วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2568

สภท. โต้ลมหนาว ที่หินเขาและดาวเดือน-ปากช่อง

 💥 สภท. โต้ลมหนาว ที่หินเขาและดาวเดือน-ปากช่อง



แดด ร่ม ลม ตก เย็นวันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2568 ต้อนรับปีมะเส็ง นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.60 ปี) พร้อมด้วยคณะกรรมการ ,ที่ปรึกษาและสมาชิก พบปะสังสรรค์เนื่องในโอกาสต้อนรับปีใหม่ 2568 ณ หินเขาและดาวเดือน-ปากช่อง โดยมี นายบุญเลิศ พุทธเจริญ อุปนายกภาคเหนือสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคประเทศไทย เจ้าของไร่มะขามหวาน "ชนิกา" บึงสามพัน​ จ.เพชรบูรณ์, นายธวัชชัย​ เฟื่องอนันต์ กรรมการ​ สภท., พร้อมด้วยที่ปรึกษา สภท.​ มีนายสุรพล​ ก้องเพชรศักดิ์, นายจิรพัฒน์​ บวรกุล, นายสมบัติ​ พูลเกษม และคุณสุจิตรา​ ​แก้วเงิน​ 2 ผู้บริหาร บจก.รักษาความปลอดภัย แซม​ กรุ๊ป, และยังได้รับเกียรติจาก นายเสกสรรค์​ ทองสวัสดิ์วงศ์ นายก​ อบต.ปากช่อง​ พร้อมด้วยหลานๆ และ​ สจ.ประสิทธิ์​ ภูวสวัสดิ์ อดีต​ สจ.อ.ปากช่อง​ ให้เกียรติมาร่วมสังสรรค์ โต้ลมหนาว ในค่ำคืนที่ผ่านมา





เช้าวันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.60ปี)​ พร้อมด้วยคณะกรรมการและที่ปรึกษา เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง โดยมี นายเสกสรร​ ทองสวัสดิ์วงศ์ นายก​ อบต.ปากช่อง พร้อมด้วย​ นายสุรเชษฐ์ กิจศิริกุล​ รองนายก​ อบต.ปากช่อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลในสังกัด​ มีเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.)​ ปฏิบัติหน้าที่การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 (10 วันอันตราย) ณ​ จุดบริการประชาชน อบต.ปากช่อง (มอเตาถ่าน) 





โดยนายกเสกสรรค์ ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งใน​พื้นที่ อบต.ปากช่อง​ มี 22 หมู่บ้าน​ ทุกหมู่บ้านจัดตั้งจุดป้อมปราบผู้ใช้รถใช้ถนน​ ที่ขับขี่ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ให้เล็งถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง อย่าประมาท​ "เมาไม่ขับ" ซึ่งผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ มีอุบัติเหตุ จยย. เพียง 4​-5 เหตุการณ์เท่านั้น เป็นเหตุการณ์เล็กๆ ถือว่าการปฏิบัติงานช่วง 10 วันอันตราย ของพื้นที่ อบต.ปากช่อง ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ต้องปรบมือให้กับนายกเสกสรรค์ ทองสวัสดิ์วงศ์ พร้อมด้วยผู้บริหาร อบต.ปากช่อง ทุกๆท่านที่ใส่ใจดูแลประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้





และเวลา​ 11.00 น.​ กราบขอพร องค์หลือซุ่นเอี้ยงโจวซือ, องค์จี้กงอั่วฮุก, องค์ฮ่อเอี้ยฮุ้งเซี่ยโจ้ว, กวนอิมพันมือ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุทยานวิหารเซียน-มูลนิธิสว่างดาวดึงส์ธรรม-ปากช่อง ของท่าน​ "อาจารย์วิชัย ชูชัยเจริญ" (ซินแสจู)​ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้แยกย้ายเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ...จบทริป ​สภท.โต้ลมหนาว ต้อนรับปีใหม่ 2568... นี้ด้วยความชื่นมื่น กับอากาศ 16 องศา...หนาวเย็นเป็นพิเศษ...ที่หินเขาและดาวเดือน-ปากช่อง🎉🎉🎉





#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

#หินเขาและดาวเดือน-ปากช่อง

เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผลกระทบจาก AI ในปี 68”

 เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผลกระทบจาก AI ในปี 68”



สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ผลกระทบจาก AI ในปี 68” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม - 31 ธันวาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุว่า ผลกระทบของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ AI ในปี 68 จะส่งผลดีต่อสังคมโดยภาพรวม (เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน) ร้อยละ 40.13 รองลงมา ระบุว่า จะส่งผลเสีย (ลดความมั่นคงของงานและเพิ่มความเหลื่อมล้ำ) ร้อยละ 35.25 และระบุว่า จะส่งผลทั้งดีและเสีย ร้อยละ 24.62 น้อยที่สุด โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในกระบวนการทำงานขององค์กร โดยระบุว่ามีความกังวลมาก (AI อาจแทนที่แรงงานมนุษย์) ร้อยละ 48.93 รองลงมาระบุว่า มีความกังวลปานกลาง (ต้องปรับตัวเพื่อร่วมงานกับ AI) ร้อยละ 37.81 และระบุว่าไม่กังวล (AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานของมนุษย์) ร้อยละ 13.97 น้อยที่สุด เมื่อพิจารณาถึงประเด็นใดเกี่ยวกับ AI ที่ควรให้ความสำคัญที่สุดในปี 68 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ร้อยละ 32.73 รองลงมาระบุว่า การพัฒนาทักษะของมนุษย์ให้ทำงานร่วมกับ AI ร้อยละ 29.61 โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทาง "Human-Centric AI" ที่เน้นให้ AI เป็นเครื่องมือสนับสนุนมนุษย์ ระบุว่า เห็นด้วยมาก (AI ควรช่วยเพิ่มศักยภาพของมนุษย์) ร้อยละ 52.33 รองลงมาระบุว่า เห็นด้วย (ควรนำ AI มาช่วยงาน แต่ยังต้องพึ่งมนุษย์) ร้อยละ 33.25 ไม่เห็นด้วย (AI ควรทำงานแทนมนุษย์ในบางด้าน) ร้อยละ 11.47 และระบุว่า ไม่แน่ใจ ร้อยละ 2.95 น้อยที่สุด


ดร.ธนเสฎฐ์ อัคคัญญ์ภูดิส

อาจารย์ประจำสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล

โทรศัพท์ มือถือ 089-474-9514


สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม โทรสาร02-878-5002

E-mail:siamtechno_poll@siamtechno.ac.th

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568

สืบนครบาลซ้อนแผนรวบตั้มสถาปนิก กรรโชกทรัพย์นักเรียน นักศึกษา กว่า 200 ราย อ้างให้โดยเสน่หา

   สืบนครบาลซ้อนแผนรวบตั้มสถาปนิก กรรโชกทรัพย์นักเรียน นักศึกษา กว่า 200 ราย อ้างให้โดยเสน่หา



         “โดนสักที” ตั้มสถาปนิก นักไถตังค์ แผนประทุษกรรมสุดเกรียน เน้นไถเด็กนักเรียน นักศึกษาทำทีพูดคุยอ้างรถล้มพึ่งออกโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์แต่โทรหาใครก็ไม่ติด ก่อนเชือดด้วยการกรรโชกทรัพย์หลักร้อยหลักพัน  โดยทำท่าทีมือล้วงกระเป๋า หวังให้เหยื่อกลัวว่าเป็นอาวุธ พบประวัติก่อเหตุมา “นับครั้งไม่ถ้วน..ทั่วประเทศไทย” แม้บนรถไฟก็ยังไถ ล่าสุด..ไถตังค์เด็กนักเรียน  800 บาท แถวบริเวณกองกำกับการสืบนครบาล  เจอชุดสืบบุกล่าเกรียนก่อนรวบริมถนนย่านจตุจักร อ้างไม่ได้กรรโชก แต่เป็นการขอเงิน



             เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 20.40 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว



          นายธรรมศักดิ์ หรือ “ตั้มสถาปนิก”อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1741/2567 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 67 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์”

2.หมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ จ.309/2565 ลงวันที่ 7 ต.ค. 65 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ของผู้อื่น”

พบประวัติก่อเหตุมานับไม่ถ้วน ซึ่งสำรวจพบดังนี้  


1.วันที่ 2 ก.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกงทรัพย์” นักเรียน โดยคนร้ายทำทีมาขอยืมโทรศัพท์จากนักศึกษาหญิง อ้างว่าแฟนสาวพาลูกขับรถหนีไป แต่เมื่อนักศึกษาให้ยืมโทรศัพท์ อ้างไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นอ้างต่อว่ารถน้ำมันหมดได้เงินจากนักศึกษาไปจำนวน 400 บาท เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์

2.วันที่ 3 พ.ย. 65 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าเกือบถูกคนร้ายรายนี้หลอกเอาเงิน โดยคนร้ายมาทำทีขอยืมโทรศัพท์โทรหาญาติที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ ก่อนจะไถเงินค่ารถไฟกลับบ้านจำนวน 300 บาท เหตุเกิดที่ รพ.ชื่อดัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

3.วันที่ 9 เม.ย. 66 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยคนร้ายได้แฝงตัวเข้าไปในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาหญิง แล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ เหตุเกิดพื้นที่ รพ.ชื่อดัง ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

4.วันที่ 29 ธ.ค. 66 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาหญิง โดยอ้างว่าเป็นสถาปนิก จากนั้นได้เปิดผ้าพันแผลอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้ม ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่

5.วันที่ 22 พ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าคนร้ายตระเวนก่อเหตุอยู่ละแวกบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ

6.วันที่ 24 ก.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์ชาวบ้าน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าคนร้ายทำทีเข้ามาถามทางไป บขส. โดยอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล  เหตุเกิดที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

7.วันที่ 29 ก.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์ชาวบ้านโดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าได้เจอคนร้ายรายนี้มาไถเงิน เหตุเกิดใน จ.สุราษฎร์ธานี

8.วันที่ 6 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าถูกคนร้ายก่อเหตุที่ โลตัส อ่อนนุช จ.กรุงเทพฯ 

9.วันที่ 7 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักศึกษา ระหว่างที่ผู้เสียหายเดินอยู่บริเวรร้านเกมส์คนร้ายได้เข้ามาทำทีน่าสงสาร ก่อนหลอกลวงว่าตนเองเป็นสถาปนิก ช่วยออกแบบสตาร์บัค บ้านอยู่บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติแล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับ ได้เงินจากผู้เสียหายไป 10,000บาท เหตุเกิดที่ อ.เมือง ลพบุรี

10.วันที่ 16 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าได้เจอคนร้ายที่ละแวก ม.รังสิต ทำทีเข้ามาขอความช่วยเหลือ อ้างว่าตนเองเป็นสถาปนิก ช่วยออกแบบสตาร์บัค บ้านอยู่บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติแล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับ ได้เงินจากผู้เสียหายไป 200 บาท เหตุเกิดที่ ม.รังสิต จ.ปทุมธานี

11.วันที่ 29 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายปั่นจักรยานกลับบ้านหลังเล่นบาส ผู้ต้องหาได้เข้ามาทำท่าทีน่าสงสาร และเข้ามาขอเงินเพื่อจะเดินทางกลับบ้าน เพราะรักษาพยาบาลหมดไม่เหลือเงิน ด้วยท่าทางน่ากลัว แล้วคิดว่าไม่ปลอดภัย จึงได้ให้เงินไปจำนวน 2,500 บาท เพื่อจะได้ไม่เกิดอันตราย เหตุเกิดที่ จ.เพชรบุรี

12.วันที่ 23 ธ.ค. 67 เวลา 08.00 น. ก่อเหตุ “กรรโชกทรัพย์” ไถตังนักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบังจ.กรุงเทพฯ จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปหานักเรียนชายอายุ 16 ปี ทำทีชวนคุยก่อน “ขอเงินกลับบ้าน” โดยคนร้ายใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายตลอดเวลาทำให้นักเรียนกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ จึงยอมมอบเงินให้กับคนร้ายจำนวน 1,000 บาท เหตุเกิดพื้นที่ สน.จรเข้น้อย

13.วันที่ 23 ธ.ค. 67 เวลา 20.30 น. ก่อเหตุ “กรรโชกทรัพย์” ไถตังนักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปหานักศึกษาชาย ทำทีชวนคุยก่อน “ขอเงินไป บขส.” โดยคนร้ายใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายตลอดเวลาทำให้นักเรียนกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ จึงยอมมอบเงินให้กับคนร้าย เหตุเกิดพื้นที่ สน.จรเข้น้อย

14.วันที่ 26 ธ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยขณะที่กำลังนั่งรถไฟ ได้เข้าไปพูดคุยกับนักเรียนชาย จากนั้นได้ทำทีขอโทรศัพท์ ติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับทำให้ได้เงินจากนักเรียนชายไปจำนวน 200 บาท เหตุเกิดระหว่างเดินทางบนรถไฟ

15.วันที่ 29 ธ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถเงินครูสาว โดยระหว่างที่ผู้เสียหายลงจากรถไฟ คนร้ายได้เข้ามาพูดคุยทำทีน่าสงสาร อ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้ม ไม่สามารถติดต่อญาติได้ ผู้เสียหายเป็นคนใจบุญจึงให้เงินไป 1,000 บาท แต่ผู้เสียหายขอเพิ่มเป็น 2,000 บาท เหตุเกิดที่ สถานีรถไฟ จ.ปราจีนบุรี

16.วันที่ 2 ม.ค. 67 (วันนี้ที่จับกุม) ก่อเหตุ ไถเงินนักเรียน ขณะที่ผู้เสียหายจอดรถติดไฟแดงบริเวณถนนพญาไท ใกล้ๆกับสืบนครบาล คนร้ายได้เดินมาทำทีน่าสงสารชวนพูดคุย อ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มพึ่งออกจากโรงพยาบาล ติดต่อญาติที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ได้ ขอยืมโทรศัพท์ผู้เสียหายติดต่อญาติแต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับจากผู้เสียหายไปจำนวน 800 บาท เหตุเกิดท้องที่ สน.พญาไท

จับกุมตัวได้ที่ ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ




            พฤติการณ์กล่าวคือ “ใครเคยโดนโปรดแจ้ง” ตั้มสถาปนิก โคตรเกรียน “นักไถตัง” ที่ตระเวนก่อเหตุมานับไม่ถ้วนทั่วไทย แผนประทุษกรรม จะเน้นพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเยาวชนโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา ก่อนเข้าไปพูดคุยทำทีว่าตนเองเป็นสถาปนิก ออกแบบร้านกาแฟชื่อดังประสบอุบัติเหตุรถล้มพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเหยื่อให้ยืมโทรศัพท์คนร้ายจะทำทีโทรศัพท์แต่ก็ติดต่อใครไม่ได้ จากนั้นจะทำทีให้แอดไลน์ ให้ดูบัตรประชาชน ยืนยันว่าตนไม่ใช่ขอทาน ไม่ใช่คนบ้า ก่อนจะเชือดด้วยการ “ขอเงินกึ่งบังคับ” จากเหยื่อ โดยจะขอในจำนวนไม่มาก หลักร้อยถึงพันบาท จนเหยื่อหลายคนให้เงิน โดยล่าสุดไปแฝงตัวเข้าไปตระเวนก่อเหตุในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบัง มีการพัฒนารูปแบบการเชือดด้วยการทำทีนำมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าตลอดเวลา เพื่อให้เหยื่อกลัวว่าเป็นอาวุธ จนมีเหยื่อนักเรียนโดนกันไปติดๆ 3 ราย ในวันเดียวกัน จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.จรเข้น้อย ได้แจ้งเบาะแสมาที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทำการตรวจสอบก็ต้องพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยพบข้อมูลจากเหยื่อว่าคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้มาตั้งแต่ห้วงปี 2565 ถึงปัจจุบัน และพบข้อมูลในโลกโซเชียลก็พบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยมูลค่าความเสียหายไม่มากส่วนใหญ่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ ชุดสืบนครบาล และ สน.จรเข้น้อย ร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งได้ออกหมายจับคนร้ายรายนี้คือ นายธรรมศักดิ์ ยุคตะวัน หรือตั้มหนุ่มวัย 39 ชาวบุรีรัมย์ แต่การติดตามจับกุมนั้นไม่ง่ายเพราะคนร้ายตระเวน “ร่อนเร่” เดินสายไถตังไปทั่วไทย มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง งมเข็มในห้วงปีใหม่อยู่หลายวัน กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสจากเด็กนักเรียนรายหนึ่งซึ่งถูกคนร้ายไถเงินไป 200 บาท ขณะที่นั่งรถไฟเดินทางไปในพื้นที่ภาคตะวันออก พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะแกะรอยเท้าคนร้ายอยู่ 5 วัน พบคนร้ายกลับเข้ามาในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ และหายไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง ชุดสืบสวนแฝงตัวเป็นนักศึกษาตระเวนหาคนร้าย ล่าสุดสืบทราบว่าคนร้ายมาเยือนถึงถิ่นสืบนครบาล มาไถเงินเหยื่ออีก 1 ราย บริเวณถนนหน้า บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวนติดตามไปพบชายต้องสงสัยนอนอยู่ริมข้างทางใกล้กับสวนจตุจักร แต่ด้วยสภาพคนร้ายไม่เหมือนในภาพที่ชุดสืบสวนมีข้อมูล ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบด้วยกรรมวิธีซ้อนแผนสุดเกรียนโดยผู้กองฟิลม์และหมวดป็อป ปลอมตัวเป็นนักศึกษาเมื่อหันหน้ามาจึงมั่นใจว่าเป็นคนร้ายตะครุบรวบตัวได้ในที่สุด ซึ่งจากการขยายผลพบว่ามีการก่อเหตุลักษณะนี้มาเป็นจำนวนมาก วิเคราะห์ว่าทำเป็นประจำทุกวัน เชื่อว่าตลอด 2-ปี ที่คนร้ายก่อเหตุมากโดยคนร้ายจะนำเงินที่ได้มาไปเล่นการพนันออนไลน์




          ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้กรรโชก แต่เป็นการขอเงิน ตนเองทำเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2565 เพราะว่าตนเองหางานทำไม่ได้ จึงทำเช่นนี้มาเรื่อยๆ และเมื่อประมาณปี 2566 ตนเองร่อนเร่ไปก่อเหตุที่ จ.เชียงใหม่ จนหวิดเกือบถูกรุมประชาทัน แต่รอดมาได้เพราะยอมคืนเงินให้กับผู้เสียหาย ล่าสุดวันนี้ได้มาก่อเหตุที่ถนนพญาไทได้เงินมา 800 บาท แต่นำไปเล่นพนันออนไลน์หมดแล้วจนเหลือเงินติดตัวเพียง 50 บาท โดยที่ชอบให้เหยื่อโอนเงินเข้าทรูมันนี่เพราะจะนำไปเล่นพนันออนไลน์”



         พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเราได้ข้อมูลจากผู้เสียหายมาแล้วหลายราย ซึ่งขัดแย้งกับที่คนร้ายอ้าง และคดีนี้นับได้ว่าผู้ต้องหาเป็นภัยต่อสังคมอย่างแท้จริง เพราะมีพฤติกรรมเร่ร่อนไปทั่วประเทศก่อเหตุทุกวันที่น่ากลัวคือคนร้ายจะมุ่งเน้นเฉพาะเหยื่อที่เป็นเด็กนักเรียน-นักศึกษา เชื่อว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมากกว่า 200 รายที่ตกเป็นเหยื่อให้กับมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีอีกมากที่ปล่อยผ่านไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะมูลค่าทรัพย์สินไม่มาก ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ผมขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้ กรรโชกทรัพย์ หรือหลอกเอาทรัพย์สิน ด้วยวิธีการใดๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.”

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย ดำเนินคดีต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2568

สน.พลับพลาไชย2 รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรทางบก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568

 สน.พลับพลาไชย2 รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรทางบก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568



2 ม.ค.68 เวลา 14.00 น.

ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ

ผบก.น.6 ,พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง 

รอง ผบก.น.6 มอบหมายให้

พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 

,พ.ต.ท.มั่นวัตร์ เจริญชัยสมบัติ รองผกก.ป.สน.พลับพลาไชย 2,

พ.ต.ต.นิรุต มณีพันธ์ สวป.(ชส.)สน.พลับพลาไชย 2,

พ.ต.ต.วัชรินทร์ วิแสง สว.จร.สน.พลับพลาไชย 2

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่จิตอาสาฯ

ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาจราจร รณรงค์การขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรทางบก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมอบหมวกนิรภัยที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับพี่น้องประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวน 9 ใบ ณ จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร บริเวณแยกหมอมี  และเชิญชวนร่วมเป็นเครือข่ายจิตอาสาจราจร และร่วมรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย (ขยายต่อ) ในครอบครัว ชุมชน โรงเรียน

มอบหมวกนิรภัยให้แก่ประชาขนที่ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ประชาสัมพันธ์วิธีการสวมหมวกนิรภัยที่ถูกต้อง และใช้มาตรการว่ากล่าวตักเตือนจากการกระทำความผิดครั้งแรก 9 ราย










ประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ความปลอดภัยทางถนน เมาไม่ขับ รักษาวินัยจราจร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 


 ณ บริเวณแยกหมอมี แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

"บิ๊กทิน"สุทิน บัวตูม ผจก.ฟุตซอลไทยชุดฟุตซอลโลก ฟันธง ไทย บุกเฮ เวียดนาม 2-1 เชื่อมั่นในจิตวิญญาณนักเตะทีมชาติไทยที่พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งชาติในนัดชิงชนะเลิศ เกมแรก ศึกอาเซี่ยนคัพ2024 ที่ประเทศเวียดนาม

 "บิ๊กทิน"สุทิน บัวตูม ผจก.ฟุตซอลไทยชุดฟุตซอลโลก ฟันธง ไทย บุกเฮ เวียดนาม 2-1 เชื่อมั่นในจิตวิญญาณนักเตะทีมชาติไทยที่พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งชาติในนัดชิงชนะเลิศ เกมแรก ศึกอาเซี่ยนคัพ2024 ที่ประเทศเวียดนาม 



"บิ๊กทิน"สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุดฟุตซอลโลก 2 สมัย ปี 2021ที่ลิทัวเนีย และปี2024ที่อุซเบกิสถาน เปิดเผยถึงความเห็นส่วนตัวในฐานะที่เป็นแฟนฟุตบอลไทยคนหนึ่ง กล่าวเชียร์ทีมชาติไทยที่จะลงเล่นนัดแรกในรอบชิงชนะเลิศ อาเซี่ยนคัพ2024 ในการไปเยือน เวียดนาม ที่จะแข่งขันในเวลา 20.00 น. วันนี้ โดย บิ๊กทิน เชื่อว่า ทีมชาติไทยถึงตอนนี้สามารถรวมพลังใจเป็นหนึ่งและทุกคนสู้ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย เชื่อว่าด้วยสปิริตอันแรงกล้าที่ทุกคนพร้อมสู้เพื่อประเทศไทยจะช่วยให้ทีมลูกหนังช้างศึกบุกไปเก็บชัยเหนือเวียดนามด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนที่จะกลับมาเล่นนัดที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค.68 จึงอยากเชิญแฟนฟุตบอลไทยทั่วประเทศร่วมเป็นกำลังใจเชียร์ในเกมสำคัญ 2 นัดต่อจากนี้ 


ทั้งนี้ "บิ๊กทิน"สุทิน บัวตูม ยังได้ฝากสวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2568 กับแฟนฟุตบอลไทยทั่วประเทศมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองและมิตรภาพ พร้อมกับเดินทางอย่างปลอดภัยทุกท่าน 

“คนโสดปี 68 อะไรจะเปลี่ยนใจให้แต่งงาน”

 “คนโสดปี 68 อะไรจะเปลี่ยนใจให้แต่งงาน”


สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนโสด เรื่อง “คนโสดปี 68 อะไรจะเปลี่ยนใจให้แต่งงาน” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10 - 25 ธันวาคม 2567 จากประชาชนโสดที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุว่า ในปี 68 ไม่อยากแต่งงาน ร้อยละ 42.18 รองลงมาคือ อยากแต่งงาน ร้อยละ 37.07 และยังไม่แน่ใจ ร้อยละ 20.75 น้อยที่สุด โดยปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ตัดสินใจแต่งงานในปี 68 ของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือ พบคนที่ใช่และมั่นใจว่าเป็นคู่ชีวิต ร้อยละ 30.15 รองลงมาคือ มีความมั่นคงทางการเงิน ร้อยละ 24.81 เมื่อพิจารณาถึงคนที่จะแต่งงานด้วย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และจริงใจ ร้อยละ 32.33 รองลมาคือ ความมั่นคงทางการงานและการเงิน ร้อยละ 26.18 โดยหากตัดสินใจแต่งงานในปี 68 เรื่องที่ต้องมีความพร้อมมากที่สุด กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุว่า ต้องมีเงินมากพอที่จะใช้จัดงานแต่งงงาน ร้อยละ 41.65 รองลงมาคือ ความพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่ ร้อยละ 30.53 ภาระความรับผิดชอบที่น้อยลง ร้อยละ 18.05 และภาวะเศรษฐกิจของประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ร้อยละ 9.77 น้อยที่สุด



ดร.ธนเสฎฐ์ อัคคัญญ์ภูดิส

อาจารย์ประจำสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล

โทรศัพท์ มือถือ 089-474-9514


สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม โทรสาร02-878-5002

E-mail:siamtechno_poll@siamtechno.ac.th

 




วันนี้ (2 ม.ค.68) เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์  ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วยรองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ประกอบด้วย พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ และ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ได้นำข้าราชการตำรวจในสังกัดจำนวน 40 นาย และประชาชนจิตอาสา ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาตามแนวทางการปฏิบัติงานจิตอาสาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ขึ้น โดยเป็นกิจกรรมการประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ความปลอดภัยทางถนน เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน  ณ บริเวณแลมป์ชั้น 2 ฝั่งประตูทิศใต้ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550  โดยการดำเนินกิจกรรมมีการประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จิตอาสาชูป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ แจกเครื่องดื่มรวมทั้งแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์การรายงานตัว 90 วัน และการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว.










เปิดกล้อง นาทีตำรวจไล่ระทึกเกาหลี ชิงรถหลบหนี จนพลิกคว่ำ

 เปิดกล้อง นาทีตำรวจไล่ระทึกเกาหลี ชิงรถหลบหนี จนพลิกคว่ำ



    จากกรณี ตำรวจทางหลวงไล่จับคนร้ายชิงรถขับหลบหนีระยะทางกว่า 100 กม. จากช่วงหลักกิโลเมตรที่ 24 + 900 จนรถกระบะที่คนร้ายชิงมาพลิกคว่ำช่องทางคู่ขนานถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 36 บายพาสชลบุรี-ระยอง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 8 + 200  ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



   ล่าสุด วันนี้ ( 2 ม.ค. ) ผู้สื่อข่าว ได้ภาพกล้องหน้ารถจับภาพนาทีที่คนร้ายขณะก่อเหตุชิงรถกระบะก่อนหลบหนี จากย่านลาดกระบัง มาตามเส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ โดยขับข้ามจังหวัด มุ่งหน้ามายังจังหวัดชลบุรี เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร  



    โดยตำรวจทางหลวง มีการถ่ายคลิป ในระหว่างการไล่ล่าสกัดจับ ซึ่งบริเวณดังกล่าว เป็นถนน มอเตอร์เวย์ ก่อนถึงเมืองพัทยา จ.ชลบุรี  โดยพบว่ารถกระบะที่คนร้ายก่อเหตุชิงมาเกิดยางระเบิด กระทะล้อรถครูดไปกับพื้นถนน จนเกิดสะเก็ดไฟ ราวกับในหนังภาพยนตร์ 



    จากนั้นไม่นานรถกระบะคันดังกล่าว ได้พุ่งชนกับการ์ดเรท (แผงเหล็กกั้น) จนรถได้รับความเสียหายและสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชาวเกาหลี ไว้ได้ในที่สุด


    นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ควบคุมตัวนาย Nils jin sub คนเกาหลี แต่ถือสัญชาติสวีเดน อายุ 39 ปี ดำเนินคดี 3 ข้อหา 1.เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย 2.ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  3.ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ดำเนินคดีที่ สภ.บางเสาธง ต่อไป

เพชรบูรณ์#วันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเข็กน้อย กองการศึกษาฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วม "งานปีใหม่ม้ง ประจำปี 2568" ของพี่น้องชาวม้ง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30ธันวาคม 2567 - 7 มกราคม 2568

 เพชรบูรณ์#วันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเข็กน้อย กองการศึกษาฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วม "งานปีใหม่ม้ง ประจำปี 2568" ของพี่น้องชาวม้ง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30ธันวาคม 2567 - 7 มกราคม 2568 




เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของชาวม้ง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอเขาค้อและจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจะจัดขึ้นหลังจากผ่านพ้นฤดูเก็บเกี่ยว รวมถึงเฉลิมฉลองถึงความสำเร็จในการเพาะปลูกของแต่ละปี ซึ่งในกิจกรรมนั้น มีทั้งการบูชาผีฟ้า ผีป่า ผีบ้าน ที่จะให้ความคุ้มครองและดูแลความสุขตลอดทั้งปี และการแสดง การละเล่นพื้นบ้านของชาวม้ง รวมถึงการโยนลูกช่วง โดยมีนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานฯ ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น จึงได้สนับสนุนเงินในการจัดกิจกรรม เป็นจำนวน 100,000 บาท








     สุรพล ก้องเพชรศักดิ์ ที่ปรึกษา สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย-สภท.