วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“รวบภัยสังคม หลอกซื้อดาวน์รถ เชิดรถหนีส่งขายตลาดมืด”




“รวบภัยสังคม หลอกซื้อดาวน์รถ เชิดรถหนีส่งขายตลาดมืด”

ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ ของบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้กำหนดมาตรการเชิงรุกเกี่ยวกับหมายจับค้างเก่า  โดยให้เพิ่มความเข้มในการสืบสวน  จับกุม             เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่มีหมายจับ  โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบ  กวดขัน  ปราบปราม เฝ้าระวังและดำเนินการจับกุม นั้น



สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ     รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 ,พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด            ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายซึ่งมีหมายจับ ดังนี้


ด้วยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 62   ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนมายัง กก.สส.บก.ตม.3 ว่า นายธนภัทรหรือเบียร์  รัตนลงเมือง ได้ก่อเหตุฉ้อโกง น่าจะเป็นบุคคลที่มีหมายจับ แต่กลับมีการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค ว่าเที่ยวอยู่ประเทศสิงคโปร์ อยากรู้ว่าเหตุใดจึงเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้โดยไม่ถูกจับกุมตัว   กก.สส.บก.ตม.3 จึงดำเนินการสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่า        นายธนภัทรหรือเบียร์ รัตนลงเมือง อายุ 23 ปี (ผู้ต้องหา) มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศจริง โดยเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 62 และเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย  เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 ผ่านทาง ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และตรวจสอบแล้วพบว่า นายธนภัทรฯ เป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีเฝ้าดูของ สตม.  แต่เมื่อตรวจสอบไปที่ สภ.ชุมพลบุรี ภ.จว.สุรินทร์ ปรากฏว่า คดีดังกล่าวนั้นเสร็จสิ้นและมีการถอนหมายจับเรียบร้อยแล้ว  ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ   จึงมิได้จับกุมตัว และทำการสืบสวนต่อจนพบว่า นายธนภัทรหรือเบียร์ รัตนลงเมือง ได้ก่อเหตุฉ้อโกงลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่  และบางพื้นที่มีหมายจับ จึงได้ประสาน กก.3. บก.สส.สตม ขอขึ้นบัญชีบุคคลเฝ้าดู นายธนภัทรฯ หากมีกรณีการหลบหนีออกไปต่างประเทศ เบื้องต้น มีผู้เสียหาย  40 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท โดยนายธนภัทรหรือเบียร์ฯ จะใช้วิธีการขอซื้อดาวน์รถจากผู้เสียหายซึ่งโพสต์ขายดาวน์ไว้ในเฟสบุ๊ค จากนั้นจะนัดเจอผู้เสียหายเพื่อขอดูรถและทำสัญญาซื้อดาวน์ เนื่องจากรถผู้เสียหายทุกคันยังติดไฟแนนซ์อยู่ และแจ้งกับผู้เสียหายว่าจะดำเนินการปิดยอดค้างชำระกับไฟแนนซ์ให้ โดยสร้างสลิปโอนเงินปลอมขึ้นมาให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการปิดยอดชำระกับไฟแนนซ์แล้ว หรือบางกรณีแจ้งกับผู้เสียหายว่าขอนำรถไปผ่อนต่อ หรือบางกรณีเมื่อผู้ต้องหาได้รถไปแล้วมีการนำไปผ่อนต่อจริง 1-2 งวด  เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ารถของตนยังอยู่กับผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาก็ไม่ดำเนินการผ่อนต่อ และจากทุกกรณีที่กล่าวมา เมื่อผู้เสียหายได้มอบรถให้กับผู้ต้องหาไปแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีกเลย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกฟ้องร้องจากบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และผู้เสียหายได้มีการออกรายการทีวี เนชั่นระวังภัยคลายทุกข์ เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกฉ้อโกงดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้ทำการสืบสวนและจับกุมตัว นายธนภัทรหรือเบียร์ รัตนลงเมือง ผู้ต้องหาได้ที่ จว.ชลบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดพิมาย ข้อหา ฉ้อโกง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พิมาย เพื่อดำเนินดคีตามกฎหมายต่อไป



สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย      หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด  กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507  ซ.สวนพลู  แขวงทุ่งมหาเมฆ  เขตสาทร  กรุงเทพมหานคร  10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th  จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น