กลุ่มนักลงทุน บุก ดีเอสไอ วอน ถอนอายัด 1,200 ล้าน เซ่นปม คดีลงทุน คอนโดหรู จ.เชียงใหม่
นักธุรกิจ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์หลายสิบคน รวมตัวเดินทางเรียกร้องความเป็นธรรมกับ ดีเอสไอ ให้พิจารณาถอนอายัดทรัพย์ โครงการคอนโดหรู ใน จ.เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท เนื่องจาก การอายัดดังกล่าว กระทบไปถึง กลุ่มผู้ลงทุน ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา
เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายรมย์รวินทร์ ธัญเศรษฐ์กุล กรรมการผู้มีอำนาจ เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ และ กลุ่มนักธุรกิจด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมกว่า 20 คน เดินทางไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้พิจารณาตรวจสอบ กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการอายัดทรัพย์ โครงการคอนโดฯ หรู จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ กลุ่มนักธุรกิจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เข้าร้องเรียนกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณี ร่วมลงทุนสร้างโครงการคอนโดดังกล่าว ในระดับ หลายล้านบาท ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนกลับมาเป็นผลกำไรในการลงทุนอัตราสูง ที่ได้รับผลตอบแทนดังกล่าวจริง เนื่องจาก โครงการคอนโดดังกล่าวมีชื่อเสียง และ เป็นที่ยอมรับในตลาดอสังหาริทรัพย์ และ กลุ่มผู้พักอาศัย หากแต่ต่อมา การปันผลเกิดชะงักและติดขัด กลุ่มผู้ลงทุน จึงเริ่มเกิดความกังวล อีกทั้ง ผู้ประกอบการในขณะนั้น กลับมีท่าทีไม่แสดงความรับผิดชอบ กลุ่มนักลงทุนจึงตัดสินใจร้องเรียนกับ ดีเอสไอ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กระทั่งนำไปสู่การอายัดทรัพย์โครงการดังกล่าว
นางสาว วรพรรณ ภูมิภัคดีพันธุ์ อายุ 47 ปี ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าว่า ตนเริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากเล็งเห็นว่า ได้ผลตอบแทนดี มีคนดูแลผลประโยชน์ และ มีโครงการจริง และ ได้รับผลตอบแทนจริง อีกทั้งการได้รับผลตอบแทนในช่วงแรก ตรงเวลามาตลอด หากแต่ปัญหาเกิดขึ้นใน ช่วงโควิด – 19 โครงการ เริ่มขาดสภาพคล่อง จึงมีกลุ่มนักลงทุนบางส่วนกังวลว่าอาจจะถูกโกงการลงทุน จะเดินหน้าไปแจ้งความกับทาง ดีเอสไอ จนทำให้โครงการโดนอายัด
แต่หลังจากนั้น ผู้ประกอบการ เริ่มติดต่อมาขอเจรจา และ เริ่มแสดงความรับผิดชอบ จึงหารือกันจนได้ข้อสรุปว่า หากโครงการโดนอายัดและต้องรอขายทอดตลาดหลังคดีสิ้นสุด จึงมองว่าอาจไม่เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาการอายัดดังกล่าว ว่า เหมาะสมหรือไม่ และ มีแนวทางใดในการร่วมกันหาทางออกให้ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย เพื่อนำไปสู่การเยียวยาให้กลุ่มผู้เสียหายมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับเรื่อง พร้อมเตรียมนำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ว่า ขอเรียกร้องดังกล่าวสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นคดีที่มีการมูลค่าความเสียหายสูง อีกทั้งผู้เสียหายในคดีมีหลายราย จึงต้องพิจารณาผู้เสียหายในรายอื่นด้วยเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น