที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่บางนาย
ในสภ.บางใหญ่
ด้านพลตำรวจโทหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ตอบว่าตนเองก็พยายามทำงานอย่างตรงไปตรงมาทั้งหากนางสาวพัชร์สิตาจะไปยื่นหนังสือถึงผบตร.
ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าตนทำตามกระบวนการของกฏหมายอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น