วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หนุ่มนครราชสีมา ฟอร์มแรง ศึกลูกยางไทยลีกสัปดาห์ที่

 

หนุ่มนครราชสีมา ฟอร์มแรง ศึกลูกยางไทยลีกสัปดาห์ที่ 2




     "แชมป์เก่า" หนุ่ม แคทเดวิล สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี. นำทีมโดยอดีตทีมชาติ  วันชัย ทัพวิเศษ พร้อมผู้เล่นต่างชาติ ฟอร์มสุดร้อนแรงดั่งไฟ ไล่ตบสยบ คู่แข่ง ประเสริฐนิกรกูล แชมป์โปรชาเลนจ์ 2024 ที่ นำทีมโดย อดีตทีมชาติ "เจมส์" จิรายุ รักษาแก้ว อย่างง่ายดายตบไทยแลนด์ลีก




    การแข่งขันวอลเลย์บอลกีฬาอาชีพ มาดามหลุยส์ วอลเลย์บอล ไทยแลนด์ลีก ประจำปี 2568 เข้าสู่เกมการแข่งขันสัปดาห์ที่ 2 วันแรก เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ยิม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาเทศบาลนครปฐม จ นครปฐม



 

    ประเภททีมชาย "แชมป์เก่า" หนุ่ม แคทเดวิล สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี. เจอกับ สโมสรประเสริฐนิกรกูล แชมป์โปรชาเลนจ์ 2024

    ในนัดแรก หนุ่ม แคทเดวิล  เก็บชียชนะมาแล้ว 1 นัด มี 3 คะแนน ตรงข้ามกับ ทีมประเสริฐนิกรกูล แพ้ มา 1 นัดไม่มีคะแนน

   นัดนี้ สโมสรนครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี นำทีมโดยอดีตทีมชาติ และทีมชาติปัจจุบัน เช่น วันชัย ทัพวิเศษ ร่วมด้วย สราญจิต เจริญสุข, กฤษฎา นิลไสว, อนุรักษ์ พันธุ์รัมย์, มนตรี พ่วงสิบ ลิเบอโร่ และ ผู้เล่นต่างชาติ จากอุซเบกิสถาน อซิซเบ็ก คุชโครอฟ,  ทีมชาติอินโดนีเซีย และ คังกัล ทามิรา จากมองโกเลีย




      ทีมประเสริฐนิกรกุล แชมป์โปรชาเลนจ์ 2024 นำทีมโดย อดีตทีมชาติ "เจมส์" จิรายุ รักษาแก้ว ร่วมด้วย ดาวูด บุญมาเลิศ, เกียรติศักดิ์ ศรีคำ, ณัฐพล กล้าหาญ, พีระภัทร พรมจารย์, ธรรมธร มิ่งมูญ ลิเบอโร่ จักรพงษ์ ทองกลาง

     เกมนัดนี้ เริ่มเซตแรก นครราชสีมา เปิดการบุกที่รวดเร็วและรุนแรง เกมรับที่เหนียวแน่นจนชนะไป 25-16 เช่นเดียวกับเซต 2 การจู่โจมที่แม่นยำช่วยให้ทีมจากโคราชชนะไปขาดลอย 25-13 เซต 3 ทีมประเสริฐนิกรกุลที่เป็นรองยังทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้ หนุ่มแคทเดวิล ชนะไป 25-16




    สรุปผลการแข่งขัน "แชมป์เก่า" หนุ่ม แคทเดวิล สโมสรนครราชสีมา คิวมินซี วีซี. ชนะ สโมสรประเสริฐนิกรกูล 3-0 (25-16, 25-13, 25-16) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 14 นาที ทำให้ นครราชสีมา คิวมินซี วีซี. ชนะ 2 นัดรวด มี 6 คะแนน นำเป็นอันดับ 1 ส่วนประเสริฐนิกรกุล แพ้ 2 นัดรวดไม่มีคะแนน




 
ภูมิพัฒน์   จตุรภัทร/รายงาน
ท่านที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย / บรรณาธิการข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์อรัญนิวส์โพสต์

ตร.ภูธรภาค 2 ผนึกกำลังฝ่ายปกครอง ปฏิบัติการล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ

 ตร.ภูธรภาค 2 ผนึกกำลังฝ่ายปกครอง ปฏิบัติการล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ 



     วันที่ 28 พ.ย.67 ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรีพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นประธานในพิธีแถลงผลการปฏิบัติการ “ผนึกกำลัง ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ก่อนเทศกาลงานพลุนานาชาติเมืองพัทยา ประจำปี 2567 




 

     โดยมี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ 

ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นาวิน​ ธีระวิทย์​ ผกก.สภ.เมืองพัทยา​ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ 

รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 นายวรภพ คงธนจรัส ปลัดอำเภอบางละมุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง 




    สืบเนื่องจาก พื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติ และมีนักท่องเกี่ยวจากทั่วโลก

หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยียนจำนวนมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งในปัจจุบันมีปรากฎข่าวสารต่าง ๆ ในภาพสื่อ ทั้งด้านอาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ แรงงานต่างด้าวที่แย่งอาชีพคนไทย ชาวต่างชาติ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ อีกทั้งยังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั้น 




       ตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสอดรับนโยบาย สำคัญของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นนย้ำในเรื่องการปราบปราบอาชญากรรมข้ามชาติ และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เปรียบเสมือน "ปรสิต" ที่คอยกัดกินความสุข และความเป็นอยู่ที่ดี และยังคอยทำร้ายพี่น้องประชาชน มีความจำเป็นที่จะต้องทำการล้างบาง โดยเร็วที่สุด จึงได้เปิดปฏิบัติการ "ล้างบางปรลิต" ขึ้น



      โดยตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำโดย พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร

จังหวัดชลบุรี จึงได้สั่งการไปยังกองกำกับการสืบสวนสวนตำรวจจภูธรจังหวัดชลบุรี และสถานีตำรวจภูธรทุกสถานี ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี สนธิกำลังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ในการเปิดปฏิบัติการจับกุมเป้าหมาย และปราบปรามอาชญากรรม

    โดยผลปฏิบัติการล้างบางปรสิต สามารถดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด ดังนี้

1. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานฯ และกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการหลอกให้ลงทุน (call center) โดยฉับกุมแก๊งชาวจีนปล่อยเงินกู้ ได้รวม 17 ราย รวมยอดเงินหมุนเวียน 392,155,000 บาท

2. ร้านลักลอบผลิตและจำหน่ายสมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ร้าน จับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวจำนวน 7 คน และตรวจยึดสมุนไพรแปรรูป ที่แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง ที่มีวิธีการหลอกขายให้ซื้อโดยบังคับขู่เข็ญ ทำร้ายร่างกาย จำนวน 27 รายการ

3. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีใบอนุญาดทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ (ทำงานผิดประเภท) จำนวน 109 ราย

4. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาด จำนวน 469 ราย

5. ความผิดเรื่องเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (over stay) จำนวน 33 ราย

6. ความผิดเกี่ยวกับการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว ตาม ม.38 จำนวน 249 ราย

7. ความผิดเกี่ยวกับกฎหมาย อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ ซึ่งมีไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 42 ราย โดยตรวจยึดปืนได้จำนวน 23 กระบอก

8. ความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมตัวได้ รวมจำนวน 9 ราย ตรวจยึดยาบ้าได้ จำนวน 300,037 เม็ด ไอซ์ จำนวน 4.2 กรัม

9. จัดระเบียบการรวมกลุ่มแข่งรถในทาง-ทะเลาะวิวาท ของชาวคูเวต โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 33 ราย ข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว 2 ราย โดยทั้งหมดได้ดำเนินคดีกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องแล้วทุกราย

10.จัดระเบียบคนไร้บ้าน เร่ร่อน 14 ราย โดยตรวจพบเสพสารเสพติดจำนวน 7 ราย ขอทาน 33 ราย ขายดอกไม้ 2 ราย 




นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี  ชลบุรี 0909535645

เลขานุการกรรมาธิการ คมนาคม เร่งหาสาเหตุไฟทางหลวง เส้น 332 สัตหีบดับ หวั่นเกิดอุบัติเหตุ

 


 เลขานุการกรรมาธิการ คมนาคม เร่งหาสาเหตุไฟทางหลวง เส้น 332 สัตหีบดับ หวั่นเกิดอุบัติเหตุ 



 นาย กิตติ อุดม เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ไปยัง หมวดทางหลวงสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการ ประสาน สอบถามถึงสาเหตุไฟทางหลวง ถนน เส้น 332 บริเวณ  ฝั่งขาเข้าแยกเจ บริเวณใกล้เคียงกับ สถานีรถไฟ เขาชีจรรย์ เนื่องจากมีประชนร้องเรียน ว่าพื้นที่บริเวณนี้ไฟดับยาวมืดเกือบกิโล มานานแล้ว  ซึ่งล่าสุดเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในบริเวณดังกล่าว 



โดย  นาย กิตติ อุดม เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชน เข้าสอบถาม ถึงสาเหตุหลัก ของไฟทางหลวง ตรงพื้นที่บริดังกล่าว  ซึ่งหมวดทางหลวงสัตหีบ ได้ประสานแจ้งไปยัง แขวงทางหลวงชลบุรี ที่2 กรมทางหลวง แล้ว อยู่ในระหว่างดำเนินการ และได้ทำการแก้ไขปัญหา โดยประสาน องค์การบริการส่วนตำบลพลูตาหลวง เพื่อขอจั๊มไฟ  เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เกิดแสงสว่าง กับผู้ใช้รถใช้ถนน   และปัญหา ส่วนใหญ่ที่ทำให้ไฟดับ เกิดจาก หม้อแปลงถูกถอดโจรกรรมอุปกรณ์ภายใน  หม้อแปลงเก่าชำรุดเสียหาย และเกิดจากอุบัติเหตุ  อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน    





นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323 


บุรีรัมย์ เล่าฝันร้ายให้เมียฟังก่อนคานสะพานพระราม 2 ถล่มเผยนาทีน่ากลัว

 บุรีรัมย์ เล่าฝันร้ายให้เมียฟังก่อนคานสะพานพระราม 2 ถล่มเผยนาทีน่ากลัว




อำเภอประโคนชัย//ภรรยาโฟร์แมนก่อสร้าง”คานสะพานก่อสร้าง" ถนนพระราม 2 ที่พังถล่มลงมา เผยทำงานที่เดียวกันกับสามีช่วงเกิดเหตุอยู่ด้านล่างสามีอยู่ด้านบนเห็นนาทีคานถล่มน่ากลับ สามีมาเล่าฝันจะมีผู้หญิงมาเอาชีวิตไปถึง 2 ครั้ง จึงนัดกันหลังเลิกงานคืนนี้จะไปสะเดาะเคราะห์แต่ไม่ทัน 



วันที่ 30 พ.ย.67 กรณีคานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว(ช่วงที่ 3) ตอนที่ 1 ถล่ม 



ขณะกำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนงานที่ปฏิบัติงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บนพื้นที่ กม.21+600 – กม.22+100 ถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ที่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทำให้มีคนงานเสียชีวิตแล้ว 6 ราย



หนึ่งในนี้มีนายสุทัศน์ หรือทัศน์ บุญเรือง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 5 บ้านโคกเกลา ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ตำแหน่งโฟร์แมนรวมอยู่ด้วย ซึ่งล่าสุดร่างของนายสุทัศน์ ได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านโคกเกลา ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย มีกำหนดจะฌาปนกิจศพในวันที่ 1 ธ.ค.นี้



บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางสาวโสภิตา เปียกระโทก อายุ 28 ปี ภรรยานายสุทัศน์ ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน โดย นางสาวโสภิตา เล่านาทีเกิดเหตุว่า 


สามีทำงานอยู่กับบริษัทนี้มาได้ 6 ปี ต่อมาตนได้เข้าไปทำงานกับสามีด้วยกันจนถึงขณะนี้ตนทำงานกับสามีมาได้ประมาณ 4 ปี และล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาสามีได้เลื่อนตำแหน่งเป็นโฟร์แมน



นางสาวโสภิตา เล่าด้วยว่าก่อนเกิดเหตุ สามีอยู่ด้านบน ส่วนตนอยู่ด้านล่างกำลังจะนั่งลงไม่ถึง 1 นาที เห็นสะพานถล่มลงมาแต่ตนไม่ได้รับอันตราย หลังจากนั้นจึงเกิดการโกลาหนกัน พยายามค้นหาสามีแต่ไม่เจอจนกระทั่งมีหน่วยกู้ภัยมาค้นพบว่าสามีถูกของทับเสียชีวิตแล้ว



นางสาวโสภิตา เล่าอีกว่าก่อนหน้านี้สามีเคยเล่าว่าฝันมีผู้หญิงจะมาเอาชีวิต ตนไม่เอะใจเพราะแค่ความฝัน และครั้งล่าสุดเวลาประมาณ 20.00 น.สามีมาบอกก่อนจะออกไปทำงานอีกว่า ฝันว่าผู้หญิงคนเดิมจะมาเอาชีวิต จึงนัดกันว่าหลังจากเลิกงานเช้านี้จะไปสะเดาะเคราะห์ด้วยกัน แต่ไม่ทันเพราะเวลา 04.00 น.คานเหล็กทับสามีเสียชีวิตไปแล้ว


ด้านนางสุขใจ บุญเรือง อายุ 45 ปี (ใส่แมส) พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่าอยากจะให้บริษัทที่ทำงานประเภทนี้รักษาความปลอดภัยให้ดีกว่านี้ เท่าที่ทราบเกิดเหตุหลายครั้งโดยเฉพาะถนนพระราม 2 และอยากให้บริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบเพราะน้องชายอายุยังน้อย ยังจะมีอนาคตอีกไกลโดยเฉพาะลูกเพิ่งอายุได้เพียง 8 ปีเท่านั้น////////


ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง

ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน

คิวภาพ//บรรยากาศในงานศพ//เสียงภรรยาเสื้อดำ//เสียงพี่สาวคนตายใส่แมส

“ประธานอังกูร” นำคณะอนุกมธ. ลงพื้นที่เมืองขุนแผน ศึกษาเครื่องแจ้งเตือนภัย หวังสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว

 “ประธานอังกูร” นำคณะอนุกมธ. ลงพื้นที่เมืองขุนแผน ศึกษาเครื่องแจ้งเตือนภัย หวังสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว 



วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธานอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านกานท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา  พร้อมด้วย นายศรายุทธ ยิ้มยวน สมาชิกวุฒิสภา นำคณะอนุกรรมาธิการฯ คณะที่ปรึกษา ศึกษาดูงานวิจัยการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อบูรณาการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองปลอดภัย ที่สวนหินธรรมชาติพุหางนาค ภูเขาแห่งศรัทธา

ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี 




เป็นผลงานนวัตกรรม การยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากทุนทรัพยากรท้องถิ่น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำการท่องเที่ยวด้วยชุมชน จากคณะทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีแบบพกพา พร้อมระบบติดตามแบบออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 




ทั้งนี้มีการจำลองเหตุการณ์ขณะที่นักท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาเข้าป่าเที่ยวชมสวนหินธรรมชาติพุหางนาค แล้วเกิดประสบอุบัติ ได้ขอความช่วยเหลือผ่านเครื่อง Smart Guide box ที่ติดตั้งในแหล่งท่องเที่ยว และจุดเสี่ยง




ผศ.ดร.วารุณี ศรีสงคราม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กล่าวว่า โครงการวิจัยดังกล่าว เป็นการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะนำไปบูรณาการเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองให้มีความปลอดภัย โดยผ่านเครื่องมือ Smart Guide box ซึ่งทำหน้าที่ในการให้ข้อมูล แจ้งพิกัด จากการขอความช่วยเหลือ เพื่อส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้สถานีตำรวจในพื้นที่ อปพร. รพ.สต. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ 



รวมถึงอุปกรณ์สวมใส่และระบบติดตาม เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก Smart Guide box ในการติดตามตัวนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นการแจ้งเตือนสถานที่เสี่ยงภัย ให้นักท่องเที่ยวระวัง อีกทั้งยังแสดงการตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เช่น นักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุ หรือร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเทคโนโลยีที่มาช่วยให้การท่องเที่ยวปลอดภัย 




ด้าน พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า จากที่ได้นำคณะมาศึกษาดูงาน และมีการจำลองเหตุการณ์ จึงทำให้เห็นปัญหาและอุปสรรค เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ครั้งนี้พบอุปสรรคเกี่ยวกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ไม่มี เพราะตั้งอยู่ในเขตอุทยาน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องมีการระดมความคิดเพืีอหาทางแก้ไข รวมถึงสายด่วน มีเพียงเบอร์โรงพักถ้าเป็นคนไทยยังสื่อสารกันเข้าใจ แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างภาษา จะสื่อสารสร้างความเข้าใจยาก จึงเป็นข้ออุปสรรคที่ต้องปรับแก้ต่อไป และหากผลสำเร็จจากโมเดลใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จะนำไปขยายผลยังพื้นที่จังหวัดการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป

//

พิทักษ์1 สั่งการ สืบนครบาล ร่วม ตม.3 และ สภ.โพธิ์แก้ว นครปฐมทลายแก๊งต่างด้าว037 ชุมนุมกันเผยแพร่ในโลกโซเชียล รวบ "เล็ก 037" หัวหน้าแก๊งพร้อมอาวุธมีด

 พิทักษ์1 สั่งการ สืบนครบาล ร่วม  ตม.3  และ สภ.โพธิ์แก้ว นครปฐมทลายแก๊งต่างด้าว037 ชุมนุมกันเผยแพร่ในโลกโซเชียล รวบ "เล็ก 037" หัวหน้าแก๊งพร้อมอาวุธมีด



       สืบเนื่องจากข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ถึงกลุ่มแก็งค์ต่างด้าวที่ก่อการชุมนุม สร้างความวุ่นวาย ในสวนหลวง ร 9 เขตประเวศ กทม. โดยตั้งแก็งค์ทำร้ายคนไทย จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน   พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. (สส) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.   สั่งการสืบนครบาลร่วมกับ สตม.ตรวจสอบกลุ่มบุคคลดังกล่าว และได้พบแหล่งที่อยู่ของ นายเล็ก 037 หรือนาย Saw Ah Di จึงประสานกำลังเข้าตรวจสอบ                  



            วันที่ 30 พ.ย.67 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.  พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.   พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.  พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.  พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.4 บก.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สุกฤษณ์ มีบำรุง รอง ผกก.ตม.จว.นครปฐม พ.ต.ท.หญิง นิภากร สาระพันธ์ สว.ตม.จว.นครปฐม และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จว.นครปฐม , พ.ต.ท.ธนากร ภูริกวินเลิศ รอง ผกก.สส.สภ.โพธิ์แก้ว และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ จว.นครปฐมได้นำกำลังเข้าตรวจค้น หัวหน้าแกนนำชาวกะเหรี่ยงกลุ่ม 037 ที่ห้องเลขที่ 30 ชั้น 3 หอพักป้าแนมทรัพย์ 100 ห้อง ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จว.นครปฐมพบ 



         นาย Saw Ah Di หรือ นายเล็ก อายุ    38 ปี ชาวเมียร์มาร

             โดยนายเล็ก 037 หรือ นาย Saw Ah Di เป็นแกนนำกลุ่ม 037 ที่มีชาวกะเหรี่ยงเป็นสมาชิกกว่า 200 คน จากการตรวจสอบพบภาพการรวมกลุ่มกับแก็งค์สมาชิกหลายครั้ง มีการโพสต์ภาพอาวุธ มีด ดาบซามูไร และยังมีพฤติการณ์ระดมทุนจากสมาชิกแก็งค์ผ่านบัญชีของนาย Saw Ah Di เพื่อจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่ม และช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงด้วยกัน

             ผลการตรวจค้นพบ

                  1.เสื้อสีดำที่มีสัญลักษณ์กลุ่ม 037 จำนวน 5 ตัว

                  2.มีดพร้า จำนวน 1 เล่ม

                  3.มีดยาวซามูไร จำนวน 2 เล่ม 

  

             เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการยึดสิ่งของดังกล่าวไว้ โดยความยินยอมของนาย Saw Ah Di เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบการกระทำความผิดอื่นๆของนาย Saw Ah Di จากการขยายผลจึงได้ทราบข้อมูลร้านที่ได้รับจ้างสกรีนเสื้อของแก็งค์ดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจสอบ บ้านเลขที่ 60/240 ซ.เพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. พบกับนาย ยุทธนา สุทธิประภา ผู้เป็นเจ้าของนำพาเข้าตรวจค้น โดยนาย ยุทธนาฯให้การว่าได้มีบุคคลต่างชาติ สัญชาติเมียนมาร์ มาว่าจ้างให้สกรีนเสื้อตามรูปแบบลักษณะดังกล่าวเมื่อ วันที่ 27 มิถุนายน  2567 โดยได้คิดราคาค่าจ้างตามปกติลูกค้าทั่วไป ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้สกรีนเสื้อจำนวนสองครั้ง ทั้งนี้ นายยุทธนาฯได้มอบบล็อกสกรีนและแผ่นฟิลม์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน



        นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ตรวจสอบพบว่า  นายเล็ก 037 หรือ นาย Saw Ah Di  เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรเกินเก้าสิบวัน แต่ไม่ได้มีการแจ้ง เป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้ดำเนินคดีต่อนายเล็ก 037 ตาม ม.37 (5) แห่ง พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งดำเนินคดีกับ เจ้าของที่พักในความผิดฐาน เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเดหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรม ซึ่งรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะ ต้องแจ้ง ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหสถานหรือโรงแรมนั้นตั้งอยู่ ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง


 

               ในส่วนของ นายเล็ก 037 หรือ นาย Saw Ah Di  นำตัวส่ง ตม.นครปฐม ดำเนินคดีต่อไป



       พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าเป็นคดีที่ชาวต่างด้าวรวมตัวกันเผยแพร่ในโลกโซเชียลส่อไปในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน ตลอดจนผู้ร่วมตัวกัน พิทักษ์ 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้สืบนครบาล ร่วมกับ สตม. ดำเนินการแกนนำที่ส่อถึงความรุนแรง และความวุ่นวาย โดยให้ขยายผลถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวต่างด้าวที่ตั้งใจมาประกอบอาชีพสุจริต