โครงการกิจกรรมส่งเสริม อัตลักษณ์ ด้านการท้องเที่ยว ประเพณี และวัฒนธรรมไทย-รามัญ (ทุ่งนามอญ) อำเภอลาดหลุมแก้ว

โครงการกิจกรรมส่งเสริม อัตลักษณ์ ด้านการท้องเที่ยว ประเพณี
และวัฒนธรรมไทย-รามัญ (ทุ่งนามอญ) อำเภอลาดหลุมแก้ว
วันนี้ (31 พ.ค.62) เวลา 09.00 น. ที่ ทุ่งนามอญ
หมู่ที่ 1 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ดร. พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานพิธีเปิดโครงการบูรณาการท่องเที่ยว จังหวัดปทุมธานี กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยว ประเพณี และวัฒนธรรมไทย-รามัญ (ทุ่งนามอญ) อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี  นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี  นายธรา สุโพธิ์เงิน นายอำเภอลาดหลุมแก้ว และหัวหน้าส่วนราชการ

นางธัณย์จิรา องอาจอุดมรัตน์ (ป้าต้อย)
ประธานกลุ่มสตรีตำบลคูขวาง พร้อมคณะให้การต้อนรับ
 ประชาชน เข้าร่วมพิธี
จังหวัดปทุมธานีได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อยโยงกับอัตลักษณ์ในท้องถิ่น เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวและการตลาด ซึ่งจะส่งผลดีทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อำเภอลาดหลุมแก้วและพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกทางหนึ่งจะต้องพัฒนายกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานี โดยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพิ่มมากขึ้นและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ละวัฒนธรรมเพิ่มมากขึ้นและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตชนบทธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ที่สืบสานและ

ตกทอดมาถึงยุคปัจจุบันจึงได้จัดโครงการบูรณาการท่องเที่ยว จังหวัดปทุมธานี กิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยว ประเพณี และวัฒนธรรมไทย-รามัญ (ทุ่งนามอญ) อำเภอลาดหลุมแก้ว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ สืบสานประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นของอำเภอลาดหลุมแก้วไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน พัฒนาและขยายผลไปสู่การตลาด เพื่อประโยชน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและยังเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง สมานฉันท์ มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน
ทุ่งนามอญ ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ให้ประชาชนทั่วไปนักเรียนนักศึกษาได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิต

แบบโบราณและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเปิดให้เข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน
ติดต่อเข้าชมเป็นคณะล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 086-773-3856 (ป้าต้อย)
สญชัย คล้ายแก้ว

“บ.รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัดและ มูลนิธิพระราหู ร่วมสนับสนุน!!โครงการค่ายเยาวชน”คบเด็กสร้างชาติ” รุ่นที่ 2 (Day Camp # 2)

“บ.รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัดและ มูลนิธิพระราหู ร่วมสนับสนุน!!โครงการค่ายเยาวชน”คบเด็กสร้างชาติ” รุ่นที่ 2 (Day Camp # 2)

วันที่ 31 พ.ค.62 เวลา 09.00 น.ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ถนนวิภาวดีรังสิต คุณหทัยรัตน์ ผิวพรรณ รองประธานบริหาร บริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด และ ที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู เป็นตัวแทน ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษาบริษัทในเครือ จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด และประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการฯ ได้ให้เกียรติเข้าร่วมวางพวงมาลา สดุดีวีรชนไทยและร่วมพิธีเปิดการอบรมโครงการค่ายเยาวชน”คบเด็กสร้างชาติ”รุ่นที่ 2 (Day Camp # 2) จัดโดย มูลนิธิสหชาติ ได้ร่วมมือกับสถาบันวิชาการป้องกันประเทศและอนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยมีพ.อ.พีรพัฒน์ จันทร์งาม ผู้อำนวยการกองประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร กองบัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศให้เกียรติเป็นประธานพิธี ซึ่งมีพระชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิสหชาติ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครู อาจารย์ และน้องๆเยาวชนชั้นประถมปีที่ 6 ที่เข้าร่วมอบรมจากโรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก จำนวน 98 คน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ได้เข้าร่วมทำพิธีเปิดโครงการฯในครั้งนี้

สำหรับค่ายเยาวชน “คบเด็กสร้างชาติ” มูลนิธิสหชาติได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยได้รับการร่วมมือจากหน่วยงานหลายฝ่าย เช่น กองบัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ,พิพิธภัณฑ์ทหาร กองประวัติศาสตร์ กองทัพไทย,โรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก, วิทยากรจากโครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ครูอาจารย์ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมของเยาวชน ค่ายเยาวชน “คบเด็กสร้างชาติ” ซึ่งเน้นยํ้า อุดมการณ์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความมีวินัย การเสียสละ ยึดมันคําสอนทางศาสนา รักษาสิ่งแวดล้อม โดยเยาวชนจะได้ซึมซับจากการบรรยายของวิทยากร ทั้งทางทหารจากกองบัญชาการกองทัพไทย พระสงฆ์  ศิลปิน และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

ด้านคุณหทัยรัตน์ ผิวพรรณ รองประธาน บริหารบริษัท รักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จํากัด และ ที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู ผู้ให้การสนับสนุนการจัดค่ายอบรมครั้งนี้ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่เติบโตขึ้นมาเป็นกําลังหลักสําคัญของประเทศชาติ ด้วยความเป็นคน คุณภาพ มีระเบียบวินัย รักชาติรักแผ่นดิน เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และสรุปบทเรียนจาก เหตุการณ์สําคัญๆ และในอนาคตพร้อมยินดีที่จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมดีๆให้กับน้องๆเยาวชนครั้งต่อไป

ด้านพระชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิสหชาติ ผู้ริเริ่มการจัดค่ายอบรม เปิดเผยว่า อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เป็นที่อันควร ที่เยาวชนจะได้ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ของชาติ ให้สมกับที่กองทัพไทยสร้างด้วยงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท แต่คนไทยได้ใช้ประโยชน์เรียนรู้ความเสียสละของบรรพบุรุษน้อยมาก  จึงชักชวนเยาวชนในสถานศึกษามาเรียนรู้ในรูปแบบการเข้าค่ายเรียนรู้ครบจบภายใน1วัน สำหรับการอบรมโครงการค่ายเยาวชน”คบเด็กสร้างชาติ”รุ่นต่อๆไป ทางมูลนิธิสหชาติ ยังคงดำเนินการจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกหลานของเรา มีความรัก ความสามัคคี ต่อชาติแผ่นดินต่อไป พระชายกลาง ประธานมูลนิธิสหชาติกล่าวท้ายที่สุด!!

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. เดินทางมาแสดงความยินดีกับ ดร.นฤมล สุรเศรษฐ ประธานผู้บริหาร L.S.Jewelry เนื่องในวันคล้ายวันเกิด

วันที่ (30 พ.ค.62) เวลา 21.00 น.

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ​ ศรีวรขาน​ รองผบ.ตร.​

ได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับ ดร.นฤมล สุรเศรษฐ ประธานผู้บริหาร L.S.Jewelry เนื่องในวันคล้ายวันเกิด  

โดยมี ดร.พีรวัฒน์ สุรเศรษฐ  ประธาน​ กต.ตร.กทม.(ภาคประชาชน)​ / ประธาน กิตติมศักดิ์ อนุ กต.ตร.บก.น.1  และคุณ ธัชวิน สุรเศรษฐ ประธาน กต.ตร.บก.น.​1

 และ ประธาน กต.ตร.สน. ชนะสงคราม​ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับยาเสพติดรายใหญ่ เครือข่ายแฝดนรก ยึดยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด

พล.ต.ท.อำพล  บัวรับพร  ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับยาเสพติดรายใหญ่ เครือข่ายแฝดนรก ยึดยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด

วันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค.62  เวลา 13.00 น.  พล.ต.ท.อำพล  บัวรับพร  ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี , พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ท.ณปพงศ์ธร  วังตาล

 หน.ชป.กอง 12 ศรภ.บก.ทท. , นาย สงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงศ์ ผอ.ปปส.ภ.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.1 , ชปส.ภ.1 และ ภ.จว.สระบุรี พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้แก่ 1.นายขจรศักดิ์ หรือเต้ย เจ็นเชี่ยวชาญ อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 101/2 ม.1 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี 2.นายวีรยุทธ หรือแชมป์ เจริญผล อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 126/4 ม.4 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี 3.นางสาวกัลยาณี หรือกันต์ กาบศรี อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 791/51 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี 4.นางสาวธนิตา หรือออย พลพืชน์ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 1/9 ม.5 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ  จ.พระนครศรีอยุธยา

           
พร้อมของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 3,716,000 เม็ด (สามล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นหกพัน เม็ด)
2.โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง
3.รถยนต์จำนวน 1 คัน
           
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

สามารถจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 99/62 หมู่บ้านศิลปะการพาร์ค 1 ซอย บ้านกล้วย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง          จ.นนทบุรี  เมื่อวันที่ 28  พฤษภาคม  2562  เวลาประมาณ 19.30 น. และจากการขยายผลในเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมได้อีก 2 ราย ได้แก่ รายที่1.นายอนุวัฒน์ หรือ บอล อินตรา  อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 71/2 ม.9 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี และ นายพิมุข หรือ ใหม่ แสงทะตา อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 109/2 ม.9 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี

พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ประมาณ 264,800 เม็ด (สองแสนหกหมื่นสี่พันแปดร้อยเม็ด)  2.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) หนักประมาณ 0.84 กรัม  3.โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง  4.กล่องพลาสติคจำนวน 1 กล่อง 5.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 7 เล่ม  โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติด ให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ แจ้งเพิ่ม นายพิมุข อีกว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  โดยสามารถจับได้บริเวณบ้านเลขที่ 71/2 หมู่.9 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 06.00 น.

และ รายที่2.นายอำนาจหรือตุ้ม สีรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/1 หมู่ 1 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 200.000 เม็ด (สองแสนเม็ด) 2.อาวุธปืนรีวัลเวอร์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก 3.อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 4. เงินสด จำนวน 330,000 บาท (สามแสนสามหมื่นบาทถ้วน)(ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ)  โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยสามารถจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 5 หมู่11 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 06.15 น.

อนึ่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีคำสั่งให้ทำการสืบสวนติดตามเพื่อจับกุมและทำลายเครือข่ายยาเสพติดของแฝดนรก สระบุรี (มิ๊ก - แม็ก) ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายสำคัญของพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 คือ นาย ศุภชัย ธารีรักษ์ หรือ มิ๊ก ถูกลอบยิงเสียชีวิต และ นาย ชัยวุฒิ ธารีรักษ์ หรือ แม็ก มีหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี 5 หมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของ นายขจรศักดิ์ เจ็นเชี่ยวชาญ (เต้ย) และ นายวีรยุทธ เจริญผล  (แชมป์) ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดของแฝดนรก สระบุรี (มิ๊ก - แม็ก) มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1 และ พื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้รถยนต์ ยี่ห้อ Honda Civic สีขาว ทะเบียน กย 3397 สระบุรี เป็นยานพาหนะในการขนยาเสพติดส่งมอบให้ลูกค้าที่ได้นัดหมายกัน และ ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ได้ทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าวที่มี นายขจรศักดิ์ฯ เป็นผู้ขับขี่ , นายวีรยุทธฯ , นางสาวกัลยาณีฯ และ นางสาวธนิตาฯ  เป็นผู้โดยสารนั่งมากับรถ จากการตรวจค้นรถยนต์และที่ตัวบุคคล ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของทั้งสี่คน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางแอปพลิเคชั่น Line , การติดต่อทางโทรศัพท์ และ ภาพถ่าย  มีสิ่งบอกเหตุว่าทั้งสี่คนน่าจะมีเซฟเฮาส์สำหรับเก็บยาบ้าไว้เพื่อรอจำหน่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการซักถามปากคำอย่างเข้มข้นจนกระทั่งนายขจรศักดิ์ฯและนายวีรยุทธฯ ได้ยอมรับว่า มียาบ้าอีกจำนวนมากที่นำไปซุกซ่อนไว้ บ้านเลขที่ 99/62 หมู่บ้านศิลปะการพาร์ค 1 ซอย บ้านกล้วย-ไทรน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจค้นที่บ้านดังกล่าว พบของกลางยาบ้าจำนวนประมาณทั้งสิ้น 3.716,000 เม็ด (สามล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นหกพันเม็ด) จึงร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท๑ (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและจากการขยายผลในเครือข่ายยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมได้อีกดังกล่าว
             
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบในคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

*หมายเหตุ รวมยาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 3,980,800 เม็ด (สามล้านเก้าแสนแปดหมื่นแปดร้อย เม็ด)*

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน