วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

“รวบแก๊งงัดเซฟชาวจีน ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในโรงงาน” 
          ตามนโยบายรัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นหลายรูปแบบ   มีการขยายตัวเป็นวงกว้างและมีผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง
         กล่าวคือ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค 7 ว่ามีเหตุคนต่างชาติ เชื้อชาติจีน เข้ามาก่อเหตุงัดเซฟภายในโรงงาน ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเหตุเกิดขึ้น ดังนี้
1.บริษัท เอสทีไอ พรีซิชั่น จำกัด เลขที่ 32/3 หมู่.7 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร วันที่ 18 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 02.00 น. - 03.50 น.ทรัพย์ที่ได้เงินสดสกุลไทย 500,000 บาท เงินสกุลเยน (ญี่ปุ่น) 3,000,000 เยน       ( 900,000 บาท )
2.บริษัทเจวีเจ เลขที่ 254 ม.3 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม งัดทรัพย์สินในตู้เซฟเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 00.01 เป็นต้นไป ทรัพย์ที่ได้ ทองรูปพรรณ หนักประมาณ 10 บาท
3.บริษัทแฟชั่นฟู้ด จำกัด เลขที่ 105/4 หมู่ 6 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยเหตุเกิด เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2561 เวลาประมาณ 00.30 น. - 05.00น. ซึ่งมีทรัพย์สินที่หายไป ได้แก่ เงินสดจำนวน ประมาณ 18,000 บาท และ ตู้เซฟได้รับความเสียหาย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ,พล.ต.ต.ธนา ชูวงษ์ รรท.ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช,พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด รรท.ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.บก.จร.บช.น. , พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธี รอง ผบก.อก.บช.ปส. ,พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.ประสพชัย มัสยะวนิชกูล รอง ผบก.สส.ภ.7พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีบ ผกก.สน.ห้วยขวาง ,พ.ต.อ.สมชาย เดชแพ ผกก.1 บก.สส.สตม. ,พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.สามพราน
ได้สั่งการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7     ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยหาข้อมูลและติดตามกลุ่มคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ จนนำไปสู่การจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายชาวจีนที่ก่อเหตุในพื้นที่ ภ.7 ดังนี้


    1.นาย HUANG HANQIN   อายุ 48 ปี สัญชาติ และเชื้อชาติ จีน PASSPORT:E51960633 (จับกุมตัวได้)
    2.นาย HUANG HAINING  อายุ 29 ปี สัญชาติ และเชื้อชาติจีน  PASSPORT:EE1178531  (จับกุมตัวได้)
    3. นาย WEI JINLIAN       อายุ 36 ปี สัญชาติ และเชื้อชาติจีน   PASSPORT:EC9787059 (หลบหนี/ออกหมายจับ)
    4. นาย HUANG JIDONG อายุ 36 ปี สัญชาติ และเชื้อชาติจีน   PASSPORT:EE2613585 (ควบคุมตัว)
            พร้อมด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น นูโว สีน้ำเงินแดง คันหมายเลขทะเบียน วขจ-885 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ ก่อเหตุ
          เบื้องต้น นาย HUANG HAINING  รับว่าก่อเหตุงัดเซฟในคดีทั้งสามท้องที่ข้างต้นจริง
จากการตรวจสอบ เส้นทางการเข้ามาในราชอาณาจักรของผู้ต้องหา
ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2561 ช่องทาง ด่านถาวร สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 เชียงราย จากนั้น วันที่ 8 ก.ย.2561 ได้ก่อเหตุงัดเซฟบริษัทแฟชั่นฟู้ด จำกัด เลขที่ 105/4 หมู่ 6 ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม , วันที่ 15 ก.ย. 2561 ได้ก่อเหตุงัดเซฟบริษัทเจวีเจ เลขที่ 254 ม.3 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม และวันที่ 18  ก.ย. 2561 ได้ก่อเหตุงัดเซฟบริษัท เอสทีไอ พรีซิชั่น จำกัด เลขที่ 32/3 หมู่.7 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ทางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 เวลาประมาณ 12.00 น. และเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2561 จนมาถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561
​และจากการประสานของชุดสืบสวน ยังทราบอีกว่า ที่ผ่านมามีเหตุคนจีนมณฑลกวางสี ได้ก่อเหตุลักษณะนี้  ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1,2,5,และ ภาค 6    ซึ่งทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) จะได้ประสานงาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น