วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

 บุรีรัมย์ 8 เดือนผ่านไปทวงถามคดีลักทรัพย์ โดนสวนกลับ ไม่ใช่มีเรื่องเจ้าเรื่องเดียว



อำเภอแคนดง//แม่ค้าน้อยใจเอาวงจรปิดไปแจ้งความถูกสาวขโมยเงิน 9 ครั้งประมาณ 7 หมื่น ตำรวจไม่สนใจพอออกเป็นข่าวมาถ่ายรูปแชะเดียวกลับ ตามคดีหลายครั้ง ตร.บอกจะออกหมายจับไม่ต้องมากวน ผ่านไป 8 เดือนคดีนิ่ง ถามล่าสุดโดนสวน”อ้อคิดว่าไม่สนใจแล้ว”ตำรวจไม่ได้มีเรื่องพวกเจ้าเรื่องเดียวประสาทจะกิน”



วันที่ 24 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านขายของส่งในเขตเทศบาลแคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตำรวจดองคดีนาน 8 เดือน ไม่ยอมทำงานให้ประชาชนซ้ำโดนด่ากลับ



ตรวจสอบร้านค้าดังกล่าวเป็นร้านค้าขายของส่งชื่อ ร้านมาบุญชู ตั้งอยู่เลขที่ 120 ม.5 ต.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ อยู่ในเขตเทศบาลแคนดง ริมถนนสายแคนดง-สตึก เป็นร้านที่เคยถูกหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปขโมยเงินสดในลิ้นชักในร้านหลายครั้ง ซึ่งตกเป็นข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 



สอบถามนางชิตากาญจน์ ตามสีรัมย์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านเล่าว่าครั้งนั้นตนได้นำคลิปวงจรปิดจำนวน 9 ครั้งที่คนร้ายเป็นหญิงสาวมาขโมยไป ครั้งละประมาณ 8,000 บาท ไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.แคนดง แต่ตำรวจไม่ยอมออกมาดูในร้าน จึงร้องสื่อให้มาช่วย พอตกเป็นข่าวพนักงานสอบสวน เดินทางมาทันทีพร้อมถ่ายภาพ 2-3 ภาพแล้วกลับไป



ในเวลาต่อมาหญิงสาวที่ปรากฏอยู่ในวงจรปิดได้ประสานมาขอไกล่เกลี่ย แต่ตำรวจบอกว่าถ้าจะไกล่เกลี่ย ลดตัวเลขลงจากเงินที่หายไปวันละ 8,000 บาทให้เหลือวันละ 6,000 บาทได้ไหม ตนก็ยอม แต่ตำรวจบอกว่าไม่ว่างนัดกันวันหลัง แต่สุดท้ายคนร้ายหลบหนีไปต่างจังหวัดไม่เห็นตัวอีกเลย



จากนั้นตนเองได้ไปติดตามคดีพนักงานสอบสวนบอกว่าเดี๋ยวผมจะออกหมายเรียกถ้าไม่มาจะออกหมายจับเพราะรู้ตัวแล้วว่าเป็นนางสิริมา ดำริห์ อายุ 30 ปี เวลาผ่านมาไม่มีความคืบหน้า จึงไปถามเป็นระยะตำรวจก็ตอบมาว่า ยังไม่ว่างงานเยอะ 


หลังจากนั้นไม่ค่อยจะกล้าไปหา ได้แต่แชทไลน์ถามคดี สุดท้ายตำรวจตอบในกลับมาว่า”ตำรวจไม่ได้มีเรื่องพวกเจ้าเรื่องเดียวเนาะ หันไปนั่นกะเรื่องหันไปนี่กะเรื่องมีแต่เรื่องของคนอื่นโอ้ยประสาทจะกินก่อนลาออก บางแชทตำรวจส่งภาพสำนวนมาให้ดู เขียนกำกับว่า”มายุบ้านกะบ่ได้อยู่ซือๆนำหมู่ดอกกะเอางานมาเฮ็ดไปนำ  “


จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนคนเดิม พอตำรวจเห็นหน้าตนเองได้เอนตัวพิงใส่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง พร้อมกับพูดว่า”เฮ้อไม่เห็นมาถามข่าวไม่มาติดตามคิดว่าไม่สนใจแล้ว”พร้อมกับอธิบายหลักการทำงานของตำรวจว่า ถ้าขอหมายศาลออกมาแต่เขาหนีไปที่อื่นแล้วไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนหมายจับที่ออกไปแล้วจะต้องตกค้างอยู่โรงพักโดนเจ้านายด่าอีก


นางชิตากาญจน์ กล่าวด้วยว่ารู้สึกน้อยใจที่ได้ยินคำพูดของตำรวจ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตอนนี้อยากให้ตำรวจออกหมายจับตามกระบวนการ เพราะอยากให้คนก่อเหตุรับรู้ถึงการกระทำเพื่อให้หลาบจำจะไม่ไปก่อเหตุในลักษณะแบบนี้อีก ยอมรับเหนื่อยใจกับตำรวจพวกนี้


นางชิตากาญจน์ กล่าวอีกว่าหากย้อนเวลาตอนที่หญิงคนนั้นมาขโมยเงินไปมันรู้สึกเจ็บใจมากโดยเฉพาะตอนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายขโมยเงินตัวเองแล้วมาซื้อของตัวเองในร้าน แถมแม่ค้าขายทุเรียนข้างร้านยังมาเล่าให้ฟังอีกว่าคนนั้นทำไมมีเงินจังซื้อทะเรียนราคาแพงทุกวันๆละ 2-3 ครั้ง ทั้งหมดเป็นเงินของตนเองทั้งสิ้น///////////////


ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง จ.บุรีรัมย์  รายงาน


คิวภาพ//การแชทไลน์กับตำรวจ//คลิปวงจรปิด//สภาพร้าน/เสียงเจ้าของร้าน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น