ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว
วันนี้ (21 พ.ย.21) เวลาประมาณ 11.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร.,พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร.,พ.ต.อ.ลือชัย นนท์ปฏิมากุล ผกก.2 บก.จร และ พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.2 บก.จร. แถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบังคับการตำรวจจราจร, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย, บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) และบริษัททางยกระดับดอนเมือง(Tollway) ร่วมบูรณาการปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะ(บนทางด่วน) โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนบนทางพิเศษศรีรัช – อุดรรัถยา บริเวณ จุดพักรถ (Rest area) ปั้มน้ำมัน ปตท.หลังด่านเก็บเงินทางด่วนประชาชื่น มีการรวมกลุ่มและแข่งรถกันของรถยนต์หรูซุปเปอร์คาร์บริเวณนั้นเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านประชาชนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ามีเจ้าของเพจเฟสบุ๊ค ชื่อ “Life of car BKK” ได้โพสต์คลิปวีดีโอ(youtube)ในลักษณะชักชวน สนับสนุน หรือส่งเสริมให้ประชาชนออกมาแข่งรถบนทาง และท้ายคลิปวีดีโอดังกล่าวได้มีภาพการแข่งรถ มีผู้ให้สัญญาณปล่อยตัว จากจุดเริ่มต้นไปจนถึงเส้นชัย ซึ่งจากพยานหลักฐานทราบว่า แอดมินเจ้าของเพจดังกล่าวคือ นายจิรวัชร์ จิตติมานะสัจจะ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุน ส่งเสริม ให้มีการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร” จนนำมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเจ้าของเพจดังกล่าว นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป!!
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากรถที่แข่งประลองความเร็วในคลิปวีดีโอดังกล่าวจนทราบว่าคือ นายศุภชัย อำนวยชัยกิจกุล เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อซูบารุ ทะเบียน 4กว6020 กทม. กับนายนัฐพล เตชะอาภรณ์ชัย ผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ษก3928 กทม. ประลองความเร็วแข่งรถกันบนทางพิเศษอุดรรัถยา บริเวณด่านเชียงรากขาเข้า ซึ่งปรากฎในวีดีโอดังกล่าว ซึ่งมีความผิดฐาน “แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร” มีบทลงโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีพฤติกรรมแข่งรถโดยเฉพาะรถหรูซุปเปอร์คาร์ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะไม่ว่ารถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ซึ่งซุปเปอร์คาร์หรูสามารถทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชนเป็นอย่างมาก จึงรณรงค์ให้ประชาชนที่กำลังมีความคิดที่จะแข่งรถในทางฯ หรือออกมารวมกลุ่มมั่วสุมในพื้นที่ให้ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะโดยเด็ดขาดเพราะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีการทางพิเศษแห่งประเทศไทย บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) และบริษัททางยกระดับดอนเมือง(โทลล์เวย์) บูรณาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดบนทางด่วนโดยเฉพาะการแข่งรถบนทางด่วนเพื่อปราบปรามและดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย!!
********************************************************************
#ทีมงานกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.)!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น