วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สตง. เดินหน้าสร้างเครือข่ายการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุดลงนาม MOU กับหน่วยรับตรวจเพิ่มอีก 5 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพงานตรวจเงินแผ่นดิน

 สตง. เดินหน้าสร้างเครือข่ายการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุดลงนาม MOU กับหน่วยรับตรวจเพิ่มอีก 5 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพงานตรวจเงินแผ่นดิน

 


นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะองค์กรตรวจสอบภายใต้นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบงานการตรวจเงินแผ่นดินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปโดยโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมยุคดิจิทัล จึงได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) เสนอคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พิจารณาให้ความเห็นชอบและได้มีการประกาศ เรื่อง “กรอบแนวปฏิบัติในการตรวจสอบด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” ลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เรียบร้อยแล้ว และต่อมาได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยรับตรวจ รวมจำนวน 16 หน่วยงาน (ประกอบด้วย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานในสังกัด รวม 10 หน่วยงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ  สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง  สำนักงบประมาณ  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) โดยจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพืื่อเป็นการนำร่องวิธีการตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งปัจจุบัน สตง. ได้มีการประสานงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยรับตรวจดังกล่าว โดยเฉพาะการรับ – ส่งเอกสารเพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์


ล่าสุด สตง. ได้เดินหน้าสร้างเครือข่ายการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมตามกรอบแนวปฏิบัติในการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่าง สตง. กับหน่วยงานราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม รวมจำนวน 5 แห่ง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567  เวลา 13.00 น. ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ดังนี้


1. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย

2. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กับ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

3. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กับ เทศบาลเมืองแสนสุข

4. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กับ เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์

5. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กับ เทศบาลเมืองแม่เหียะ


นายทรงพล  ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กล่าวว่า กบข. มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับการบริหารราชการด้วยระบบดิจิทัล จึงได้มีข้อตกลงความร่วมมือในการประสานและร่วมดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้กระบวนการตรวจสอบผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตั้งแต่ขั้นตอนการรับ–ส่งข้อมูล เอกสาร และหลักฐานประกอบการตรวจสอบ รวมถึงขอบเขต และเงื่อนไขในการปฏิบัติทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์และประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามกรอบแนวปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เรื่อง              กรอบแนวปฏิบัติในการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประกาศ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา


นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกท. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติราชการผ่านระบบดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนกระบวนการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งจะช่วยให้การรับส่งหนังสือ รายงาน ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานของทั้งสองหน่วยงานมีความคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการร่วมสนับสนุนงานตรวจเงินแผ่นดินในยุคดิจิทัล


นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ และนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาล แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประสานความร่วมมือระหว่างเทศบาล และ สตง. ในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานและการดำเนินงานในการตรวจสอบด้านการเงินของเทศบาล อีกทั้งเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนและส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทันสมัย มีการดำเนินงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการและการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป นายสมชาย กล่าว


นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า DGA ได้ดำเนินการสนับสนุนนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยปรับเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบในรูปแบบเดิมให้รองรับระบบดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐที่มีความพร้อม เพื่อลดภาระและสร้างความเชื่อมั่นให้หน่วยงานรัฐผู้รับตรวจในการเตรียมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบของ สตง. ซึ่งผ่านการรับรองจากคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เรื่อง กรอบแนวปฏิบัติในการตรวจสอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Audit) ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ DGA ขอแสดงความยินดีกับ 5 หน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU ในครั้งนี้ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของการมีส่วนร่วมและความมุ่งหมายเดียวกันตามนโยบายของรัฐบาลในการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ สร้างความโปร่งใส และธรรมาภิบาลภาครัฐ โดย DGA หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้นำไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นต่อไป

 ___


#สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

SIAM TECHNO POLL เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความอ่อนไหวของประชาชน กรณี วุฒิการศึกษาปลอม”

 SIAM TECHNO POLL

เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความอ่อนไหวของประชาชน กรณี วุฒิการศึกษาปลอม”




สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความอ่อนไหวของประชาชน กรณี วุฒิการศึกษาปลอม” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1–25 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับผลกระทบมากที่สุดตามความคิดเห็นของประชาชน เมื่อมีข่าวสารเกี่ยวกับการปลอมวุฒิการศึกษา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 33.54 ระบุว่า มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการศึกษาและองค์กร มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 32.42 ระบุว่า มีผลกระทบต่อโอกาสทางอาชีพและความเป็นธรรม และเมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นของสถาบันอันดับแรก เมื่อมีข่าวสารเกี่ยวกับการปลอมวุฒิการศึกษา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.23 ระบุว่า ควรมีการตรวจสอบและรับรองวุฒิการศึกษาอย่างเข้มงวด มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 31.28 ระบุว่า ควรมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจนและเข้มงวด และร้อยละ 12.62 ระบุว่า ควรสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน 




ดร.ธนเสฎฐ์ อัคคัญญ์ภูดิส

อาจารย์ประจำสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล

โทรศัพท์ มือถือ 089-474-9514


สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม โทรสาร02-878-5002

E-mail:siamtechno_poll@siamtechno.ac.th

ซอยด๊อกจัดโครงการฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษาในหลวง

 ซอยด๊อกจัดโครงการฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษาในหลวง




​วันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก) จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายผู้ดูแลสัตว์ชุมชนในจังหวัดภูเก็ต เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองกะทู้ (ตึกเก่า) ภายใต้ความร่วมมือเทศบาลเมืองกะทู้ ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานจากหลายภาคส่วน อาทิเช่น บุคลากรจากซอยด๊อก นางสาวกิรณี นรบาล ประธานกรรมการมูลนิธิฯ นายอรรถาพงษ์ จันทรัตนวงศ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ พร้อมด้วยบุคลากรจากเทศบาลเมืองกะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง เทศบาลตำบลวิชิต และประชาชนผู้ดูแลสัตว์ในชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต 




​นางสาวกิรณี นรบาล ประธานกรรมการมูลนิธิฯ กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการนี้คือต้องการเปลี่ยนสัตว์จรจัดให้เป็นสัตว์ชุมชนเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกับสัตว์ได้อย่างสันติ และสามารถดูแลสัตว์เหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม มีความสุข และมีสวัสดิภาพในชีวิต โดยที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความร่วมมือกับทางมูลนิธิฯ อย่างเต็มที่ในการสนับสนุนการแก้ปัญหาสัตว์จรจัดอย่างเป็นระบบ เป็นรูปธรรมและมีมนุษยธรรม นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯ ยังได้มีหน่วยทำหมันเคลื่อนที่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ที่ สวนสาธารณะลานกีฬากะทู้ และมีการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเรื่องการจัดการปัญหาสัตว์จรจัดอย่างยั่งยืน ทางมูลนิธิฯ ต้องขอขอบคุณเทศบาลเมืองกะทู้สำหรับการเอื้ออำนวยสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าการดูแลและแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม ไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบของผู้ใดผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนการรวมพลังของหลายภาคส่วนในการทำความดีสร้างชุมชนให้น่าอยู่ 




​ด้านนายอรรถาพงษ์ จันทรัตนวงศ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองกะทู้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสัตว์ จึงได้ให้การสนับสนุนพื้นที่สำหรับหน่วยทำหมันเคลื่อนที่ของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย อีกทั้งทางเทศบาลยังได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ ในการดูแลสัตว์ในพื้นที่ที่ผ่านมา  




​ทั้งนี้มูลนิธิฯ ได้มีการให้ความรู้เรื่องการดูแลและการจัดการปัญหาสัตว์จรจัดแก่ผู้ร่วมงาน เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างแรงผลักดันให้เกิดชุมชนที่ปลอดภัย ซึ่งคน สัตว์ สิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขตลอดจนทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นที่เมืองน่าอยู่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ถือเป็นการทำความดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗๒ พรรษา 




____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

หัวหมอก็ไม่รอด!!!! สืบนครบาล ร่วมสืบTOP G จับกุม หนุ่มตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญร้านสะดวกซักหลายร้าน หัวหมอปรับมุมกล้องวงจรปิด

  หัวหมอก็ไม่รอด!!!!   สืบนครบาล ร่วมสืบTOP G จับกุม หนุ่มตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญร้านสะดวกซักหลายร้าน หัวหมอปรับมุมกล้องวงจรปิด 



                คนร้ายหัวหมอปรับมุมกล้องวงจรปิดลักทรัพย์เงินในตู้แลกเงิน (เครื่องแลกเหรียญ) ที่ร้านสะดวกซัก ในพื้นที่ ห้วยขวาง และพื้นที่รัชดา - ประชาชาราษฎร์บำเพ็ญ ในช่วงระหว่างวันที่ 11 - 16 กรกฎาคม 2567   สร้างความเสียหายให้กับประชาชน และความหวาดระแวงในสังคม   ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.จึงเร่งรัดการปราบปราม และจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว



.

          เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2567  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์,พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.  พ.ต.ต.นิทัสน์   มีทอง สว.กก.สส.4 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ร่วมนักเรียนอบรมหลักสูตร TOPG ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้จับกุมตัว 



         นายชัยอนันต์  กิตติพัฒน์วงศ์  อายุ 29 ปี ที่อยู่ 302/23 ซอยลาดพร้าว1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.500/2567 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 

        ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมอมหน้าหรือทำประการอื่นใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อพ้นการจับกุม”

.


         โดยพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 สน.คลองตัน ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตันว่าเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 03.54 น. ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทำการปรับทิศทางมุมกล้องวงจรปิดเพื่อลักทรัพย์เงินในตู้แลกเงิน (เครื่องแลกเหรียญ) ที่ร้านสะดวกซัก ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร และได้ทรัพย์ไปเป็นจำนวน 5,000 บาท และขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้นจึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อร้องทุกข์ 

.

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้สืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิด คือ นายนายชัยอนันต์ อายุ 29 ปี และได้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือบุคคลเดียวกันกับคนร้ายซึ่งมีพฤติกรรมลักทรัพย์ตามร้านสะดวกซัก ในพื้นที่ ห้วยขวาง และพื้นที่รัชดา - ประชาชาราษฎร์บำเพ็ญ ในช่วงระหว่างวันที่ 11 - 16 กรกฎาคม 2567 

.

        เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ประสานพนักงานสอบสวนขอออกหมายจับนายชัยอนันต์ฯ และศาลอนุมัติตามตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.500/2567 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 และต่อมา วันนี้ (30 ก.ค.2567)  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สส.4ฯ ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายชัยอนันต์ฯ ผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ย่านซอยไผ่ห์สิงโต จึงได้เฝ้าจุดสังเกตการณ์ จนเมื่อเวลาประะมาณ เวลา 17.50 น. นายชัยอนันต์ฯ ได้ปรากฎตัวที่บริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ ซอยไผ่ห์สิงโต แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการเข้าจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

.

          พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการที่คนร้าย ได้ตระเวนก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินภายในร้านสะดวกซักในหลายท้องที่นั้น เป็นการสร้างความเดือดร้อนในกับสังคมโดยรวม   หากไม่รีบจับกุมตัวแต่โดยเร็วนั้นอาจเป็นภัยสังคมที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในวงกว้างได้ แม้คนร้ายจะหัวหมอ แต่ไม่รอด  จากโครงการกล้องวงจรปิด CCTV ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มประสิทธิภาพงานสืบสวนปราบปราม 

สมัย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.

สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ต้นแบบ “ฟุตบอลสีเขียว”

 สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ต้นแบบ “ฟุตบอลสีเขียว”



วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ห้องประชุม อบก. ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายพีรพัฒน์ ถานิตย์ ประธานสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี พร้อมด้วย ดร.ก้องเกียรติ สุริเย ประธานกรรมการ บริษัท จีอาร์ดี จำกัด รับมอบประกาศนียบัตร เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเครื่องหมายรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จาก ดร.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานกรรมการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (บอก.)


นายพีรพัฒน์ ถานิตย์ เปิดเผยว่า

นอกจากการทำทีมฟุตบอลเพื่อคนสมุทรปราการแล้ว การทำทีมฟุตบอลเพื่อโลกนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะต้องอาศัย 'วิสัยทัศน์' ของผู้บริหารของแต่ละทีม ในการกล้าที่จะเรียนรู้ ลงทุน ลงมือทำอย่างจริงจัง



เราเป็นสโมสรฟุตบอลเดียวในประเทศไทย ที่สามารถขึ้นโลโก้ Carbon Neutral บนหน้าอกได้

เวลานี้ทุกคนบนโลก ต่างให้ความสำคัญถึงเรื่องการรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ทุกฝ่าย ในการลงมือทำ ไม่เว้นแต่วงการฟุตบอลซึ่งทุกคนสามารถร่วมกัน ทำให้เกิดขึ้นได้

เพื่อให้สิ่งแวดล้อมของเรายั่งยืนสู่คนรุ่นต่อไป

//


วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรีร่วมกับมูลนิธิพระราหูมอบให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจานจ.เพชรบุรี

 กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรีร่วมกับมูลนิธิพระราหูมอบให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจานจ.เพชรบุรี



 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.00  น. พ.อ.กรกานต์  นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.บ.(ท.)  ร.ต.สมชาย  วิบูลรังสรรค์   เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการฝ่ายการข่าวฯ     ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จากมูลนิธิพระราหู และถุงยังชีพจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดเพชรบุรี เป็นข้าวสารอาหารแห้ง น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาลทราย มาม่า ปลากระป๋อง และขนม  ไปมอบให้กับ พระอาจารย์กำพล  ทยลุโก เจ้าสำนักสงฆ์ บ้านโป่งลึกบางกลอย ซึ่งทางพระอาจารย์ได้นั่งรอรับทานน้ำใจจากผู้ใจบุญ จะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ  ณ วัดห้วยแม่เพรียง ม.4 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อมอบให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านโป่งลึก บางกลอย 






กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรีร่วมมอบบ้าน ใน“โครงการ Home & Hope การพัฒนา ที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ”

 กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรีร่วมมอบบ้าน  ใน“โครงการ Home & Hope การพัฒนา ที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ”



เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2567  เวลา 14.30 น.

พ.อ.กรกานต์  นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.บ.(ท.) มอบหมายให้ พ.อ.สนอง ธัญญานนท์ หน.กลุ่มงานกิจการมวลชน กอ.รมน.จังหวัด พ.บ.ร่วมกับ นายกองโทสมศักดิ์ แย้มพันธุ์นุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบุรี,เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนยาง กำนันตำบลดอนยาง พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  ร่วมมอบบ้าน  ใน“โครงการ Home & Hope การพัฒนา ที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ”  โดยมี  ดร.วุฒิพันธุ์ ตะวันเที่ยง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM  และผู้บริหาร พนักงานบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบให้แก่ครัวเรือนของนางช้อง แตงอ่อน บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ที่ 9 ตำบลดอนยาง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี













       โดยโครงการ Home & Hope เป็นโครงการที่ บสก.(BAM) ได้จัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยร่วมมือกับสำนักบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัด เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำรงชีวิต มุ่งเน้นการช่วยเหลือให้ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงวัย ผู้พิการ เป็นต้น เพื่อให้กลุ่มคนดังกล่าวได้มี “บ้าน” ที่มั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 5) เป็นประธานในการประชุม“เร่งรัดการดำเนินการทางวินัย ครั้งที่ 3/2567” ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meeting)

 



วันนี้(วันอังคารที่ 30 ก.ค.67) เวลา 13.30 น.



พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ 

ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 5)


เป็นประธานในการประชุม“เร่งรัดการดำเนินการทางวินัย ครั้งที่ 3/2567” ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meeting)




พร้อมด้วย 

ผู้แทนหน่วยระดับ รอง ผบช. และ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบงานวินัย เข้าร่วมประชุม




โดยมีข้อสั่งการดังนี้

1. ตามที่ ตร. ได้จัดโครงการฝึกอบรมพัฒนาประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านวินัยของหน่วยระดับ บช. และ บก. ทุกหน่วยใน ตร. ไปเมื่อ 23-25 ก.ค.67 ซึ่งผมได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร. ให้เป็นประธานในการเปิดการฝึกอบรม โดยจากการตรวจสอบได้รับรายงานว่าข้าราชการตำรวจที่เข้ารับการอบรมให้ความร่วมมือและสนใจเป็นอย่างดีและได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตลอดจนเสนอแนะปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ดังนั้น จึงให้กองวินัยรวบรวมข้อเสนอแนะและปัญหาข้อขัดข้องมายัง ตร. เพื่อพิจารณาสั่งการ ตลอดจนเป็นข้อมูลในการแก้ไข ปัญหาทั้งในด้านข้อกฎหมาย การบริหารงานบุคคล และส่วนต่างๆ




 

นอกจากนั้น ขอให้แต่ละหน่วยกำชับผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้และแนวทางการปฏิบัติที่ได้ไปใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกส่วนหนึ่ง ด้วย

2. เนื่องจากในปัจจุบันปรากฏกรณีข้าราชการตำรวจกระทำความผิดกฎหมายหรือกระทำผิดวินัยซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยรวม ดังนั้น จึงให้ผู้บังคับบัญชากำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 37 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ

3. กำชับหน่วยให้ดำเนินการกรอกข้อมูล ในระบบฐานข้อมูลกำลังพล POLIS ให้เป็นไปตามแนวทางการบันทึกข้อมูล ซึ่ง ตร.ได้มีหนังสือที่ 0006.14/1075 ลง 22 มี.ค.67 แจ้งเวียนไปแล้วส่วนหนึ่ง หากมีข้อสงสัยให้ประสานการปฏิบัติกับ วน.

4. ทุกหน่วยที่มีงานค้างโดยเฉพาะเรื่องที่เกินกรอบระยะเวลา , เรื่องที่สั่งการไปแล้วเกิน 3 เดือน และในเรื่องที่รอฟังผู้บังคับบัญชาขั้นเหนือ(รอฟัง บช.) ให้เร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ประสานการปฏิบัติในรายละเอียดของข้อมูลมายังกองวินัย

5. ให้ทุก บช. และหน่วยขึ้นตรง ตร. รายงานผลให้ทราบ กรณีที่มีการ สืบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนวินัยร้ายแรงที่คณะกรรมการหรือผู้สืบสวนส่งผลการ สืบสวนข้อเท็จจริง และผลการสอบสวนมายังผู้สั่งตั้งเพื่อพิจารณาตามมาตรา 120 วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ว่ามีกี่เรื่องที่ยังอยู่ระหว่าง พิจารณา และอยู่ขั้นตอนใด โดยในส่วนที่ ตร. เป็นผู้ดำเนินการให้ วน, รายงานผลให้ทราบเช่นกัน

6. การพิจารณาสั่งสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง/สืบสวน ข้อเท็จจริง/สอบสวนวินัยร้ายแรงชั้นเหนือ ให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน นับแต่วันได้รับสำนวน หากไม่แล้วเสร็จให้ขอขยายรายงานต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือ อีกหนึ่งระดับและรายงานผลให้ทราบ




ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น20 อาคาร 1 ตร. แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม.


อบจ.เพชรบูรณ์จัดพิธีส่งมอบครุภัณฑ์วิทยาศาตร์เครื่องมือทางการแพทย์ให้สถานีเฉลิมพระเกียรติ60พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์.

 อบจ.เพชรบูรณ์จัดพิธีส่งมอบครุภัณฑ์วิทยาศาตร์เครื่องมือทางการแพทย์ให้สถานีเฉลิมพระเกียรติ60พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์. 


                   วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีส่งมอบครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์หรือเครื่องมือทางการแพทย์ ในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขของสถานีเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ได้รับการถ่ายโอนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายอัครเดช ทองใจสด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีฯ และมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมฯ ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์.








     สุรพล ก้องเพชรศักดิ์ ที่ปรึกษา สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย-สภท.