วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

"ชายชาวต่างชาติผิวดำล่อล่วงลวงละเมิดทางเพศเด็กชายไทย"



“ชายชาวต่างชาติผิวดำล่อล่วงลวงละเมิดทางเพศเด็กชายไทย”
ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี
การล่วงละเมิดเด็กและเยาวชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดตั้ง ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิด
ทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Thailand Internet Crimes Against Children -
TICAC Task Force)  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศพดส.(4) และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3/หน.ชุดปฏิบัติการส่วนกลาง TICAC เพื่อเร่งดำเนินการสืบสวนแก้ไขปัญหาดังกล่าว



ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) เพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่แสวงหาผลประโยชน์แก่เด็ก โดยได้มอบพยานหลักฐานประกอบด้วยภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ชายต่างชาติผิวดำกับเด็กชายไทยคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะลามกอนาจารและมีการล่วงละเมิด
ทางเพศ หลังได้รับหนังสือดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ได้มีการตรวจสอบสืบหาพยานหลักฐานจนทราบว่า ผู้ต้องหาคือ นายกีสแลน  เสเบลอน อายุ 23 ปี สัญชาติเนเธอร์แลนด์ มีประวัติถูกจับกุม คดีล่วงละเมิดทางเพศในปี พ.ศ.2559
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ได้สืบหาบุคคลที่ปรากฏในภาพเคลื่อนไหวจนทราบชื่อ เด็กชายบาส(ขอสงวนชื่อจริง) ทราบข้อมูลว่าศึกษาอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังในกทม. ส่วนสถานที่เกิดเหตุ อยู่ใน ซ.ประชาอุทิศ 74/2 แขวง/เขต ทุ่งครุ ต่อเนื่อง บ้านเช่าซอยประชาอุทิศ 14 แขวง/เขต ราษฎร์บูรณะ กทม. ช่วงเวลาที่เกิดเหตุประมาณ พ.ศ.2559
ปลายเดือน ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ได้นำพยานหลักฐานเข้าพบผู้ปกครองของเด็กชายบาส เพื่อแจ้ง
รายละเอียดให้ทราบ ซึ่งผู้ปกครองยืนยันว่าคนที่ปรากฏในภาพเคลื่อนไหวกับชายชาวต่างชาติผิวสีเป็นเด็กชายบาสจริง จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์และมอบคดีต่อ พงส. ให้ดำเนินคดีกับนายกีสแลนฯ ต่อไป


เมื่อวันที่ 7 ก.พ.62 จนท.ตร. ชุดปฏิบัติการ TICAC จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายกีสแลนฯ โดยกล่าวหาว่า “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่สามีภริยาของตนฯ โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่ถึงสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และบังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด” ซึ่งมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม, มาตรา 279 วรรคแรก, มาตรา 317 วรรคท้าย, พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2556 มาตรา 26(9)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น